ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1297

เขาฝูถูสมแล้วที่เป็นภูเขาอันดับต้นๆของตงอิ๋ง ตลอดทางเต็มไปด้วยต้นไม้ป่าไพรอุดมสมบูรณ์ ไม่ค่อยมีคนอาศัยอยู่เลย

โดยเฉพาะการยืนอยู่บนครึ่งของภูเขาแล้วมองย้อนกลับไป มันทำให้ผู้คนรู้สึกผ่อนคลายมากจริงๆ

บนภูเขามีสนามหนึ่ง มีคำเขียนเอาไว้

โอฮาระ ฟุคุรินำกำลังคนกลุ่มหนึ่งรออย่างเงียบๆ แต่ละคนมีสีหน้าที่แตกต่างกันออกไป มีเพียงเขาที่เงียบเฉยไร้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

“มาแล้ว!”

ตามด้วยเสียงพึมพำของเขา เย่เทียนก็ปรากฏขึ้นสู่สายตาของทุกคนช้าๆ

“บรรยากาศไม่เลวเลย!”

เย่เทียนยืดแข้งยืดขา ไม่มีความเป็นยอดฝีมือเลย ร่างกายแผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายของความเกียจคร้าน

พอเห็นทุกคนมองมาแล้วก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ตื่นเต้นขนาดนี้ทำไมกัน มีเพื่อนมาจากแดนไกลก็ควรจะยินดีไม่ใช่เหรอ?หรือนี่เป็นวิธีการต้อนรับแขกของตงอิ๋ง?”

“พวกเราต้อนรับไม่ดีเอง!”

โอฮาระ ฟุคุริมักจะเป็นคนยอมรับผิดคนแรก และเป็นคนยิ้มได้อ่อนโยนมากที่สุด

“เสิร์ฟเหล้า!”

โอฮาระ ฟุคุริตบโต๊ะ ไม่นานก็มีพนักงานกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ถาดเสิร์ฟในมือมีขวดเหล้าและแก้มดื่มเล็กๆ

“พวกเราเสิร์ฟเหล้าแล้ว แต่จะกล้าดื่มไหมก็แล้วแต่นายเลย!”

คาวาอิยูแสยะยิ้มเย็นชา ยังคงมองด้วยสีหน้าดูถูก เห็นแล้วก็หมั่นไส้จนอยากชกเขาสักหมัด

“ตลกแล้ว!”

เย่เทียนแสยะยิ้มเย็นชา ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มหนึ่งคำ จากนั้นก็หันไปมองโอฮาระ ฟุคุริ “เหล้าดี!ฉันชอบเจ้าบ้านที่ลงทุนเก่งอย่างนาย!”

“อย่าพูดมาก!” คาวาอิยูข่มอารมณ์โกรธไว้นานแล้ว เขาตบโต๊ะลุกขึ้นมาพูดว่า “มาเจอของจริงหน่อยดีกว่า!วันนี้ไม่นายตาย ก็ฉันตาย!”

“คาวาอิยู ช้าก่อน!”

การจู่โจมของคาวาอิยูยังไม่รอให้เย่เทียนพูด ผู้อาวุโสสามคนที่นั่งอยู่ข้างขวาก็ลุกขึ้นมา ปัดมือให้เขานั่งลง

“ตามหลักแล้วควรให้คนแก่อย่างพวกเราไปก่อน!”

เขาพูดจบก็ไม่สนใจสีหน้าโกรธเคืองของคาวาอิยู เดินไปข้างสนามช้าๆ สายตามองตรงไปยังเย่เทียน

“ได้ยินจากเซนกิมา เจ้าหมอนั่นบอกว่านายเป็นผู้ที่รู้ซึ้งในกีฬาดาบที่แท้จริง พวกเราสามคนก็เข้าใจมาบ้าง ได้ยินมาว่าประเทศนายมีคำพูดหนึ่งบอกไว้ว่า หากตอนเช้าได้รู้แจ้งถึงสัจธรรมแล้ว คืนนั้นแม้ตายก็นอนตาหลับ!”

“พวกเราเป็นคนที่ใกล้ตายแล้ว ไม่อยากเหลือความเสียใจไว้ภายหลัง!”

ผู้อาวุโสสามคนยืนเรียงรายกัน

“พวกนายมีสิทธิ์บอกชื่อทิ้งไว้!” เย่เทียนไม่ได้ปฏิเสธ พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

พวกผู้อาวุโสไม่ได้คิดอะไร ยิ้มแล้วแนะนำตัวเองกับเย่เทียนทีละคน

“คาวาซาริ โอดะ เคซาโอะ!”

“เคียวเฮรึ อาเบะ ฮิเดะ!”

“ฮิกาชิคาวา ไทเซ โชชู!”

ผู้อาวุโสทั้งสามเป็นผู้ก่อตั้งที่ไม่ว่าจะพูดชื่อของคนไหนก็สั่นสะเทือนไปทั้งตงอิ๋งทั้งนั้น และพวกเขายังมีฉายาเดียวกันอีกว่า ปราชญ์กระบี่!

ปราชญ์กระบี่ของพวกเขาแตกต่างจากเซนกิ

เซนกิมาจากกลุ่มพรรคอิสระ และพวกเราสามคนก็เปิดสำนักกันเอง สู้จนมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ ความยากลำบากในนั้นรวมไปถึงความทรมานที่ต้องเผชิญเป็นสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึงกันเลย

ถึงว่าพวกเขาถึงดูถูกเซนกิ

เย่เทียนลุกขึ้นยืน “สำนักชิงหนัง เย่เทียน!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนประกาศชื่อสำนักตัวเอง และชื่อของสำนักของทำเอาทุกคนตกตะลึง สำนักชิงหนัง?นี่มันอะไรกัน!

ในข้อมูลบอกว่าเย่เทียนไม่มีสำนักไม่มีอาจารย์ไม่ใช่เหรอ?สำนักชิงหนังมาจากไหนอีก!

ทันใดนั้นข้างล่างก็มีเสียงวุ่นวายดังขึ้น เย่เทียนอดไม่ได้เลิกคิ้ว เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย

สุดท้ายนานาโกะก็มาสินะ

เย่เทียนออกมาแล้ว สุดท้ายเธอก็ไม่ไว้ใจ ไม่ว่าเย่เทียนจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เธอก็ต้องอยู่ในเหตุการณ์ด้วย! นี่เป็นความดื้อรั้นของเธอ และเป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง

ส่วนการเข้าร่วมของเธอจะสร้างผลกระทบอะไรต่อตระกูลนากามูระ เธอไม่ได้คิดเลย

เธอมีแค่ความคิดเดียว เธอจะต้องมาให้ได้!

“เธอมาทำไม?” จะบอกว่าเย่เทียนไม่ซาบซึ้งก็คงไม่จริง ถึงแม้คืนนั้นจะโดนนานาโกะวางยา แต่นั่นก็พิสูจน์การตัดสินใจของนานาโกะได้

“ฉันจะมาดูนายต่อสู้!”

นานาโกะพูดเสียงดังฟังชัด

“ขายขี้หน้าตงอิ๋งจริงๆ!ตระกูลนากามูระดูแล้วจะต้องโดนสั่งสอนแล้วนะ!”

บอดี้การ์ดที่ตามมาก็โกรธเคืองมาก และด่านานาโกะฉอดๆ

“นายคู่ควรงั้นเหรอ?”

ทันใดนั้นเย่เทียนก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “เพื่อนของฉัน พวกนายคู่ควรงั้นเหรอ?”

พลังความโหดแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา ถึงแม้จะอยู่ในระยะไกล พลังของเย่เทียนก็กระแทกเข้ากับร่างกายของกลุ่มบอดี้การ์ดได้

“แกรก แกรก!”

เสียงกระดูกแตกร้าวดังขึ้น หัวหน้าบอดี้การ์ดคนนั้นถูกพลังของเย่เทียนกดทับจนละเอียดไม่มีชิ้นดี!

การกระทำนี้ทำเอาทุกคนในสนามเงียบกันหมด

ถึงแม้คาวาอิยูที่โอหังมากที่สุดก็ยังอดไม่ได้ตกตะลึงจนเบิกตาโพลง

“เรื่องนี้ฉันจะรายงานนายเอง!” โอฮาระ ฟุคุริโค้งคำนับต่อเย่เทียนอย่างจริงจัง “ไม่ว่าผลวันนี้จะเป็นยังไง ตระกูลนากามูระกับนานาโกะจะเป็นเพื่อนที่ดีขององเมียวจิ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่