นิ่งเฉยมาเป็นเวลาหลายวินาที พอมั่นใจว่าไม่มีเสียงปืนดังขึ้นอีก หลู่ซีซานถึงเดินออกมาจากด้านข้างเฟอร์รารี่ มองเย่เทียนด้วยสีหน้าซับซ้อน “คุณไม่เป็นอะไรนะ?”
เมื่อข้างหูได้ยินคำพูดของหญิงสาว เย่เทียนถึงได้สติกลับมา วันนี้ต่อสู้มาไร้ประโยชน์แล้ว แม้กระทั่งยังเสียเสื้อผ้าไปชุดหนึ่ง ดันคว้าประโยชน์อะไรมาไม่ได้ นี่ทำให้เขากลัดกลุ้มมาก
แต่ว่า อยู่ต่อหน้าหลู่ซีซานสาวงดงามผู้นี้ เย่เทียนจะแสดงอารมณ์ทางนี้ออกมาไม่ได้ ถอนหายใจยาวๆ ทีหนึ่ง ยิ้มบอกแบบได้ใจ “ผมจะเป็นอะไรได้อย่างไรล่ะ? ฝีมือไม่ได้เรื่องอย่างพวกเขานี้ ถึงแม้จะมีอีกเท่าตัวก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของผมได้!”
ได้ยินคำพูดที่ค่อนข้างโอหังบ้าระห่ำนี้ของเย่เทียน อารมณ์ที่ประหม่าของหลู่ซีซานถือว่าผ่อนคลายลงมา ดวงตาที่มองทางเย่เทียนยิ่งเต็มไปด้วยความสงสัยอันเข้มข้น
ฮู้ๆ!
ลมหนาวระลอกหนึ่งพัดเข้ามา ทำเอาหลู่ซีซานหนาวจนอดตัวสั่นเทาไม่ได้
เย่เทียนสังเกตเห็นฉากนี้เข้า รู้ว่าสมรรถภาพร่างกายของหญิงสาวสู้ตนเองไม่ได้ และรู้ดีว่าสภาพในตอนนี้ไม่เหมาะสมจะอยู่นานนัก ยิ้มบอกว่า “ช่างเถอะ ผมส่งคุณกลับไปก่อนดีกว่า!”
“งั้นที่นี่จะทำอย่างไร?”
หลู่ซีซานขมวดคิ้วเล็กน้อย กวาดสายตามองสภาพโดยรอบ รู้สึกว่าในทางด้านนี้ เธอยังช่วยเป็นธุระให้ได้อยู่บ้าง
“วางใจเถอะ ฉันจะเรียกคนเข้ามาจัดการเอง”
เย่เทียนหัวเราะนิดหน่อย ดึงข้อมือของหลู่ซีซานเดินไปทางรถ
จากนั้นทั้งสองคนไม่ได้รอช้า หมุนรถกลับมุ่งลงเขาไป รอบนี้เย่เทียนไม่ได้ขับเร็ว ถือโอกาสคลำหามือถือออกมาแล้ว ต่อสายโทรศัพท์ไปหาหยวนเข่อเหวยต่อหน้าของหลู่ซีซาน
“ฉันโดนดักฆ่าเป็นรอบที่สองแล้ว”
ได้ยินในสายโทรศัพท์อีกด้านเสียงดีเจเร้าอารมณ์ดังขึ้นเป็นระลอก หางตาเย่เทียนกระตุกเล็กน้อย หยวนเข่อเหวยคนนี้ ไม่ใช่ตกลงว่าจะไปค้นหาเรื่องราวของบริษัทอะไรหรอกเหรอ? เจ้าหมอนั่นไปทำบ้าอะไรอยู่ในบาร์?
“เชี่ยเอ๊ย! รอเดี๋ยว!”
หยวนเข่อเหวยส่งเสียงตกใจ สองวันนี้เขาเป็นเหมือนปีศาจอยากตามหาร่องรอยของบริษัท แต่อีกฝ่ายดันอย่างกับหายตัวแล้ว ไม่มีเบาะแสให้ค้นหาสักนิดเดียว ทำให้เขาวิ่งไปดื่มเหล้าระบายอารมณ์ที่บาร์อย่างจำใจ นึกไม่ถึงดื่มเหล้ามาได้สองแก้ว เย่เทียนก็ตามหาถึงที่แล้ว
จากนั้นเย่เทียนสัมผัสได้ว่าเสียงดีเจค่อยๆ เบาลง เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมอนี่เดินไปยังมุมที่ค่อนข้างเงียบแล้ว “ตอนนี้สถานการณ์เป็นแบบไหนล่ะ?”
เย่เทียนมองตาค้อนแบบอารมณ์เสีย พูดอย่างตรงไปตรงมา “ในเหตุการณ์มีการนองเลือดนิดหน่อย นายรีบหาคนส่วนหนึ่งมาจัดการหน่อย ไม่อย่างนั้นให้ชาวเมืองเจอเข้าคงจะไม่ดี”
หยวนเข่อเหวยตะลึง รีบร้อนพูดว่า “อะไรเรียกว่ามีการนองเลือดนิดหน่อย? ตอนนี้เมืองจินเป็นช่วงอ่อนไหวนะ นายรีบเอาที่อยู่ให้ฉัน ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้”
“นายรีบหน่อยเถอะ!”
เย่เทียนขี้เกียจพูดไร้สาระกับหยวนเข่อเหวย วางสายโทรศัพท์ลงโดยตรง ส่งตำแหน่งเข้าไปให้หยวนเข่อเหวยแล้ว
หลู่ซีซานฟังบทสนทนาระหว่างเย่เทียนกับหยวนเข่อเหวยอยู่ด้านข้างมาตลอด ไม่ใช่เย่เทียนไม่อยากหลบเลี่ยง เพียงแค่ไม่มีทางหลบเลี่ยงเท่านั้น!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สองคนอยู่ด้านในรถคันนี้กันหมด คงไม่อาจให้หลู่ซีซานเอาแต่อุดหูไว้ได้หรอกมั้ง?
แต่ว่า หลู่ซีซานนอกจากหันหน้ามองเย่เทียนไม่ขาดสายแบบซับซ้อนมากสักหน่อย กลับไม่ได้พูดอะไรต่อเรื่องนี้
ทั้งสองเงียบงันมาตลอดทางไม่นานก็ลงมาถึงตีนเขาแล้ว ไม่ได้เจอลัมโบร์กีนีสีเหลืองคันนั้นมาตลอด เย่เทียนถึงต้องยอมรับกับตนเองว่าซวย ตอนนี้ไม่สามารถคว้าอะไรไปได้เลยจริงๆ
ไม่ว่าพูดอย่างไร นอกจากเรื่องวุ่นวายอันนี้แล้ว ทั้งสองก็ไม่มีกะจิตกะใจเที่ยวต่อไป ส่งหลู่ซีซานกลับไปโดยตรงแล้ว
หลังจากทั้งสองออกมาได้ไม่นานนัก หยวนเข่อเหวยก็นำคนกลุ่มใหญ่มายังสถานที่เกิดเหตุ
บนรถบรรทุกที่เป็นของกองทัพสองคันมีแปดเก้าคนกระโดดลงมา สังเกตเห็นภาพนองเลือดโหดเหี้ยมในสถานที่เกิดเหตุ ชั่วขณะนั้นอดถกเถียงกันขึ้นมาไม่ได้
“เชี่ยเอ๊ย! นี่แม่งสรุปเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว? เป็นพวกไหนปะทะกันเองเหรอ? ทำไมป่าเถื่อนขนาดนี้?”
“ศพเยอะขนาดนี้ ถ้าเกิดชักช้าต่อไปอีก ไม่แน่ฟ้าสว่างก็ทำไม่เสร็จ!”
ในใจหยวนเข่อเหวยกลัดกลุ้มถึงขีดสุด พูดพึมพำ “เย่เทียนเจ้าหมอนั่นก็เหลือเกิน ต้องเล่นโหดขนาดนี้เลยเหรอ? เขากลับสะใจ ดันเป็นพวกเรามาเก็บกวาด!”
ทั้งที่ความสัมพันธ์ของสองคนคือเพื่อนร่วมทีม แต่เรื่องระบายความแค้นและเก๊กหล่อล้วนให้เย่เทียนทำ เขากลับได้เพียงรับหน้าที่เก็บกวาดอย่างเชื่อฟัง
“แม่งเอ๊ย! อย่าให้ฉันได้โอกาสเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะจัดหนักให้นายสักครั้ง ให้นายรู้ว่าเก็บกวาดเรื่องแบบนี้เหนื่อยมากแค่ไหน!”
ในขณะเดียวกัน เย่เทียนก็มาถึงที่พักอาศัยของหลู่ซีซานแล้ว
สถานที่พักอาศัยหลู่ซีซานย่อมไม่แย่ไปถึงไหน เห็นคฤหาสน์ทรงกลมแบบสไตล์ยุโรปตรงหน้าหลังนี้ ตัวผนังทาเป็นสีชมพู มีภาพฝันมากแค่ไหน มองไปไกลๆ ยังเหมือนพระราชวังขนาดเล็กหลังหนึ่ง
หลังจากจอดรถจนนิ่งสนิท เย่เทียนหันหน้าพูดทางหลู่ซีซาน “เอาล่ะ ตอนนี่ถึงที่พักของคุณแล้ว เวลาก็ดึกแล้วด้วย ผมกลับไปก่อนนะ”
พูดจบ เย่เทียนอยากลงจากรถแล้วเดินไป
“เดี๋ยวก่อน!”
หลู่ซีซานส่งเสียงห้ามปราม ยิ้มบอกว่า “อยู่ทางนี้เรียกรถไม่สะดวก ถ้าไม่อย่างนั้นคุณขับรถของฉันกลับไปเถอะ?”
ชั่วขณะนั้นเย่เทียนทำท่าทางผิดหวังมาก “แบบนี้เอง? ผมยังคิดว่าคุณอยากให้ผมค้างคืนด้วยล่ะ!”
ถึงแม้หลู่ซีซานเจอความยากมาจนชินตั้งนานแล้ว แต่เผชิญหน้ากับคำพูดตรงไปตรงมานี้ของเย่เทียน ใบหน้ายังอดแดงขึ้นมาไม่ได้ ยิ้มพูดหยอกล้อ “คุณมีความคิดนี้จริง?”
“สุภาษิตว่าเอาไว้ดี: สาวสวยอ่อนช้อย เป็นคู่ครองที่ดีของชายหนุ่ม”
เย่เทียนหัวเราะหึๆ พูดอย่างใจกล้า “เทพธิดาสาวระดับแบบคุณนี้ ผมเชื่อว่าไม่ว่าผู้ชายคนใดล้วนไม่มีทางต้านทานเสน่ห์ของคุณได้หรอก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...