ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1305

ดาบยักษ์ค่อยๆมาถึงด้านหน้าของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง

ในขณะนี้อากาศบนท้องฟ้านี้ดูเหมือนจะแตกต่างจากภายนอก ยกเว้นดาบยักษ์ที่เคลื่อนไหวอย่างๆช้า นอกนั้นก็ไม่ได้ขยับเลย

แต่ในใจของเย่เทียนก็รู้ชัดเจนดี ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการขยับ แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถขยับได้เลยต่างหาก! รวมทั้งตัวเขาเองด้วย!

“ของสิ่งนี้มีพลังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้!”

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เย่เทียนเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

และสิ่งที่ทำให้เขาสีหน้าเปลี่ยนก็คือการสิ้นสิ้นเปลืองพลังของดาบยักษ์ ณ เวลานี้เหมือนกับสัตว์ร้ายที่กลืนกินพลังชี่แท้ ดูดเขาจนแห้งทันที!

“รีบฆ่ามันทิ้งซะ!”

หัวใจของเย่เทียนถูกกระตุ้นขึ้นทันที

พลังชี่แท้ที่อยู่ในเส้นลมปราณมีน้อยมาก ดังนั้นขั้นตอนต่อไปได้แต่ดึงมาจากยาทอง แต่ปัญหาคือเมื่อพลังชี่แท้ในยาทองไหลออกไปในปริมาณมาก นั่นก็จะเป็นการทำร้ายถึงแหล่งที่มา!

หากไม่สามารถชดเชยความสูญเสียในครั้งนี้ได้ งั้นเขาก็คงเสียหายมากจริงๆ!

แต่ว่าเขาสามารถประคับประคองมาถึงตอนนี้จำเป็นต้องขอบคุณสมาคมองเมียวจิ ที่ฝั่งค่ายกลชี่ทิพย์ใต้เขาฝูถู

เมื่อกี้ตอนโอฮาระ ฟุคุริปลุกเรียกปีศาจจิ้งจอกเก้าหางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางได้ดูดซับไปไม่น้อย แต่เย่เทียนก็แอบดูดซับไปมากเช่นกัน

แต่เสียดายหลังจากดาบนี้แทงไปความเจ้าเล่ห์ของเขาที่แอบดูดซับชี่ทิพย์ไม่เพียงแต่ต้องคืนออกไปจนหมด และยังต้องเพิ่มไปให้อีกด้วย!

ไม่ว่าจะคำนวณอย่างไร การค้าครั้งนี้ก็ขาดทุนอยู่ดี

สิ่งสำคัญที่สุดคือถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปมันจะทำลายถึงพลังชี่แท้ในร่างตนเองด้วย ซึ่งก็คือได้ไม่เท่าเสีย

ในขณะที่จิตใจเขารู้สึกกังวลหงุดหงิดจนถึงขีดสุด ทันใดนั้นดาบยักษ์ที่ดูดซับพลังชี่แท้ของเขาก็หยุดลง

“ดี!”

เย่เทียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ร้องคำว่าดีออกมาโดยไม่รู้ตัว

แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่คาดคิดก็คือแม้ว่าดาบยักษ์จะหยุดดูดซับพลังชี่แท้ของเขาก็ตาม แต่ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

แสงสีขาวที่ส่องประกายเจิดจ้า แม้แต่เย่เทียนก็ไม่สามารถทนไหว ดังนั้นเขาจึงหลับเองโดยไม่รู้ตัว

“อ๊ะ! เย่เทียน! ฉันจะไม่มีวันปล่อยแกแน่! ซื่อเสินฆ่าไม่ตายหรอก! แต่แกจะต้องถูกคำสาปแช่งของฉันเป็นเวลาหลายล้านปี! ฉันจะฆ่าแก!”

ปีศาจจิ้งจอกเก้าหางคำรามเสียงดังกึกก้องทั่วโลกด้วยความโกรธ

เช่นนี้แล้วผลที่ออกมามองเห็นได้อย่างชัดเจน

“ตูม!”

พร้อมกับเสียงคำรามของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เสียงคำรามดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว เย่เทียนรู้สึกถึงคลื่นความร้อนพัดมาทางเขา ชั่วขณะก็ถูกปลิวออกไปทันที

แรงระเบิดที่กดขี่ข่มเหงนี้ พูดตามตรงคาดว่าเขาฝูถูทั้งภูเขาคงถูกระเบิดจนไม่เหลือแล้ว

ส่วนนานาโกะ……

เธอจะรอดชีวิตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชดชะตาแล้ว คราวนี้ตระกูลนากามูระได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย ไม่แน่อาจมีบางสิ่งที่คอยคุ้มครองชีวิต บางทีอาจมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะมีความหวังที่จะมีชีวิตรอด

“คิดไม่ถึงว่าแกจะมาถึงจุดนี้ได้ ทำให้ฉันประหลาดใจมากจริงๆ!”

เสียงที่นุ่มนวลแว่วมาข้างหูเย่เทียน

และทันทีที่ประโยคนี้ออกมาทำให้รูม่านตาของเย่เทียนหดตัวลงทันที

“ใคร!”

“นายอยากเจอฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอ? นายทำให้ฉันได้ดูฉากการแสดงดีๆ! อีกอย่างฉันก็ต้องขอบคุณนายมากจริงๆ ถ้าไม่มีนายสิ่งของที่ล้ำค่าที่ฉันปรารถนาอย่างยิ่งคงไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ!”

เสียงที่นุ่มนวลเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความอวดดี

และเย่เทียนพอจะรู้ถึงสถานะของอีกฝ่าย “หย่งเย่! ในที่สุดนายก็ปรากฏตัว!”

“หืม? ความรู้สึกแรกของนายไม่ใช่กลัวหรอกเหรอ?”

หย่งเย่หัวเราะอย่างเศร้าสร้อย “องเมียวจิ พวกนี้มอบงานดีๆให้ทำแต่กลับทำไม่สำเร็จแต่กลับมีแต่เรื่องแย่ๆวุ่นวาย ต้องรู้ว่าเรื่องพลังฟ้าดินนี้แม้แต่ฉันก็ไม่สามารถต้านทานได้”

และตรงหน้าหย่งเย่มีผู้หญิงที่หมดสติคนหนึ่ง นั่นก็คือนานาโกะ

“นายว่าหากฉันจะดึงเอายาเทพออกมาจากร่างกายของนายตอนนี้ แล้วยาเทพจะยังใช้ได้ผลอยู่ไหม?”

หลังจากหย่งเย่พูดจบก็หันมามองเย่เทียน

แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจน แต่เย่เทียนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มเยาะเย้ยของอีกฝ่าย

“นายก็ลองดูได้!”

เย่เทียนพูดเสียงเบาๆ

ใช้สิ่งนี้มาข่มขู่เขา? เย่เทียนคงไม่ถึงกับถูกหลอกง่ายๆ ในเมื่อหย่งเย่อยากเล่นเย่เทียนก็ไม่รังเกียจที่จะเล่นด้วย ในเมื่อสิ่งที่เขาขาดที่สุดในตอนนี้ก็คือเวลา!

เนื่องจากพลังชี่แท้จำนวนมากกำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แม้ว่าเส้นลมปราณของเย่เทียนจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดราวกับถูกมีดบาด

แม้ว่าความเจ็บปวดในร่างกายจะเหลือทน แต่สีหน้าของเย่เทียนก็ยังไม่ได้เปลี่ยน

“เฮ้ย ช่างมันเถอะ ในเมื่อฉันค่อนข้างกลัวกลิ่นคาวเลือดมากกว่า!”

คำพูดของหย่งเย่มันน่าขยะแขยงที่สุด

เพื่อประโยชน์ของตนเองแล้วไม่รู้ว่าหย่งเย่สร้างบาปไปเท่าไหร่ ทำให้คนบ้านแตกสาแหรกขาดไปมากแค่ไหน ตอนนี้ถึงกับมาแสร้งทำเป็นบอกว่าเขากลัวกลิ่นคาวเลือด?

เล่นเหรอ?

เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ “เรื่องกระดาษทองตกลงเรื่องมันเป็นยังไง? ด้วยความสามารถของฉัน บางทีอาจช่วยนายได้!”

หย่งเย่มองเขาอย่างลึกซึ้ง “ฉันเคยบอกแล้ว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะกระดาษทองสำคัญมาก ฉันอยากเป็นเพื่อนกับนายจริงๆนะ!”

“แต่น่าเสียดาย ปรมาจารย์กลั่นยาอย่างนายถ้าเทียบกับกระดาษทองแล้วยังไม่มีค่าพอ!”

หย่งเย่อาจรู้สึกว่าตนเองคงชนะแน่กระมัง ถึงแม้ว่าเขาจะดูออกว่าเย่เทียนกำลังลองเชิงถามเขาก็ไม่ได้เปิดเผย

“นั่นคือชาติที่แล้วก่อนที่จะดับสลายพลังได้ถ่ายทอดพลังภายในสืบต่อกันมา” หลังจากหย่งเย่พูดจบก็มองเย่เทียนอย่างลึกซึ้ง “ถ้ามันเป็นเพียงพลังภายในอย่างเดียวฉันคงไม่ยึดแน่นขนาดนี้ แต่กระดาษทองเป็นสมบัตินำโชคในสมัยนี้ ถ้าได้มันก็จะเจริญก้าวหน้าไปอีกขั้น นายคิดว่าทางเลือกของฉันผิดด้วยเหรอ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่