ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 682

เย่เทียนมองบัตรเชิญในมือตัวเอง สีหน้าประหลาดขึ้นมา

บัตรเชิญทำได้พิถีพิถันมาก เลี่ยมทองโดยรอบ ตรงกลางเขียนคำว่า ‘งานแข่งม้า’ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ของธรรมดา

“พี่เย่ พี่คงไม่ค่อยรู้เรื่องคลับการแข่งม้าใช่ไหม?”

สังเกตเห็นว่าเย่เทียนมีสีหน้าเปลี่ยนไป เซวฟู่ยี่แนะนำอย่างรู้งาน “คลับการแข่งม้านี้ก่อตั้งขึ้นหลังจากจีนเปิดประเทศ มีประวัติศาสตร์อย่างต่ำหลายสิบปี ลูกค้าเป้าหมายล้วนแต่เป็นระดับมหาเศรษฐี ต้องมีค่าตัวอย่างน้อยหลักร้อยล้านถึงจะได้เป็นสมาชิก”

“ได้ข่าวว่าจวบจนตอนนี้คลับการแข่งม้ามีสมาชิกเกือบพันคน พูดแบบไม่เกินจริงเลยนะ ถ้าสมาชิกทุกคนของคลับการแข่งม้านี้เกิดอุบัติเหตุ เศรษฐกิจของประเทศได้ถอยหลังอย่างน้อยห้าสิบปี!”

เย่เทียนได้ฟัง พยักหน้าอย่างใช้ความคิด ฟังจากที่เซวฟู่ยี่พูดมา คลับการแข่งม้าเป็นเหมือนค่ายรวมเศรษฐีชัดๆ!

แต่ที่เย่เทียนคิดไม่ตกคือเขาไม่ได้สนิทกับหลู่ซีซาน ทำไมอยู่ๆผู้หญิงคนนี้ถึงส่งบัตรเชิญมาให้? เธอมาดีหรือมาร้ายกันแน่?

ครุ่นคิดไปมา เย่เทียนแกะซองจดหมายออก ในนั้นนอกจากมีบัตรเชิญแล้ว ยังมีเหรียญตราฝังเพชรสีม่วงอีกด้วย!

เย่เทียนหยิบเหรียญตราฝังเพชรม่วงขึ้นมาด้วยสีหน้างุนงง และสอบถามกับเซวฟู่ยี่ “แล้วนี่อะไร?”

“เฮ้ย! เหรียญตราเพชรม่วงสำหรับสมาชิกของคลับการแข่งม้า?!”

เมื่อเห็นเหรียญตราในมือเย่เทียน เซวฟู่ยี่ตาโตขึ้นมาทันที จนอดร้องเสียงหลงไม่ได้ “ยัยหลู่ซีซานน้ำเข้าสมองเหรอ ถึงขั้นมอบเหรียญตราเพชรม่วงให้เลยหรือนี่?”

“พูดอะไรของนาย นี่นายดูถูกฉันเหรอ?”

เซวฟู่ยี่เหนื่อยใจสุดๆ เขายิ้มเฝื่อนๆและลูบสันจมูก “ผมจะบอกพี่อย่างนี้แล้วกัน แม้ว่าสมาชิกของคลับการแข่งม้าจะมีเกือบพันคน แต่การจะได้เหรียญตราเพชรม่วงนี้มาจำต้องผ่านบททดสอบในหลายๆด้าน แม้แต่อารองของผมยังไม่มี พี่ว่าเจ๋งมั้ยล่ะ?”

ขณะที่พูด เซวฟู่ยี่แสดงความอิจฉาเย่เทียนโดยไม่ปิดบังเลยสักนิด เหรียญตราเพชรม่วงนี่ใช่ว่ามีเงินก็เอามาได้นะ!

“ขนาดอารองของนายยังไม่มีเหรอ?”

เย่เทียนชะงัก ก่อนจะได้สติ หลู่ซีซานที่เคยพบหน้าตัวเองแค่ครั้งเดียวไม่คิดเลยว่าจะมอบของขวัญให้ตัวเองชิ้นใหญ่ขนาดนี้

“อืม พ่อผมสิมีอยู่อันหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทำไมอารองผมถึงไม่มี”

เซวฟู่ยี่ส่ายหัว พูดเซ็งๆ “ผมยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดอยู่ในวงการมานานเยี่ยงนี้ ยังได้แค่เหรียญตราเงินขาว หากเปรียบเทียบกับผู้อื่นคงได้โมโหจนตายจริงๆสินะ”

คิดมาถึงตรงนี้ เย่เทียนหยิบบัตรเชิญขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะสะบัดบัตรเชิญไปมาและพูดกับเซวฟู่ยี่ด้วยรอยยิ้มจางๆ “เป็นไง? ยังกล้าออกไปเที่ยวเล่นกับฉันอยู่ไหม?”

“ทำไมผมต้องไม่กล้าด้วย!”

เซวฟู่ยี่ผงะ ก่อนจะได้สติทันควัน การติดตามเย่เทียนนอกจากจะได้พบสาวในฝันอย่างหลู่ซีซานแล้ว ไม่แน่อาจได้เจอสาวสวยสุดยอดชื่อดังคนอื่นๆด้วย เขาจะมีความเห็นอื่นได้ยังไงกัน?

คิดไปว่ายังไงเสียนี่ก็เป็นคำเชิญจากสาวสวย ทั้งสองคนไม่ได้บอกใคร แอบขับรถคันหนึ่งมุ่งหน้าไปทางคลับการแข่งม้า

หลังจากขับรถไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดรถก็มาจอดอยู่หน้าสถานที่ตกแต่งหรูหราแห่งหนึ่ง

เย่เทียนกวาดสายตามองไปรอบๆผ่านหน้าต่างรถ บรรดารถที่จอดอยู่ที่นี่ล้วนแต่เป็นรถหรูทั้งนั้น อาจเพราะวันนี้มีแข่งม้าด้วย คนมาที่นี่จึงไม่น้อย

ส่วนเย่เทียนน่ะเหรอ ผู้จัดการเมินโดยปริยาย

นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ผู้จัดการไม่คุ้นหน้าเย่เทียนจริงๆ บวกกับเย่เทียนไม่ได้แต่งตัวมีราคานัก เขาจึงจัดให้เย่เทียนอยู่ประเภทบอดี้การ์ด

“เอาเถอะ นายไปยุ่งเรื่องของนาย ถ้าฉันต้องการอะไรจะเรียกนายเอง”

เซวฟู่ยี่พยักหน้า และส่งสายตาให้เย่เทียนทันที พร้อมเปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน

เย่เทียนไม่ได้สนใจผู้จัดการคนนั้นเท่าไหร่ เขาเดินตามหลังเซวฟู่ยี่เข้าไปในห้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ช่องว่างในห้องนั้นกว้างขวางมาก เก้าอี้นวดถูกตั้งไว้เรียงราย เห็นได้ชัดว่าจัดไว้สำหรับผู้ชมการแข่งขัน

นอกจากนี้ คนที่นี่ก็ไม่น้อย นอกจากมหาเศรษฐีที่มาจากเมืองอื่นแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนเป็นลูกหลานคนรวยในเมืองจินเอง แต่ละคนยโสสุดๆ แทบจะเชิดจมูกขึ้นฟ้าอยู่แล้ว

เซวฟู่ยี่มองไปรอบๆ ทันใดนั้นคิ้วก็ขมวดเป็นปม แต่อาจเพราะเย่เทียนอยู่ที่นี่ เขาตั้งสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และเรียกเย่เทียนมานั่งที่มุมหนึ่ง

เย่เทียนเหมือนไม่ทันสังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปวูบหนึ่งของเซวฟู่ยี่ หลังจากนั่งลงแล้ว เขาหยิบหน้าจอแท็บเล็ตที่ตั้งอยู่บนเก้าอี้นวดขึ้นมาถามอย่างแปลกใจ “ฟู่ยี่ อันนี้เอาไว้วางเดิมพันเหรอ?”

ยังไงซะ ในเมื่อมาแล้ว ถ้าไม่เล่นสักตาสองตาคงมาเสียเที่ยวแย่!

“พี่เย่เดาไม่ผิด อันนี้ใช้เดิมพันจริงๆ แท็บเล็ตพวกนี้ผ่านการปรับแต่งแบบพิเศษมา ขอเพียงมีเหรียญตราจากงานแข่งม้า ก็สามารถเปิดใช้งานแท็บเล็ตพวกนี้ได้ ได้ข่าวว่าในเหรียญตรามีชิปเล็กๆฝังอยู่”

เซวฟู่ยี่พยักหน้า ควักเหรียญทองเหลืองออกมาจากตัวและวางลงตรงจุดที่ยุบลงไปของแท็บเล็ต พร้อมสาธิตให้เย่เทียนดูไปพลาง และอธิบายไปพลาง……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่