ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 1366

เจ้าสำนักของสำนักหลินอีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

เซียวเหอซินคนเหล่านี้คือเมล็ดพันธุ์ที่ดีของสำนักหลินอีนะ! และยังเป็นอนาคตของสำนักหลินอีอีกด้วย! หากเป็นเพียงผลข้างเคียงจากการใช้ยาระเบิดจิตภายใต้ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ก็คงจะใช้เวลาไม่นานในการฟื้นฟูกลับมา

แต่ตอนนี้ล่ะ?

นี่แม่งปัญหาไม่ใช่อยู่ที่ยาระเบิดจิต แต่เพื่อทำลายอนาคตของสำนักหลินอีของเขา

นี่เขาสามารถทนได้เหรอ?

ทนได้ก็แปลกละ!

“ผู้นำเหลิ่ง!คุณ.....นี่คุณคิดจะทำลายล้างสำนักหลินอีของผมเหรอ! แม้ว่าสำนักเราจะเล็ก แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะรังแกได้ตามใจชอบนะ?

สามารถพูดได้ว่าเจ้าสำนักพูดพร้อมน้ำตาไหล

“ตอนแรกคุณบอกว่าคุณต้องการจะฆ่าสำนักชิงหนังให้ตาย สำนักหลินอีก็เข้าร่วมด้วย และตอนนี้ก็บอกว่าต้องการยึดโควตาสำนักหลินอีก็ได้ทำตามแล้ว แต่สุดท้ายล่ะ? อนาคตของสำนักหลินอีของผมไม่เหลือแล้วยังจะทนบ้าบออะไรอีก!”

เดิมทีเหลิ่งฉิงโฉวยังคิดจะเล่นลิ้นอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เจ้าสำนักของสำนักหลินอีลุกออกมา และเปิดโปงเรื่องแผนชั่วทั้งหมดของพันธมิตรนักบู๊โบราณ ซึ่งก่อให้เกิดความโกลาหลทันที

“อะไรนะ ถึงกับมีเรื่องแบบนี้!”

“นี่มันมากเกินไปแล้วมั้ง! ล้างบางผู้มีพรสวรรค์นี่เป็นการทำลายอนาคตของ สำนักหลินอีชัดๆ”

เดิมทียังไม่สบายใจ เพราะคำมั่นสัญญาของเหลิ่งฉิงโฉวในการจัดสรรทรัพยากรประกอบกับการรวบรวมของพันธมิตรนักบู๊โบราณในขณะนี้จึงพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

"เชี่ย! ผมยังคิดว่าใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่นั้นเย็นสบาย! แม้กูจะรู้ว่าเป็นแค่หุ่นเชิดที่ไร้ค่าก็ตาม แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้คนล้อเล่นแบบนี้!”

“ก็ใช่! ใช้ทรัพย์สินนิดหน่อยก็ซื้ออนาคตของเรา นี่ก็คือน้ำใจของสำนักใหญ่เหรอ ถุย!”

กลุ่มคนพูดไปด่าไป แสดงความไม่พอใจอย่างมากต่อเหลิ่งฉิงโฉว

ร่างของเหลิ่งฉิงโฉวสั่นเล็กน้อย ให้ตายสิเย่เทียน ​​ทำไมถึงถูกเขาจับข้อบกพร่องได้อีกละ! ไอ้หมอนี่น่ารังเกียจจริงๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาเห็นอารมณ์ความโกรธของคนเหล่านี้เห็นได้ชัดว่าถูกคนยั่วยุให้โมโห

ในนั้นหากบอกว่าเย่เทียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตีให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ !

“หุบปากซะ!”

เหลิ่งฉิงโฉวปลดปล่อยพลังอำนาจในร่างกายของเขาออกมาทันที แม้ว่าในที่เกิดเหตุจะมียอดฝีมือระดับขั้นฟ้า แต่ถ้าเทียบกับเหลิ่งฉิงโฉวความสามารถถือว่าน้อยนิด

ชั่วขณะได้บดบังโมเมนตัมของทุกคนทันที จากนั้นก็ค่อยๆมองไปรอบๆ “ไอ้กลุ่มเศษสวะทั้งหลายยังคู่ควรที่จะพูดกับฉันด้วยเหรอ? คิดจะก่อกบฏหรือไง! สำนักตงฝูมันใช่สิ่งที่พวกแกจะดูหมิ่นได้เหรอ?”

“ดูเหมือนว่าพวกแกจะสบายนานเกินไปแล้ว หรือลืมไปแล้วหรือว่าในดลกนี้มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่มีอำนาจสิทธิ์ที่จะพูด ตำหนิฉันเหรอ? พวกแกคู่ควรเหรอ!"

“พูดแบบนี้แสดงว่านายไม่ยอมแพ้ละสิ?” ในสถานที่นี้หนึ่งเดียวที่สามารถต่อกลอนกับเขาได้ก็มีเพียงเย่เทียนเท่านั้น

ตอนที่เย่เทียนหัวเราะเหอเหอและก้าวไปข้างหน้า ความแข็งแกร่งที่เหลิ่งฉิงโฉวแสร้งทำออกมาถูกโจมตีจนไม่เหลืออะไร แต่การคุกคามของเหลิ่งฉิงโฉวยังคงมีผลอยู่บ้าง ตระกูลผู้นำเจ้าสำนักพวกนั้นได้แต่โมโหโกรธและจ้องมองเหลิ่งฉิงโฉวอย่างดุดัน แต่กลับไม่กล้าพูดหยาบคายอีก

บนอาคารสูงที่อยู่ห่างไกล หลี่ชื่อหาวยืนอยู่ที่ด้านบนสุด หลังจากสัมผัสได้ถึงโมเมนตัมของเหลิ่งฉิงโฉวจนต้องส่ายหัว

“ถึงแม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับเสียงเห่าของคนอ่อนแอเหล่านั้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ใช้คำพูดแบบนี้ เหลิ่งฉิงโฉวคนนี้ไม่มีสมองหรือไงนะ?”

“ซื่อหาว ไม่ควรประมาท! เหลิ่งฉิงโฉวคนนี้สามารถได้รับความไว้วางใจจากสำนักตงฝูก็คงต้องมีดีอยู่บ้าง คราวนี้ถึงแม้จะพูดได้ว่าเป็นความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย แต่พัวพันถึงต้นตอของชี่ ดังนั้นไม่ควรประมาท !"

“ท่านอาวุโส วางใจเถอะ ซื่อหาวรู้ว่าควรทำอย่างไร!”

พูดตามจริง การยั่วยุของเย่เทียนหลายครั้งทำให้เขาโกรธแค้นในใจมาก ในใจคิดว่าอยากจะมีโอกาสแบบนี้ที่จะได้ระบายออกมา ใครจะไปคิดว่าในเวลานี้กลับมีคนเรียกให้หยุด

เจ้าสำนักแห่งสำนักตงฝูเป็นคนเริ่มในการติดต่อเขา และขอให้เขายุติการวิวาทระหว่างทั้งสองฝ่าย และทุกอย่างรอให้แดนลึกลับเปิดทำงานแล้วค่อยแก้ปัญหา

“ดีมาก! ถึงเวลานั้น บัญชีของพวกเราจำเป็นต้องสะสางดีๆ!”

เย่เทียนฮึมเสียงเบาๆ “ช้าก่อน! เรื่องที่นี่จำเป็นต้องให้ผมไปจัดการแก้ไข! คนของผมต่างก็ได้รับบาดเจ็บ และเป็นเพราะคุณถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ คิดอยากจะจากไปง่ายๆงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!”

หมัดของเหลิ่งฉิงโฉวกำแน่นจนมีเสียงดังก๊อกแก๊ก จากนั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และโยนถุงเก็บของออกมา “ทั้งหมดนี้พอไหม! ฮึ่ม!”

ที่นี่เขาไม่มีหน้าจะอยู่ต่ออีกแล้ว แม้กระทั่งก่อนที่แดนลึกลับจะถูกเปิดใช้งานเหลิ่งฉิงโฉวก็จะไม่ปรากฏตัวอีกแล้ว ไม่เพื่อสิ่งอื่นใด แต่เพราะขายหน้ามามากพอแล้ว!

เขาก็ไม่เข้าใจ ตกลงสาเหตุอะไรกันแน่ ที่ทำให้เจ้าสำนักต้องติดต่อเขาด้วยตนเอง และยังบอกเขาไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามก็ต้องอดทนไว้!

น่าเกลียด! ตกลงเพื่ออะไรกันแน่! หรือว่าเพื่อชีวิตของไอ้กระจอกพวกนั้นเหรอ!

เขาไม่เข้าใจ! และก็คิดไม่ออก!

น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจความคิดของเขา เย่เทียนพลิกกล่องเก็บของในมือ และสิ่งที่อยู่ภายในทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมาก

“สู้ต่อไป!”

เย่เทียนโบกมือ และการแข่งขันที่ถูกขัดจังหวะก็กลับมาต่อสู้กันอีกครั้ง เพียงแต่มีมีฉากเล็กๆเมื่อกี้ การแข่งขันในตอนนี้ไม่ตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะทางฝั่งตระกูลสำนัก โมเมนตัมตกต่ำถึงขีดสุด

จนเฝิงเจิ้นเหอทนดูต่อไปไม่ไหว ถึงกับต้องกำชับให้คนในทีมยั้งมือบ้าง

พวกเขาน่าเวทนาพอแล้ว ถ้าตอนนี้ยังคิดจะลงมือหนักมันดูค่อนข้างไม่เหมาะสม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่