หัวหน้าของหน่วยพิเศษชิงหยางสวี่ชิงเฟิงใบหน้าแทบไม่เคยแสดงความรู้สึกใดๆเลย ดูแล้วลักษณะเหมือนซื่อบื้อมาก
เมื่อเซียวเหอซินนำพาคนของสำนักหลินอีทั้งหมดสร้างเป็นวิชาค่ายกล สวี่ชิงเฟิงก็ยังคงแสดงท่าทีที่ซื่อบื้อเช่นเคย
“ถอย!”
สมาชิกในทีมของหน่วยพิเศษชิงหยางยังคงเข้าไปปะทะกับวิชาค่ายกล หลังจากประลองฝีมือกันแล้วสวี่ชิงเฟิงจำต้องสั่งให้ถอย
โอกาสที่พวกเขาจะได้สัมผัสวิชาค่ายกลนั้นมีน้อยมาก ในเมื่อศัตรูที่พวกเขาต้องเผชิญบ่อยๆคือสัตว์ปีศาจ สัตว์ปีศาจซึ่งมีพลังมากกว่าตนเองหลายเท่า!
ดังนั้นจุดเด่นของพวกเขาก็คือมีพลังการต่อสู้ได้แข็งแกร่งและยาวนาน!
ถึงแม้จะล่าช้าแต่ก็สามารถฆ่าสัตว์เหล่านั้นให้ตายได้ ในทางกลับกันตอนนี้ได้เจอค่ายกลของสำนักหลินอี พวกเขากลับรู้สึกว่าหมดหนทาง
โชคดีที่นักพรตเหอได้คาดการณ์จุดนี้ไว้แล้ว
เมื่อเทียบกับเย่เทียนไอ้คนที่ขาดความรับผิดชอบ คำชี้แนะของนักพรตเหอที่มีต่อกองกำลังพิเศษนั้นชัดเจนมากกว่า
“วิชาค่ายกลนี้เน้นถึงการประสานงานและการหมุนเวียน แต่ทุกสรรพสิ่งในโลกไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถทำลายได้ การรักษาวิชาค่ายกลให้คงอยู่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานมาก และเมื่อปริมาณสิ้นเปลืองพลังถึงจุดวิกฤติ ไม่ว่าวิชาค่ายกลจะสมบูรณ์แบบเพียงใดก็ย่อมต้องมีข้อบกพร่อง!”
“สู้สุดชีวิต!”
สวี่ชิงเฟิงไม่เสียเวลา มองดูวิชาค่ายกลของเซียวเหอซินและคนอื่นๆอย่างละเอียดจากนั้นจึงตัดสินใจเลือกใช้กลยุทธ์
สู้สุดชีวิต นั่นคือวิธีที่พวกเขาเชี่ยวชาญที่สุด
ในความเป็นจริงตอนที่คนของกองกำลังพิเศาฝึกคู่กับเฉิงชิ่ง หน่วยพิเศษชิงหยางได้สร้างความยุ่งยากให้เขามาก! แม้ว่าวิธีการต่อสู้สุดชีวิตแบบนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือและความเข้าใจของพวกเขาที่ใช้เวลาหลายปี แต่หากเจาะลึกลงไปมันไม่ใช่แค่ค่ายกล!
นี่ต้องเป็นการต่อสู้ที่ยาวนานที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นมา
คู่อื่นๆบนสังเวียนล้วนเปลี่ยนไปสองรอบแล้ว แต่ละกลุ่มต่างก็มีผู้ชนะและผู้แพ้ แต่ในทางตรงกันข้าม หน่วยพิเศษชิงหยางกับสำนักหลินอีก็ยังคงไม่รู้แพ้รู้ชนะ!
สวี่ชิงเฟิงและคนอื่นๆราวกับเป็นหุ่นยนต์ อยู่ภายใต้การจู่โจมที่ยาวนานเช่นนี้ความว่องไวยังเหมือนเดิม ความเหนียวทนทานนี้ทำให้หลายคนตกตะลึง
คาดว่าในเริ่มแรกใครก็คิดไม่ถึง เริ่มต้นแรกๆที่ยืนหยัดไม่ได้ถึงกับเป็นสำนักหลินอี!
ในเมื่อเซียวเหอซินเป็นถึงผู้นำ พลังบำเพ็ญอยู่ที่ไหน ถึงสามารถยืนหยัดต่อไปได้ แต่ศิษย์น้องเหล่านั้นคงไม่ไหวแล้ว!
ค่ายกลนี้เน้นการก่อตัวรวมเป็นหนึ่งเดียว เมื่อมีคนถูกทำลาย ทั้งค่ายกลก็จะแตกสลายและพ่ายแพ้ไปเอง
ตอนเริ่มแรกเซียวเหอซินยังหน้าตาเบิกบานแจ่มใส คิดแต่ตนเองสามารถทำให้อีกฝ่ายตายได้ เขาถึงขั้นคาดการณ์ท่าทีที่หายใจหอบเหนื่อยของอีกฝ่าย แต่ใครจะไปคิดว่าคนแรกที่ทนไม่ไหวถึงกลับเป็นพวกเขาเอง!
สคริปต์นี้ไม่ถูกนะ!
ก่อนลงสนามพวกเขาถูกแจ้งให้ทราบว่าจำเป็นต้องชนะการแข่งขันครั้งนี้ ขอเพียงพวกเขาทำสำเร็จ เมื่อถึงตอนนั้นก็จะมอบทรัพยากรเพิ่มเป็นสองเท่า!
แต่ดูจากตอนนี้ พวกเขากลับเป็นฝ่ายแพ้!
“อ๊ะ!”
ในขณะที่เซียวเหอซินอยู่ในอารมณ์สลับซับซ้อน จู่ๆก็มีเสียงกรีดร้องมาจากด้านหลัง
“แย่แล้ว!”
ในใจเซียวเหอซินตะโกนคำว่าแย่แล้ว แล้วรีบหันหลังคิดอยากช่วยศิษย์น้องของตนเอง
แต่สวี่ชิงเฟิงจะพลาดโอกาสที่ดีนี้ได้อย่างไร? สู้กันเป็นเวลานานก็รอจังหวะนี้ไม่ใช่เหรอ?
ขณะที่เซียวเหอซินหันกลับมา การโจมตีของสวี่ชิงเฟิงก็มาถึงเช่นกัน
“ไสหัวไปใหเพ้น!”
ดาบยาวของเซียวเหอซินยกขึ้น คิดจะขัดขวางดาบสั้นของสวี่ชิงเฟิง แต่ในขณะที่ดาบยาวกับดาบสั้นปะทะกันนั้น ก็มีพลังมหาศาลส่งเข้ามา!
เขาไม่เพียงแต่ไม่ได้ปัดดาบของสวี่ชิงเฟิง ออกไป แต่ตัวเขาเองยังได้รับผลกระทบอย่างแรง!
“นี่เป็นไปไม่ได้! ทำไมนายยังมีพลังเยอะขนาดนี้!”
สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ทับทิมที่อยู่ในมือถูกเขาบีบขยี้จนแตกละเอียด และพลังประหลาดก็พุ่งไปบนสังเวียนที่กำลังตัดสินแพ้ชนะ
“อ๊ะ!”
เดิมทีสำนักหลินอีและคนอื่นๆที่กินยาระเบิดจิตพลังเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและบวกกับแสงจากพลังนี้ที่เพิ่มเข้ามาก็ยิ่งดุดันมากขึ้น ดวงตาทั้งคู่ของทุกคนแดงก่ำ และปลายเสื้อมีแสงสีแดงแวววาวปรากฏออกมาต่อเนื่อง
“ฆ่า!”
“ตายซะ ไปตายให้หมด!”
คนเหล่านี้ราวกับเป็นคนบ้า วิ่งพุ่งเข้าไปหาสวี่ชิงเฟิงและคนอื่นๆ กระทั่งพวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่างกายของตนเอง ถึงแม้แขนจะถูกคนอื่นตัดขาดก็ตาม ก็ยังคงสู้ตายเพื่อฟันคนของกองกำลังพิเศษ
ถ้าจะตายก็ต้องตายพร้อมกัน!
เดิมทีนี่เป็นวิธีการต่อสู้ที่ชำนาญของกองกำลังพิเศษ แต่ใครจะคิดว่าตอนนี้จะกลับกัน!
ในตอนนี้เย่เทียนก็รู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เขารู้สึกได้ถึงพลังพิเศษเมื่อกี้นี้ แต่ไม่สามารถขัดขวางได้
เพียงแต่ชั่วพริบตานี้ คนของกองกำลังพิเศษที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับได้รับบาดเจ็บไปแล้วสามคน! ล้วนบาดเจ็บสาหัสทั้งนั้น!
“ผู้นำเหลิ่ง! หรือว่าคุณจะไม่มีคำอธิบายกับผมเหรอ?”
เสียงเย็นชาของเย่เทียนดังขึ้น จ้องเขม็งไปที่เหลิ่งฉิงโฉว
“อธิบาย? อธิบายอะไร!
แน่นอนเหลิ่งฉิงโฉวไม่สามารถยอมรับได้ว่าตัวเองโกง แต่ในเมื่อเย่เทียนเปิดปากพูดแล้วมีหรือจะปล่อยให้เขาเล่นลิ้นได้ ดีดนิ้ว เมื่อกี้ตอนที่ฝืนใจลงมือมีพลังพิเศษได้ถูกเปิดเผยออกมา
“หมอกกลืนวิญญาณ? ที่นี่ทำไมถึงมีหมอกกลืนวิญญาณปรากฏขึ้น!”
“มิน่าคนของสำนักหลินอีเหมือนกับคนบ้าที่ไม่รู้ถึงความเจ็บปวด ที่แท้ได้รับผลกระทบจากหมอกกลืนวิญญาณ! มิน่าถึงได้กล้าหาญขนาดนี้!”
“กล้าหาญบ้าบอละสิ! คนเหล่านี้ล้วนไร้ประโยชน์แล้ว! แม้ว่าหลังจากถูกหมอกกลืนวิญญาณแปดเปื้อนแล้วพลังการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นก็ตามจากนั้นก็จะถูกหมอกควบคุมจนกลายเป็นหุ่นเชิด! นี่คือเวทมนตร์อย่างหนึ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...