ผู้สังเกตการณ์ก็จากไปเช่นนี้ และก่อนจะจากไปเขายังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่ร่างกายของเย่เทียนด้วย
ไม่รู้ว่าจริงๆว่เป็นเพราะห่วงใยเย่เทียนหรือฉันกังวลว่าเย่เทียนตายแล้วและไม่มีใครกลั่นยาวิเศษยาเทพที่อร่อยๆให้เขา การคาดเดาอย่างแรกเป็นเพียงการเข้าข้างตัวเองของเย่เทียน และอย่างหลังเห็นได้ชัดว่าสอดคล้องกับสถานการณ์จริง
ในการต่อสู้ครั้งนี้ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าจะมีปัญหามากมายเช่นนี้
ตัวเย่เทียนเองก็ไม่คาดคิดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการปรากฏตัวของหย่งเย่
ในสมองปรากฏลักษณะของหย่งเย่ เย่เทียนกำหมัดของตัวเองไว้แน่น ผู้ชายคนนี้สมควรตายจริงๆ!
ครั้งต่อไปถ้าพบเย่เทียนฉันจะไม่ให้โอกาสเขาหลบหนีอีก!
เดิมทีเขาฝูถูที่สูงตระหง่านตอนนี้ได้หายไปแล้ว แม้ว่าก่อนที่ผู้สังเกตการณ์จะจากไปท้องฟ้าให้กลับสู่สภาพเดิมแล้ว แต่สำหรับเขาฝูถูที่อยู่ข้างล่างเขาไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียว
“ขอขอบคุณพวกนายมาก!”
เย่เทียนเหลือบมองกองกำลังพิเศษที่เพิ่งทำลายตัวเอง แล้วนั่งขัดตะหมาดบนพื้น
แม้ว่าร่างกายของเขาจะได้รับการรักษาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่อาการบาดเจ็บก็ยังรุนแรงอยู่
อีกประเด็นหนึ่งคือเมื่อสักครู่ยาทองของเย่เทียนไม่ได้แตกสลาย แต่เนื่องจากความโกรธทำให้เขาสามารถบุกทะลวงไปอีกระดับหนึ่งโดยตรง
การแตกสลายของยาทองไม่มีผลกระทบต่อเขา แต่กลับทำให้เขาเข้าใกล้แดนสงบดวงจิตอีกขั้น
เดิมทีนี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสมาชิกกองกำลังพิเษศษเหล่านั้นที่เสียสละเพื่อตนเอง ดวงตาของเย่เทียนก็เปียกโชกอีกครั้ง
การนั่งขัดตะหมาดอยู่บนพื้น เย่เทียนเริ่มร่ายมนตร์การเกิดใหม่และการทำให้สมาชิกในทีมที่เสียสละชีวิตไปแล้วได้ไปเกิดใหม่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้
เฝิงเจิ้นเหอและคนอื่นๆค่อยๆตื่นขึ้น และสิ่งแรกที่พวกเขาทำเมื่อตื่นขึ้นคือรีบหันกลับมามองที่เย่เทียน
“นายพลเย่!”
ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเย่เทียน “ทำให้ทุกท่านลำบากแล้วล่ะ!”
“ไม่ลำบบากเลย!” เฝิงเจิ้นเหอส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม:“หย่งเย่ไอ้ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ไหน?”
“หนีไปแล้ว!”
เย่เทียนกล่าวด้วยความเสียใจ
“หนีไปแล้ว?” เฝิงเจิ้นหอเบิกตากว้าง มองเย่เทียนอย่างไม่เชื่อ และในที่สุดก็ยกนิ้วโป้งให้ด้วยความชื่นชม
“พี่น้องผู้เสียสละเหล่านี้มีลูกหรือไม่?” เย่เทียนถามขึ้นทันที
“มี!” แววตาของเฝิงเจิ้นเหอมีแววความเศร้าโศกแวบเข้ามา “ลูกชายของหลี่ฉ่วงเป็นต้นกล้าที่ดี ในปัจจุบันอยู่ในกองกำลังพิเศษของกลุ่มเยาวชนของ แต่สำหรับลูกของหยางเวย เป็นคนพิการ ช่วงหลายปีที่ผ่านเขาทุ่มเทแรงใจไปมากเพื่อโรคที่แปลกประหลาดเช่นนี้
“อืม! ฉันเข้าใจแล้ว จอมพลเฝิง เรื่องที่ฉันจะก่อตั้งสำนักคิดว่าคุณคงจะรู้แล้ว และทั้งสองนี้ฉันได้จองไว้แล้วนะ!”
หลังจากเย่เทียนพูดจบก็โค้งคำนับให้ฝูงชน “พี่น้องทุกท่านถ้าเชื่อใจผม ก็สามารถส่งลูกๆมาที่สำนักชิงหนังของฉันได้!”
ทุกคนจ้องมองหน้ากัน แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ความสามารถของเย่เทียนเป็นเช่นไรทุกคนรู้ดี ตามคำกล่าวที่ว่ามีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงย่อมมีลูกศิษย์ที่เก่งกาจ หากสามารถให้เย่เทียนเป็นผู้ฝึกสอน ถ้างั้นในอนาคตลูกของพวกเขาจะก้าวข้ามพวกเขาได้นั้นเป็นเรื่องที่แน่นอนที่สุด
แม้แต่ผู้บำเพ็ญก็ให้ความสำคัญกับลูกหลานของพวกเขามาก และเมื่อต้องเผชิญโอกาสเช่นนี้แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ปฏิเสธแน่นอน
เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ คำว่าพี่น้องที่เย่เทียนพูดเมื่อกี้ทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจ
ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขาไม่ได้ช่วยผิดคน!
“ไปกันเถอะ ไปดูสมบัติล้ำค่าที่สมาคมองเมียวจิได้รวบรวมมานานหลายปี!”
เย่เทียนกล่าวอย่างแผ่วเบา
ฃเฝิงเจิ้นเหอดวงตาเป็นประกาย “ดูเหมือนว่าคราวนี้จะมีของล้ำค่าอีกแล้ว!”
“ถึงแม้ว่าองเมียวจิจะแข็งแกร่งพอ แต่แนวคิดบางอย่างก็ไม่เหมือนกับพวกเรา หากฝืนใจในการฝึกฝนมันจะนำไปสู่ปัญหาที่ไม่จำเป็น” เย่เทียนเป็นผู้นำและเดินไปข้างหน้า “แต่ในตัวของคนเหล่านี้มีสมบัติล้ำค่ามากมาย มันก็เพียงพอต่อการพัฒนากองกำลังพิเศษ”
“ฮึฮึ นายกล้าไหม?”
เย่เทียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม ซึ่งทำให้สีหน้าของนากาตะ จุนเหอดูเขินอายเล็กน้อย แต่ไม่กล้าแสดง ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเปิดประตูห้อง
ท้ายที่สุดเย่เทียนก็ประเมินค่าองค์กรนี้ที่มีความมั่งคั่งและมีคนตงอิ๋งแอบควบคุมมาหลายร้อยปีต่ำไป
เมื่อมองไปที่สมบัติล้ำค่าที่เหมือนภูเขาเล็กๆ แม้แต่เย่เทียนก็ไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัสดุยาที่ไม่มีในที่ใด อยากซื้อยังไม่สามารถไปหาซื้อจากที่ใด
แต่กลับกองอยู่ในห้องสมบัตินี้!
ทำลายล้างทุกสรรพสิ่งในโลก!
“นี่เป็นเพียงหนึ่งในนั้น สักครู่ฉันจะพาพวกนายไปที่ห้องสมบัติอีกสามห้อง!” นากาตะ จุนเหอมองที่เย่เทียนและพูดพลางขยับและโค้งตัว
เย่เทียนพูดไม่ออก
ควรจะกล่าวว่าทัศนคติของนากาตะ จุนเหอนั้นสมควรได้รับการยอมรับจริงๆ และก็น่าจะเป็นคนที่ผลาญสมบัติพ่อแม่!”
“ดีมาก! ฉันคิดว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้!”
สำหรับคนประเภทนี้เย่เทียนยังมีความสุขที่จะพูดคำดีๆ เมื่อเทียบกับคำพูด สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้ดูสมจริงกว่าอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับนากาตะ จุนเหอในใจกำลังคิดอะไรอยู่นั้น เขาไม่แคร์เลยสักนิด!
สิ่งที่นากาตะ จุนเหอต้องการคือทัศนคติของเย่เทียน แอบเหลือบมองเย่เทียนอย่างเงียบๆ และร่างกายของนากาตะ จุนเหอยิ่งโค้งลง “มีเพียงชายชราสองสามคนที่ต้องการท่านไปจัดการ มิฉะนั้นสมาคมองเมียวจินี้อาจจะมีวิบัติที่ซ่อนเร้น”
แม่งเอ้ย ช่างโหดร้าย!
คนที่เก่งกาจจริงๆจะไม่แสดงตัวตนออกมา!
เย่เทียนก้าวไปข้างหน้าและตบไหล่เขา “นากาตะคุง ไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยนาย!”
ในขณะที่พูดได้มีพลังงานแทรกซึมเข้าไปในไหล่ของเขาอย่างเงียบๆ คนแบบนี้ ไม่ป้องกันไว้ไม่ได้! สำหรับผู้โชคร้ายเหล่านั้น เย่เทียนยินดีที่จะช่วยเหลือ แน่นอนว่าสมาคมองเมียวจิยิ่งทุกข์ยากเขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...