ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 687

เซวฟู่ยี่แอบรู้สึกโชคดีที่หนนี้มากับเย่เทียน ถ้ามีแค่เขาคนเดียว เขาไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไง

“เห็นไหม ฉันบอกแล้วว่าชนะแน่ๆ”

เมื่อเห็นเชอร์ชิลนำเข้าเส้นชัยไปก่อน เย่เทียนคลี่ยิ้มอย่างอดไม่ได้เช่นกัน

“พี่เย่ อัตราเสียของเชอร์ชิล 1.5 เท่าเชียวนะ ครั้งนี้พวกเราได้กำไรเจ็ดสิบห้าล้านเต็มๆ!”

เซวฟู่ยี่ตื่นเต้นดีใจมาก คราวนี้ได้ทั้งทุนที่เขาเสียเมื่อครึ่งเดือนก่อนรวมถึงกำไรกลับมาด้วย

“ผิดแล้ว พูดให้ถูกคือเราชนะมาหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านถ้วน!”

เย่เทียนกลับส่ายหัว และพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “นอกจากนี้ ดูเหมือนพวกเราจะได้แขนมาคู่หนึ่งด้วย”

เห็นเขาพูดเรื่องแบบนี้ออกมาอย่างราบเรียบ แต่เขาสะท้อนใจมากเช่นกัน

เงินหลักร้อยล้านเป็นจำนวนที่คนมากมายไม่ได้แตะตราบชั่วชีวิต บัดนี้พวกเขาแค่ชนะการแข่งม้าหนึ่งครั้งเท่านั้น ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มิน่าล่ะถึงมีคนมากมายกลายมาเป็นผีพนัน!

“พี่เย่ ถ้าพี่ไม่เตือนผมลืมไปเลยนะ”

เซวฟู่ยี่ได้สติ สายตาฉายแววเย็นเยียบ ลุกพรวดขึ้นเดินไปทางเติ้งเจี้ยนข่าย

เติ้งเจี้ยนข่ายในตอนนี้สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด ถึงห้าสิบล้านจะไม่เยอะ ใช่ว่าเขาจ่ายไม่ได้ อย่างมากก็แค่เจ็บใจไปหลายวัน

แต่ปัญหาสำคัญคือแขนสองข้างที่ลงเดิมพันนั่นแหละ เป็นโจทย์หินที่สุด!

“บ้าเอ๊ย ฉันไม่เชื่อว่าเจ้าเซวฟู่ยี่จะกล้าเอาแขนสองข้างของฉันจริงๆ”

ครุ่นคิดอยู่นานก็หาข้ออ้างใดๆไม่เจอ เติ้งเจี้ยนข่ายจึงตัดสินใจว่าจะไม่ยอมรับ เขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าอึมครึม พยายามจะกลับก่อนเซวฟู่ยี่มานี่

เพียงแต่ เขาเพิ่งเดินออกจากเก้าอี้นวดได้ไม่กี่ก้าว ก็ประจันหน้ากับพวกเย่เทียนสองคนที่มาเก็บค่าพนัน

“คุณชายเติ้ง นายลืมอะไรรึเปล่า?”

“เซวฟู่ยี่ ครั้งนี้ถือว่าเป็นคราวซวยของฉัน”

เติ้งเจี้ยนข่ายโยนเหรียญตราทองคำขาวในมือไปให้ และพูดด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “แต่นายก็อย่าได้ใจนัก ช้าเร็วฉันต้องเอาคืนแน่!”

พูดจบ เขาก้าวเท้าออกอีกครั้ง พยายามเดินอ้อมสองคนนั้นออกมา

“คุณชายเติ้ง การพนันของเราไม่ใช่แค่นั้นหรอกนะ”

แต่ เซวฟู่ยี่ที่อุตส่าห์ชนะทั้งทีจะยอมปล่อยเติ้งเจี้ยนข่ายไปง่ายๆได้ยังไงกัน เขายื่นมือออกไปขวาง

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ สายตาทุกคนล้วนจับจ้องมาที่เซวฟู่ยี่ พวกเขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาเตรียมทำให้เติ้งเจี้ยนข่ายลำบาก

นี่ก็เป็นเรื่องที่ว่าอะไรไม่ได้ การพนันเมื่อครึ่งเดือนก่อนเติ้งเจี้ยนข่ายทำกับเซวฟู่ยี่เกินไปมาก เล่นกันจนเรื่องถึงผู้ใหญ่อย่างอารองเซว ไม่ต้องเดาทุกคนก็รู้ว่าหลังเซวฟู่ยี่กลับไปต้องโดนลงโทษแน่ ย่อมต้องผูกใจเจ็บกับเติ้งเจี้ยนข่าย

บัดนี้มีโอกาสดีๆที่จะได้แก้แค้น มีหรือที่เซวฟู่ยี่จะยอมปล่อยเติ้งเจี้ยนข่ายไปง่ายๆ?

สิ่งเดียวที่แตกต่างคือพวกเขาไม่รู้ว่าเซวฟู่ยี่จะจัดการเติ้งเจี้ยนข่ายยังไง

ต่อให้รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทั้งคู่เดิมพันกันก่อนหน้านี้คือแขนสองข้าง แต่พวกเขาก็เห็นเป็นคำพูดตอนโมโหขาดสติเท่านั้น ไม่จริงจังหรอก

ยังไงซะสองคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา หากเล่นกันถึงขั้นนั้นจริงย่อมพาลไปถึงอิทธิพลเบื้องหลังทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเซวฟู่ยี่หรือเติ้งเจี้ยนข่าย ก็ไม่อยากให้เรื่องราวดำเนินไปในทิศทางนั้นหรอก

เติ้งเจี้ยนข่ายพูดด้วยสีหน้ามืดมน “เซวฟู่ยี่ แล้วนายต้องการอะไรอีก?”

เซวฟู่ยี่ได้ยินดังนั้นก็ลำบากใจขึ้นมา ยังไงซะเติ้งเจี้ยนข่ายก็เป็นคนระดับเดียวกับเขา ต่อให้บัดนี้เขาชนะการพนันจริงๆก็ไม่มีทางตัดแขนสองข้างของเขาจริงๆหรอก

ยังไงซะพวกเขาก็ไม่ใช่ลูกหลานคนรวยระดับเดียวกับเซวฟู่ยี่ หากโดนเซวฟู่ยี่จองล้างจองผลาญจริงๆ ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นยังไง

เติ้งเจี้ยนข่ายเห็นท่า สีหน้าค่อยๆบิดเบี้ยวขึ้น “เซวฟู่ยี่ นายจะเอาแขนฉันจริงๆหรือไง”

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เซวฟู่ยี่อาจจะปอดแหกจริงๆ แต่วันนี้มีเย่เทียนหนุนหลัง บวกกับการราดน้ำมันลงกองเพลิงของคนอื่น เขาไม่สนอะไรแล้ว ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะให้เติ้งเจี้ยนข่ายได้เจอดี!

“ไม่ใช่แบบนั้น ยังไงซะฉันคงเอากีบหน้าของนายมาทำขาหมูกินไม่ได้หรอก”

เซวฟู่ยี่ยักไหล่ ยิ้มอย่างมีเลศนัย “แต่ไม่ว่ายังไงเราตกลงเรื่องเดิมพันกันไว้แล้ว ฉันจะให้โอกาสนาย ขอแค่นายเดินเปลือยออกจากที่นี่ ฉันจะปล่อยแขนสองข้างของนายไป!”

“เซวฟู่ยี่ นายทำเกินไปแล้ว!”

เติ้งเจี้ยนข่ายผงะ ก่อนจะได้สติอย่างรวดเร็ว และคำรามเสียงต่ำ “ถ้าฉันอยากไป นายคิดว่าจะขวางฉันได้เหรอ อย่าลืมสิว่าที่นี่ที่ไหน!”

“นายหมายความว่ายังไง? จะไม่ยอมรับรึ” เซวฟู่ยี่คิ้วขมวดเป็นปมในบัดดล

“ฉันยอมรับว่าฉันเป็นฝ่ายผิด เดิมฉันคิดว่าถ้านายยอมถอยหนึ่งก้าว ใช่ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันไม่ได้ แต่ในเมื่อนายไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ ก็อย่าหาว่าฉันใช้ไม้แข็งแล้วกัน!”

ขณะที่พูด เติ้งเจี้ยนข่ายสะบัดมือใหญ่ เหล่าลูกสมุนที่ติดตามเขาเข้าใจทันที พากันก้าวออกมาสามสี่ก้าว

ภาพนี้ทำให้ฝูงชนรำพึงเบาๆว่าแย่แล้ว ท่าทางแบบนี้ของเติ้งเจี้ยนข่ายคิดจะเล่นไม่ซื่อชัดๆ กระทั่งได้คืบเอาศอกคิดจะใช้ไม้แข็งกับเซวฟู่ยี่

เซวฟู่ยี่ใจกระตุกวูบ ไม่คิดว่าเติ้งเจี้ยนข่ายจะบาดหมางกับตัวเองอย่างสิ้นเชิงต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้

“เอาล่ะ งานหยาบหลังจากนี้ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

และในตอนนั้น เย่เทียนที่ยืนข้างเซวฟู่ยี่ก้าวออกมา ยื่นมือไปตบไหล่เขา “พวกนายอยากสู้ไม่ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นก็รีบหน่อย เวลาของฉันมีค่ามาก จะมาเสียกับขยะอย่างพวกนายไม่ได้หรอก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่