ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1115

เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในคริสตจักรไม่ได้มีใครใส่ใจเท่าไหร่ แต่คนของไร้ปรานียังคงบ้าคลั่งไม่หยุด

แทบจะทุกวันบนโต๊ะของเย่เทียนจะต้องมีบิลเรียกเก็บมาเป็นใบ ๆ หลายใบ ตัวเลขที่ระบุมาพอทำเอาคนทั่วไปหัวใจสั่นรัว แต่เย่เทียนได้แต่หยิบขึ้นมาดูตรงนั้น แล้วก็รูดการ์ดในมือ วันอันสวยงามเริ่มต้นจากการนั่งรับบิล

จิตใจเย่เทียนดีมากเท่าไหร่ ความรู้สึกของคริสตจักรก็แย่ลงตามนั้น

แผนลับของเมเจอร์ในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ดำเนินกันไปอย่างเงียบ ๆ แต่การดำเนินงานราบรื่นมาก แน่นอนว่าเป็นเรื่องนอกเหนือจากเรื่องน่าปวดหัวของการถูกลอบทำร้ายจากพวกไร้ปรานี

เทียบเคียงกับสมรรถนะทางด้านสมัครสมานสามัคคีของกองกำลังครูเสดแห่งคริสตจักรแล้ว กองทัพแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหน่วยรบจู่โจมเร็วจะแข็งแกร่งกว่าอย่างชัดเจน แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ก็ยังหลีกไม่พ้นจากการไล่ฆ่าของพวกไร้ปรานี

“ให้ตายเถอะ!ไอ้เจ้าพวกนอกรีต พวกมันน่าจะรับพิจารณาจับวางไว้บนไม้กางเขน!”

“ไอ้พวกสารเลวพวกนี้เมื่อวานนี้ยังบุกจู่โจมโบสถ์แสงสว่าง!ถ้าไม่ใช่เพราะไอัเจ้าแฟลิกส์ไปแหย่พวกมัน พวกมันก็คงจะไม่บ้ากันถึงขนาดนี้!”

เมเจอร์ได้ฟังเสียงบ่นจากข้างล่างถึงกับบีบนวดขมับด้วยความเครียด เคาะนิ้วใส่โต๊ะเบา ๆ “พอละ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะโยนความรับผิดชอบกัน ในเมื่อพวกมันจะกวน เราก็จะเปิดโอกาสให้มันสักครั้ง!”

“ปล่อยข่าวออกไปเลย การประชุมยอดมนุษย์จะเปิดในวันพรุ่งนี้!”

ได้ยินคำสั่งของเมเจอร์ เหล่าบรรดาบีชอปที่อยู่ข้างล่างต่างเงียบสงบลง ตามด้วยใครคนหนึ่งถามขึ้นแบบขอความเห็น “จะเป็นการฉุกละหุกไปหน่อยไหม?”

“ฉุกละหุกยังไง?ขืนปล่อยพวกนี้ป่วนต่อไป หน้าตาของคริสตจักรคงต้องถูกขายจนหมดรูปเป็นแน่!”

เมเจอร์ส่งเสียงฮึออกจมูกเบา ๆ

หลังจากกองทัพแสงศักดิ์สิทธิ์เข้ามาแทนที่กองกำลังครูเสดแห่งคริสตจักรอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทุกคนต่างก็ได้เห็นความโอบอ้อมอารีของท่านอาร์ชบิชอปกลับเพิ่มความน่าเกรงขามขึ้นมา!

“ท่านอาร์ชบิชอปพูดถูกแล้ว!ข้าจะสั่งคนกระจายข่าวออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”

“คาดว่าคนพวกนั้นคงจะกระโดดกันออกมาแล้ว พอดีจะได้ให้พวกมันได้เห็นความร้ายกาจของกองทัพแสงศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราบ้าง!”

คนทั้งกลุ่มต่างพากันอวยตามคำพูดของเมเจอร์ แต่ในใจเมเจอร์กลับรู้สึกเห็นไม่เข้าท่า ไอ้พวกลู่ไปตามลมใช้อะไรไม่ได้ เศษขยะทั้งนั้น!

แต่เวลานี้ยังจำเป็นต้องอาศัยพวกนี้สนับสนุนอยู่ ไม่งั้นเมเจอร์ไม่เสียดายเลยที่จะให้พวกนี้สาบสูญให้หมดไปเลย!

หลังจากการประชุมนี้สิ้นสุดลง หนุ่มน้อยในชุดคลุมสีทองที่แตกต่างกับคนอื่น ๆ ได้เดินเข้ามา

หนุ่มน้อยคนนี้มีหน้าตาที่หล่อเหลา ผมยาวสีทองสะท้อนแสงอาทิตย์ส่องแสบตาอยู่เล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าถึงขนาดทำเอาสาว ๆ คลั่งไคล้ได้

เดินไปอย่างช้า ๆ ถึงข้างหน้าเมเจอร์ หนุ่มน้อยรูปหล่อเอามือทาบที่อก โค้งคำนับอย่างนอบน้อม

“พาสแซท เจ้าทำได้ดีมาก งานการประชุมยอดมนุษย์นี้เจ้ามีความมั่นใจพอไหม?”

เสียงอันมีเสน่ห์ดึงดูดเฉพาะตัวของพาสแซท รีบตอบไปหลังจากได้ยินคำถามของเมเจอร์ว่า “ขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาร์ชบิชอป ข้าได้เตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว!”

“ดีมาก!” เมเจอร์ผงกหัว “เรื่องต่อไปก็ต้องมอบให้เจ้าแล้ว จงไปประกาศศักดาของกองทัพแสงศักดิ์สิทธิ์ให้โลกรู้ทั่ว!”

แววตาที่อ่อนโยนมาตลอดของพาสแซทส่องประกายเร่าร้อน พวกเขานี้ถูกบ่มเพาะเลี้ยงดูจนเติบโตมาด้วยมือของเมเจอร์ กับคำพูดของเมเจอร์นั้นไม่มีอะไรต้องสงสัย ในจิตใจของพวกเขา เมเจอร์คือทุกสิ่งทุกอย่าง!

มองพาสแซท หมุนตัวเดินจากออกไป เมเจอร์ผงกหัว ท่าทางเต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ

เย่เทียนก็ได้รับการแจ้งถึงกำหนดการเปิดงานประชุมยอดมนุษย์ด้วยเหมือนกัน มองดูบัตรเชิญที่วางอยู่ตรงหน้า เย่เทียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาที่มุมปาก “ปล่อยให้รอเสียนาน ในที่สุดก็ได้เริ่มเสียที!”

โดยเฉพาะตำราโบราณที่จำเป็นกับเขามากเล่มนั้น ในใจเย่เทียนเต็มด้วยความมุ่งหวัง

เย่เทียนไม่มีกะจิตกะใจยุ่งกับความรู้สึกหงุดหงิดใจกันของพวกคนในกลุ่มทีมสายฟ้า เขาเลี่ยงเงียบ ๆ ออกไปถึงที่พักของนานาโกะ

หลายวันมานี้กานโนเซน นากะยังรู้สึกชื่นมื่นอยู่ในใจ คิดอยู่แต่ว่าเย่เทียนโดนเก็บไปแล้ว แต่รอแล้วก็ไม่เห็น ฟูกูชิยูมะฟูกูชิยูมะกลับมา รอต่ออีกก็ยังไม่เห็นก็เลยรู้สึกว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่แล้ว จึงได้ไปที่บ้านพักของนานาโกะ

ก็บังเอิญกับเย่เทียนกลับเข้ามาพอดี ยังไม่ทันให้ได้คุยกับนานาโกะสักคำสองคำ ไอ้เจ้านี่ก็โผล่เข้ามา

“ชิชะ เห็นทีข้านี่มาได้จังหวะพอดีจริง ๆ !”

นานาโกะมองหน้าเขาไปหน่อย สีหน้าสงบเหมือนน้ำนิ่ง กับผู้หญิงที่เย่เทียนรู้จักมา ก็มีนานาโกะคนเดียวคนนี้แหละที่ยังคงปั้นหน้ามึนตึงมาอยู่ตลอดเวลาที่คบกันมายาวนานขนาดนี้

นี้ทำให้เย่เทียนรู้สึกสงสัยอยู่ว่าเสน่ห์ในตัวเองจะถดถอยไปมากแล้วมัง

“เอาเหอะ ท่านผู้นี้เป็นผู้มีพระคุณในการพาเราเข้าไปในงานการประชุมยอดมนุษย์ จะไปมองข้ามเขาได้ยังไงกัน?”

พูดแล้วเย่เทียนก็หัวเราะเสียงเหอ ๆ เดินเข้าไปเปิดประตู

เห็นใบหน้าทะเล้นหัวเราะของเย่เทียน กานโนเซน นากะอึดอัดใจเหมือนกับกินแมลงว้นเข้าไปเต็มปาก แม่งเอ๊ย ไอ้หมอนี่ยังไม่ตายอีก หรือจะว่าเจ้าฟูกูชิยูมะฟูกูชิยูมะเอาเงินไปแล้วเบี้ยวไม่ทำงาน?

แต่นั่นไม่ใช่ลักษณะการทำงานของเขานะ!

“คุณจ้งเฟิงเป็นลม เอ้ย ไม่ใช่ คุณนากะ ท่านก็มาด้วย?”

กานโนเซน นากะแทบจะกระอักเลือดพ่นสิออกมา ไอ้หมอนี่แกล้งล้อกันชัด ๆ !กล้าดีมาท้ากวนกับข้า มันรู้สึกจะอยู่จนเบื่อชีวิตแล้วมั้ง

แต่พอคิดถึงนานาโกะ กานโนเซน นากะก็ได้แต่ตีหน้าหนาวเยือกไม่ไปใส่ใจ ใช้แรงกระแทกไหล่เย่เทียน เดินเข้าไปในห้อง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่