เจอเข้ากับคำถามของเติ้งเหวิน ไม่มีใครในที่นี้กล้าแทรกแซงเรื่องของพวกเขา ต่างปิดปากรักษาความเงียบไว้
แต่ การปรากฏตัวของเติ้งเหวินทำให้เติ้งเจี้ยนข่ายมีที่พึ่งพิง พอเห็นไม่มีใครพูด จึงลอบถอนหายใจและย้อนกลับ “พี่เสี่ยวเหวิน อย่าไปเชื่อเขานะ ผมเดิมพันกับเขาเป็นส่วนตัวก็จริง แต่ผมไม่เคยพูดว่าจะเดิมพันด้วยสองแขนเลย เขาจงใจหาเรื่องเอาคืนผมชัดๆ”
เติ้งเจี้ยนข่ายหันมองเซวฟู่ยี่อีกครั้งและโวยวาย “ฉันรู้ว่ายังติดนายอยู่สิบล้าน ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้สักหน่อย นายจำเป็นบีบคั้นฉันขนาดนี้ด้วยเหรอ?”
เซวฟู่ยี่โมโหมาก ไม่คิดเลยว่าเติ้งเจี้ยนข่ายจะหน้าไม่อายถึงเพียงนี้
แต่เทียบกันแล้ว เขาเจ็บใจฝูงชนที่รอดูเรื่องสนุกอยู่ ณ ที่นี้มากกว่า เจ้าพวกนี้ไม่มีใครก้าวออกมาเลยสักคน คิดว่าคุณชายรองเซวอย่างเขาโกรธไม่เป็นหรือไง
คิ้วเรียวของเติ้งเหวินขมวดมุ่นมากขึ้น ในเมื่อเธอได้เป็นหนึ่งในผู้จัดการงานแข่งม้า ย่อมไม่ใช่คนโง่เขลา
ถึงแม้ตอนนี้เหล่าฝูงชนในที่นี้ไม่มีใครกล้าตอบ แต่ท่าที่ของพวกเขาบ่งบอกว่ามีการเดิมพันเช่นนี้อยู่จริงๆอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่พวกเขาโดนแก้แค้นหลังจบเรื่อง จึงไม่กล้าพูดอะไรเท่านั้น
แม้จะรู้ดีว่าเป็นอย่างนี้ เติ้งเหวินกลับไม่ได้จี้อะไร ยังไงซะสถานการณ์แบบนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นประโยชน์ต่อเธอ
“คุณชายรองเซว ฉันไม่สนว่านายบาดหมางอะไรกับเจี้ยนข่ายมา และไม่สนว่าพวกนายมีการเดิมพันกันจริงหรือไม่ แต่นายจำไว้ด้วยว่าที่นี่คืองานแข่งม้า!”
เติ้งเหวินสื่อเป็นนัยๆว่าที่นี่คือถิ่นของตัวเองตามประสาผู้มากประสบการณ์ ก่อนจะเปลี่ยนวิธีพูด “ฉันเข้าใจว่านายกับเจี้ยนข่ายยังหนุ่มยังแน่น บางครั้งอาจจะใช้อารมณ์ไปบ้าง”
“ไม่ว่าเขาจะทำอะไรผิด ฉันขอโทษแทนเขาด้วย หวังว่าคุณชายรองเซวจะเห็นแก่หน้าฉัน อย่ายืดเยื้อกันต่อไปเลย”
คำพูดของเธอเรียกได้ว่าบอกไปหมดแล้วทั้งแง่ดีและแง่ร้าย เชื่อว่าต่อให้ผู้เชี่ยวชาญการเจรจามานี่ ก็คงไม่รู้จะตอบกลับว่ายังไงดี
เซวฟู่ยี่เงียบไปในบัดดล พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าถ้าเอาเรื่องกันต่อ ไม่แน่อาจโดนเติ้งเหวินผูกใจเจ็บเอา
ต่างจากเติ้งเจี้ยนข่าย เติ้งเหวินเป็นลูกหลานสายหลักของตระกูลเติ้ง และเป็นถึงหนึ่งในสามสาวงามแห่งเมืองจิน!
คนที่ตามจีบเติ้งเหวินอย่างน้อยๆก็ต่อแถวตั้งแต่เขตเมืองไปถึงชานเมืองได้ ถ้าเจ้าพวกนั้นรู้เข้า อาจจะไม่ทำอะไรตัวเองตรงๆเพราะตระกูลเซว แต่เสียงถากถางลับหลังคงไม่น้อยแน่
กลับกัน หากเดินลงตามบันไดของเติ้งเหวิน อาจจะทิ้งภาพลักษณ์ที่ดีไว้ ไม่แน่อีกหน่อยอาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้
เซวฟู่ยี่เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อย รู้สึกว่าไม่ว่าทางไหนก็ไม่เสียเปรียบ
ยังไงซะตอนแรกเขาแค่อยากสั่งสอนเติ้งเจี้ยนข่ายเท่านั้น และเป็นการเตือนคนอื่นด้วยว่าเขาไม่ใช่คนที่มีเรื่องด้วยได้ บัดนี้จุดประสงค์ถือว่าบรรลุแล้ว จะยืดเยื้อกันต่อไปทำไมล่ะ?
คิดมาถึงนี่ เซวฟู่ยี่ตัดสินใจและกำลังจะบอก เสียงเรียบๆของเย่เทียนกลับดังขึ้นข้างหูอีกครั้ง
“เธอคงเป็นผู้จัดการที่นี่ใช่ไหม ฉันเห็นว่ากล้องวงจรปิดของที่นี่ล้วนแต่ทันสมัยที่สุด น่าจะอัดเสียงได้ใช่ไหม เชื่อว่าเรื่องพนันของพวกเขาก่อนหน้านี้ก็คงบันทึกไว้ เธอไปเปิดดูก็น่าจะรู้แล้วนี่”
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ สายตาทุกคนพากันจับจ้องไปที่เย่เทียน
“เวรเอ๊ย! ไอ้นี่อยากให้มีเรื่องกันเหลือเกินนะ เรื่องแบบนี้ยังคิดขึ้นมาได้”
“วิธีนี้สุดยอดจริงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้จะตัดต่อภาพกล้องวงจรปิดคงไม่ได้!”
“ไม่ได้การแล้ว เจ้านี่วางแผนได้ถี่ถ้วนไม่มีพลาด กลับไปต้องสืบที่มาที่ไปของเขามาให้ได้”
ฝูงชนที่ล้อมรอบอยู่คุยกันเสียงเบา ส่วนหลู่ซีซานที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็กำลังมองเย่เทียนอย่างพิจารณาด้วยตาคู่สวย นัยน์ตาฉายประกายประหลาด
ชิวอวี้ไม่เคยเห็นเย่เทียน จึงถามหลู่ซีซานตามสัญชาตญาณ “คุณหนู หมอนั่นคือเย่เทียนเหรอคะ”
“คุณชายเซว เอาอย่างนี้ดีไหม เรื่องนี้น้องชายฉันแย่จริงๆ แต่ไม่ว่าจะหักแขนสองข้างของเขาหรือแก้ผ้าเขาให้หมด ต่อให้ฉันไม่เอาเรื่องนาย แต่ถ้าเรื่องถึงหูตระกูลฉัน พวกเขาก็ต้องเอาเรื่องนายแน่นอน ถึงเวลานั้นบางทีฝั่งตระกูลนายก็อาจจะเอาเรื่องนายด้วยเหมือนกัน”
“พี่เติ้งเหวิน พี่อยากพูดอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะ”
เซวฟู่ยี่หัวเราะเฝื่อนๆ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงถึงเหตุผลนี้ แต่ประเด็นสำคัญคือเขาไม่รู้ว่าเย่เทียนคิดยังไง
“คุณชายเซว ไม่ว่าเรื่องอะไรเราเจรจากันได้”
เติ้งเหวินพูดด้วยน้ำเสียงประนีประนอม “แขนของน้องชายฉันขาดไม่ได้ เสื้อผ้าก็ถอดไม่ได้ แต่ฉันชดใช้ให้นายในรูปแบบอื่นได้”
ไม่รอให้เซวฟู่ยี่ตอบอะไร ในที่สุดเย่เทียนก็ก้าวออกมา พูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “ชดใช้? ชดใช้ยังไงเหรอ?”
เติ้งเหวินหันไปมองเย่เทียนในบัดดล และเอ่ยเสียงเข้ม “ฉันชดใช้ด้วยเงินได้ ฉันรู้ว่าคุณชายเซวไม่ขัดสนเรื่องเงิน ถือว่าไว้หน้าฉันแล้วกัน”
“เรื่องอะไรเราต้องไว้หน้าเธอด้วยล่ะ?”
เย่เทียนเบ้ปาก พูดอย่างไม่ใส่ใจ “แค่เพราะเธอเป็นผู้จัดการที่นี่เหรอ หรือเพราะเธอเป็นคนสวย?”
เติ้งเหวินมีท่าทีโมโหขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ แต่ไม่นานนักก็สงบลง เธอขมวดคิ้วพลางเอ่ย “นายน่าจะเป็นเย่เทียนใช่ไหม อย่าให้มันเกินไปนัก”
ด้วยความฉลาดของเธอ จะเดาฐานะของเย่เทียนไม่ออกได้ยังไง
เมื่อกี้เธอเพิ่งหารือกับหลู่ซีซานเรื่องเย่เทียน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหมอนี่จะจัดการยากขนาดนี้
แต่ดันเป็นคนแบบนี้แหละที่นอกจากเซ่เจียจะมีใจให้แล้ว กระทั่งหลู่ซีซานยังมีท่าทางปลื้มในตัวเขา เธอคิดไม่ตกเลยจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...