ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 729

“นายกำลังคุกคามพวกเราหรือไง?!”

คำพูดเย็นชาของเย่เทียนดังขึ้นในหูของเธอ เฉินหวั่นชิงไหนเลยจะฟังไม่ออกว่าเย่เทียนโกรธแล้ว แต่เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว เธอก็ไม่ได้ห้ามหยุดความคิดของเย่เทียนและยืนดูอย่างเย็นชา

“อย่าพูดเสียไม่น่าฟังขนาดนั้นสิ”

กู้ยี่เจ๋อ เหลือบมองเย่เทียนและพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า: "ทุกคนล้วนรู้ดี ว่ากู้ซื่อกรุ๊ปของพวกเราเชี่ยวชาญก็คืออุปกรณ์ในห้องทดลอง มีห้องทดลองไม่น้อยในเมืองจินที่ซื้ออุปกรณ์จากกู้ซื่อกรุ๊ปของเรา หวั่นชิงคุณเป็นคนฉลาด คุณควรรู้ว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร”

สีหน้าของเย่เทียนดูเยียบเย็นขึ้นมา “ประธานกู้ นายรู้ไหมว่าฉันเกลียดคนแบบไหนมากที่สุด?”

"แบบไหน?"

กู้ยี่เจ๋อ มองไปที่เย่เทียนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เทียนเขาจะมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?

“สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดก็คือพวกที่ชอบคิดว่าตัวเองใหญ่อย่างนาย ทำไม? มีเงินแค่นิดหน่อยก็คิดว่าโลกต้องหมุนรอบตัวนายใช่ไหม?”

เย่เทียนเบ้ปากและพูดอย่างประชดประชัน “ไม่น่าแปลกใจที่คนในวัยสามสิบอย่างนายจะยังไม่ได้แต่งงาน ใครกันจะยินดีแต่งงานกับคนที่มีพฤติกรรมอย่างนาย!”

กู้ยี่เจ๋อ ที่แต่เดิมก็ไม่ชอบเย่เทียนอย่างยิ่งอยู่แล้วได้ยินเข้าก็เอ่ยปากด่าทันที “แล้วคนอย่างแกนับเป็นตัวอะไร? มีคุณสมบัติอะไรมาสั่งสอนฉัน?"

“ประธานกู้ บางทีคุณอาจยังไม่รู้ ว่าคนอย่างผมเวลาโกรธ น่ากลัวมาก แม้กระทั่งตัวผมเองยังกลัวเลย!”

เย่เทียนยิ้มอย่างเย็นชา เขายกกำปั้นขึ้นและโบกมือขึ้นไปในอากาศและขู่เงียบๆ “พูดจากันดีๆ อย่าเอะอะก็พูดจาหยาบคาย ทำตัวไร้มารยาทซะอย่างนั้น”

กู้ยี่เจ๋อ รู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ สายตาของเขาเหลือบมองบริกรจำนวนมากและสงบขึ้นมาหลายส่วน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว “นายต้องการอะไร? ฉันจะบอกนายให้ ขอแค่ฉันเอ่ยปากสักประโยค เชื่อไหมว่าฉันสามารถทำให้นายหายไปจากโลกได้?”

เย่เทียนหัวเราะไร้เสียงและพูดติดตลกว่า "ประธานกู้ คุณเชื่อไหมว่าผมสามารถทำให้คุณหายตัวไปจากโลกได้ในตอนนี้?"

ระหว่างพูดด เย่เทียนก็พับแขนเสื้อขึ้นและมีท่าทางคล้ายกำลังจะลงมือ

เฉินหวั่นชิงรีบส่ายหัวและหยุดเขาทันที "เย่เทียน!"

แม้ว่าวันนี้กู้ยี่เจ๋อจะฉีกหน้ากากของเขาไปแล้ว แต่อย่างมากก็แค่ไม่ยืมห้องทดลองของตระกูลกู้ก็ถือว่าจบ แต่หากเย่เทียนลงมือกับกู้ยี่เจ๋อเรื่องนี้ก็จะแตกต่างออกไปแล้ว

เมื่อเย่เทียนเห็นดังนั้น เขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะจัดการกับกู้ยี่เจ๋อถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจภูมิหลังของกู้ยี่เจ๋อแต่เขาก็ต้องพิจารณาถึงความคิดของเฉินหวั่นชิง

“วันนี้ฉันขอเอ่ยปากที่นี่ หากนายต้องการแก้แค้นฉัน ฉันยินดีต้อนรับนายเสมอ แต่ถ้าฉันเห็นว่านายคิดจะทำอะไรกับหวั่นชิง ฉันขอเตือนให้นายชั่งน้ำหนักให้ดีก่อน!”

เย่เทียนกระทืบเท้าข้างหนึ่งลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นพื้นคอนกรีตแข็งก็ทรุดตัวลงทันทีเป็นรูปรอยเท้าที่ทะลวงลงไป!

ฉากนี้ทำให้กู้ยี่เจ๋อเบิกตากว้างทันที เขาไม่คาดคิดเลยว่าเย่เทียนจะมีความสามารถเช่นนี้

แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้อะไร เย่เทียนก็จับมือเล็ก ๆ ของเฉินหวั่นชิงและหันหลังเดินออกไปนานแล้ว และไม่สนใจจะเหลือบดูกู้ยี่เจ๋ออีก

เมื่อมองไปที่ด้านหลังของพวกเย่เทียนที่เดินจากไป สายตาของกู้ยี่เจ๋อก็ฉายแววอันดุเดือด เขาโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว จากนั้นก็รีบขยับมือและหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าเสื้อ

“เหล่าเฮ่าฉันอยู่ที่โรงแรมวิคตอรี่ถ้าจำไม่ผิด อยู่ใกล้นายมากใช่ไหม? ฉันให้เวลานายห้านาทีรีบตามมาให้ทัน ถ้านายมาช้าก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ! "

โรงแรมวิคตอรี่แห่งนี้ค่อนข้างใหญ่โต อีกทั้งพวกเขาก็อยู่บนชั้น 26 ของโรงแรม ดังนั้นหากคิดจะลงไปชั้นหนึ่ง ลิฟต์ที่ไปๆหยุดๆก็ต้องใช้เวลาเกือบห้านาที

ชายที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์ตกใจ ก่อนจะรีบเอ่ยเอาใจ “ประธานกู้ คุณมีอะไรอยากจะสั่งสามารถเอ่ยมาได้เลยครับ จะโมโหทำไมกันล่ะครับ?”

เย่เทียนหัวเราะหึหึและนวดมือน้อยของเฉินหวั่นชิงอย่างนุ่มนวล “พวกเราแต่งงานกันมานานขนาดนี้แล้ว ถึงเวลาคิดเรื่องลูกแล้วไม่ใช่หรือ?”

ในเวลานี้ พวกเขาบังเอิญก้าวเข้าไปในลิฟต์ ในพื้นที่ที่เปล่าเปลี่ยวนี้ เย่เทียนกอดเอวที่อ่อนนุ่มของเฉินหวั่นชิงเอาไว้และจูบปากเล็กๆ ของเธออย่างหิวกระหาย

จูบอันฉ่ำร้อนเป็นไปตั้งแต่ชั้นบนจนถึงชั้นล่างกินเวลานานหลายนาที เฉินหวั่นชิงรู้สึกว่าเธอกำลังจะหายใจไม่ออก และตัวของเธอก็รู้สึกอึดอัดมากขึ้นไปอีก เธออดไม่ได้ที่จะโอบแขนของเย่เทียนและปล่อยให้มันตกลงไปในร่องอกของเธอ

ดิ๊งดอง!

จนกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก เย่เทียนจึงปล่อยหญิงสาวออกอย่างไม่เต็มใจ มุมปากของเขายกยิ้มอย่างพออกพอใจและพา เฉินหวั่นชิงออกไปนอกโรงแรม

อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากโรงแรมและกำลังจะหาแท็กซี่เพื่อจากไป กลัวมีคนมาขวางพวกเขาเอาไว้

ในฐานะเจ้าถิ่นของพื้นที่นี้อย่างเฮ่ายี่ อีกทั้งยังเป็นสมาชิกของแก๊งหวงจี๋ เขาที่นำพรรคพวกหลายสิบคนก็ถือว่าโดดเด่นอยู่ไม่น้อย

แต่วันนี้ จู่ๆ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายของตน ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงเลิกสนใจสาวๆรอบตัวทันที และรีบตามไปโดยเร็วที่สุด!

หลังจากมาถึงประตูโรงแรมในเวลาเพียงห้านาที เขาก็พาพรรคพวกกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าประตู แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลากลางวันแสกๆ และมีคนไปมาที่ประตูโรงแรมวิคตอรี่ แต่เขาได้รับข้อความจากกู้ยี่เจ๋อก่อนแล้วและเห็นเฉินหวั่นชิงได้อย่างรวดเร็ว แล้วไหนเลยจะไม่รู้ว่าเย่เทียนที่จับมือกับเฉินหวั่นชิงอยู่จะเป็นตัวการที่ทำให้กู้ยี่เจ๋อขุ่นเคือง

เมื่อเห็นเย่เทียนออกมาจากโรงแรม เฮ่ายี่ก็เปรียบเทียบภาพถ่ายของเฉินหวั่นชิงที่กู้ยี่เจ๋อส่งมาอย่างระมัดระวัง หลังจากกำหนดเป้าหมายได้แล้ว เขาก็นำคนวิ่งเข้าไปและมองดูทั้งสองอย่างจองหอง "พวกนายหยุดเดี๋ยวนี้!"

เมื่อเห็นคนเหล่านี้เดินเข้ามาอย่างดุเดือด ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนก็หรี่ลงเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มกึ่งบึ้งว่า "นายเป็นใคร? สุนัขที่ดีไม่ขวางทางผู้อื่น ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะเสียเวลากับกุ้งตัวเล็กตัวน้อยอย่างพวกนาย"

“ไอ้หนู แกมันบ้าไปแล้ว!”

เฮ่ายี่ตกตะลึง จากนั้นก็เยาะเย้ยทันที: "วันนี้ฉันท่านเฮ่าจะให้นายได้รู้ว่า เป็นคนต้องรู้จักถ่อมตัวบ้าง!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่