เติ้งเจี้ยนข่ายสังเกตเห็นสายตาที่เย็นชาลงของเซวฟู่ยี่ จะเดาไม่ออกได้ยังไงว่าเขาคิดอะไร จึงรีบเอ่ยปาก “เซวฟู่ยี่ นายอย่าไปฟังที่เขาพูดเหลวไหลนะ ฉันรับประกันว่าหลังจากนี้จะไม่หาเรื่องนาย!”
แต่ เซวฟู่ยี่ไม่สนใจเติ้งเจี้ยนข่ายเลยสักนิด เขาเดินไปข้างหน้าอีกครั้งด้วยสีหน้าแน่วแน่
เย่เทียนพูดถูก ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นคุณชายรองแห่งตระกูลเซว แต่กลับกังวลหลายอย่างจนไม่ได้ทำอะไรที่สมกับฐานะคุณชายรองเซว ทำเอาคนอื่นคิดว่าเขาเป็นคนอ่อนแอ รังแกได้ง่าย
ตอนนี้ เขาถือโอกาสนี้ให้คนพวกนั้นได้ดูกันดีๆว่าเขาก็ไม่ใช่ว่าปล่อยให้ใครที่ไหนมารังแกก็ได้
“เติ้งเจี้ยนข่าย ฉันให้โอกาสนายครั้งสุดท้าย ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ถอดเอง ถ้าให้ฉันช่วยนายคงไม่ง่ายแบบนั้นแล้วนะ”
เซวฟู่ยี่ที่ตั้งใจแน่วแน่แล้วสูดหายใจเข้าลึก ตื่นเต้นนิดหน่อยอย่างเห็นได้ชัด
นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เรื่องร้ายแรงแบบนี้เขาทำเป็นครั้งแรก อดตื่นเต้นไม่ได้ และดีใจอยู่นิดหน่อย
“วางใจเถอะ ฉันก็ยังอยู่ที่นี่ ไม่เป็นไรหรอก”
เย่เทียนสังเกตเห็นความตื่นเต้นของเซวฟู่ยี่อย่างความรู้สึกไว เขายิ้มและให้กำลังใจ ท่าทางอย่างกับผู้ใหญ่ที่สั่งสอนเซวฟู่ยี่
อาจเพราะคำพูดของเย่เทียนได้ผล เซวฟู่ยี่ค่อยๆใจเย็นลง ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเอื้อมมือออกไปหมายจะคว้าตัวเติ้งเจี้ยนข่าย
เวลานี้เติ้งเจี้ยนข่ายอย่างกับกินอุจจาระก้อนใหญ่เข้าไป หน้าเขียวถึงขีดสุด
ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเคยผ่านมานักต่อนัก แต่ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เขาเป็นผู้รังแก บัดนี้กลับกลายเป็นเหยื่อที่ถูกรังแก ในที่สุดเขาก็เข้าใจความตื่นตระหนกของคนที่โดนเขารังแกก่อนหน้านี้แล้ว
เมื่อเห็นสีหน้าเยียบเย็นของเซวฟู่ยี่ เติ้งเจี้ยนข่ายรู้ดีว่าเขาตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะลงมือ จึงรีบถอยหลังอย่างร้อนใจ โหวกเหวกเสียงดังโดยไม่ห่วงภาพลักษณ์
“ฉันเป็นคนตระกูลเติ้ง นายแตะฉันไม่ได้ นายหยามฉันแบบนั้นไม่ได้”
แต่ ท่าทางหวาดกลัวแต่แสร้งทำเป็นดุดันนั้นเปิดเผยความลนลานในใจเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
“นายมาพูดเรื่องนี้กับฉันตอนนี้คิดว่ายังมีความหมายไหม”
เซวฟู่ยี่ยิ้มเย็นๆ ไล่ตามเข้าไปและบีบเติ้งเจี้ยนข่ายเข้าหลืบในไม่กี่ก้าว เอื้อมมือกำลังจะถึงเสื้อผ้าของเขา
เติ้งเจี้ยนข่ายร้อนใจขึ้นมา ยังไงซะเขาก็เป็นผู้ชายอกสามศอก จะปล่อยให้เซวฟู่ยี่เปลื้องผ้าตัวเองเฉยๆได้ยังไง จีงรีบทำท่าจะดิ้นหนี
แต่ในเมื่อเย่เทียนอยู่ที่นี่ จะให้โอกาสเติ้งเจี้ยนข่ายได้ตอบโต้ได้ยังไง เขาเร่งพลังคัมภีร์หวงในตัว ดีดมือเบาๆ ก้อนชี่ทิพย์เบาบางไม่ให้รู้ตัวพุ่งไปหาเติ้งเจี้ยนข่ายเงียบเชียบ
เติ้งเจี้ยนข่ายรู้สึกเหมือนยุงกัดแขน จากนั้นก็ค้นพบด้วยความหวาดกลัวว่าสองมือที่ตัวเองเพิ่งยกขึ้นถูกตรึงอยู่กลางอากาศ ยากจะขยับเขยื้อน!
ไม่รอให้เขาส่งเสียงร้องด้วยความผวา มือที่เซวฟู่ยี่ยื่นออกไปจับโดนเสื้อผ้าของเขาแล้ว และได้ยินเสียงดังแคว่ก เสื้อครึ่งตัวบนของเขาถูกฉีกขาด!
“อ๊าก!”
ครานี้เติ้งเจี้ยนข่ายถึงร้องเสียงแหลม สองมือกลับมาอยู่ในการควบคุมทันใด ขาอ่อนล้มฮวบลงพื้น
แต่ ผู้คนคิดว่าเขากรีดร้องเพราะโดนฉีกเสื้อผ้า แต่ไม่รู้ว่าเขาหวาดกลัวต่อวินาทีเมื่อกี้ที่สูญเสียการควบคุมต่อร่างกาย
ไม่ว่ายังไง เซวฟู่ยี่ที่ฉีกเสื้อเติ้งเจี้ยนข่ายหุนหันพลันแล่นขึ้นมา กระทั่งลมหายใจยังหนักหน่วงขึ้น
หลายปีมานี้ ใต้คำสั่งสอนของเซวซิวเหวิน ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เขาเป็นมิตรตลอด น้อยนักที่จะอ้างฐานะคุณชายรองเซวเพื่อข่มผู้อื่น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเหยียบย่ำคุณชายใหญ่ระดับเดียวกันอย่างเติ้งเจี้ยนข่าย
“ไม่คิดเลยว่าจะดึงดูดสาวสวยมานี่ถึงสองคน ครั้งนี้มาเสียเที่ยวจริงๆ”
“คราวนี้มีอะไรสนุกๆให้ดูแล้ว เติ้งเหวินไม่ได้เป็นแค่คนตระกูลเติ้งนะ ยังเป็นผู้จัดการงานแข่งม้าด้วย คุณชายรองเซวหยามเติ้งเจี้ยนข่ายขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเติ้งเหวินจะจัดการยังไง?”
คลื่นหนึ่งยังไม่สงบ ดันมีอีกคลื่นซัดมา การปรากฏตัวของทั้งสองสาวส่งผลให้ฝูงชนตื่นเต้นขึ้นมา พากันกระซิบกระซาบ
ไม่ว่ายังไง เติ้งเหวินไม่สนใจคนอื่น เธอก้าวไปด้านหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ และมาอยู่ข้างกายเติ้งเจี้ยนข่ายอย่างรวดเร็ว
แต่ เธอเพียงแต่เหลือบมองเติ้งเจี้ยนข่ายด้วยหางตาเท่านั้น ก่อนจะทอดมองเซวฟู่ยี่ด้วยสายตากดดัน
“คุณชายรองเซว ไม่ทราบว่าน้องชายของฉันทำอะไรผิดจนนายต้องโกรธขนาดนี้เหรอ ถึงขั้นจะหยามเขาด้วยการแก้ผ้า?”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเซวฟู่ยี่คงเผยท่าทางปอดแหกเมื่อเผชิญหน้ากับเติ้งเหวินแล้ว แต่ตอนนี้สถานการณ์ต่างออกไป ยังไงซะเขาก็เป็นคนที่บีบคั้นเติ้งเจี้ยนข่ายนะ!
เซวฟู่ยี่หันกลับไปมองเย่เทียนด้วยสัญชาตญาณ แกล้งทำเป็นสุขุมและส่ายหัว “พี่เติ้งเหวิน เรื่องนี้พี่ต้องถามคุณชายเติ้งนะ การแข่งม้าก่อนหน้านี้เขาเดิมพันกับผมเป็นการส่วนตัว ว่าคนที่แพ้ต้องยอมเสียแขนทั้งสองข้าง!”
“แน่นอน ผมเข้าใจว่าเดิมพันเช่นนี้ออกจะเกินไปหน่อย ผมจึงเปลี่ยนเป็นแก้ผ้า แต่เหมือนคุณชายเติ้งจะไม่ค่อยเต็มใจ ผมแค่ช่วยเขาทำตามการเดิมพันเท่านั้น!”
“หืม?!”
เติ้งเหวินเหลือบมองเติ้งเจี้ยนข่ายตามสัญชาตญาณ ก่อนจะเงยหน้ากวาดสายตามองไปรอบๆ และเอ่ยถาม “ที่คุณชายรองเซวพูดมาเป็นความจริงหรือ เขากับเจี้ยนข่ายเดิมพันกันแบบนี้จริงรึเปล่า”
แต่ทุกคนที่เติ้งเหวินมอง กลับพากันก้มหน้า ไม่มีใครกล้าตอบ
นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเซวหรือตระกูลเติ้ง ไม่ใช่คนที่พวกเขามีเรื่องด้วยได้ มีหรือจะกล้าเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...