อย่างกับที่กู่หงเลี่ยงพูด ไม่ถึงสิบห้านาที ก็มีรถตู้กว่าสามสี่คันขับมาแล้ว ขว้างกั้นถนนไว้ส่วนใหญ่อย่างหน้าไม่อายเลย
ถนนเส้นนี้เดิมทีเป็นถนนสองเลนส์ รถตู้สามสี่คันนี้จอดเรียงขวางถนนไว้แล้ว ทำให้คนขับรถคันด้านหลังก็พูดด่าทอออกมา แต่ตอนที่ประตูรถตู้เปิดออก มองเห็นคนที่เดินลงมาอย่างชัดเจน กลุ่มคนขับรถก็ตกใจไม่เบาเลย ตกตะลึงจนไม่มีใครกล้าไปพูดเหตุผลกับคนเขา
ไม่มีอย่างอื่น คนที่ลงมาจากในรถตู้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นพวกนักเลงข้างถนนที่ออกมาใช้ชีวิตรอดวันๆ แต่ละคนล้วนแต่มีสีหน้าท่าทางที่ดุร้าย ในมือก็ถืออาวุธอย่างท่อเหล็ก มีดประเภทนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนที่จะมายั่วยุกันได้ง่ายๆ
“อย่าไป เหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนของแก๊งหวงจี๋!”
“ใช่!ฉันรู้จักคนหัวล้านที่เป็นผู้นำคนนั้น เขาก็คือคนของแก๊งหวงจี๋ !”
“เยสเข้!ทำไมหัวล้านเขามาถึงที่นี่ได้ล่ะ?เขาเป็นคนดูแลที่บาร์เขตตะวันตกไม่ใช่เหรอ?”
“นี่ยังจำเป็นต้องเดา?ต้องมีใครบางคนไม่ดูตาม้าตาเรือล่วงเกินพวกเขาเข้าแล้ว”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนที่ดังก้องอยู่ในหู นักเลงกว่ายี่สิบคนถืออาวุธลงมาจากรถตู้ โดยเฉพาะชายหัวล้านที่ถูกพูดชื่อนั้น แต่ละคนต่างก็เผยรอยยิ้มที่เย่อหยิ่งได้ใจออกมาแล้ว
ชายหัวล้านมองดูออกไปรอบๆแล้ว ตอนที่สายตาสัมผัสกับคุณชายกู่รีบเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กระตือรือร้นและประจบสอพลอทันที วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“คุณชายกู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?คนไหนที่มันไม่ดูตาม้าตาเรือมาล่วงเกินคุณแล้ว?”
“นั่น ไอ้สารเลวที่นั่งอยู่ในรถคนนั้น!”
ใบหน้าของกู่หงเลี่ยงเผยรอยยิ้มที่ได้ใจออกมา ยื่นมือไปทางเย่เทียนที่นั่งอยู่ในรถ “ไอ้หมอนั่นชนรถของฉันไม่พอ ยังไม่ยอมจ่ายค่าชดใช้อีก”
“เยสเข้!ชนรถของคุณชายกู่ยังไม่ยอมชดใช้เงิน?ไอ้สารเลวตัวไหนมันเย่อหยิ่งขนาดนี้?”
สีหน้าท่าทางบนใบหน้าของชายหัวล้านเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที ตบอกพร้อมพูดรับประกันว่า : “คุณชายกู่คุณวางใจเถอะ ผมรับรองว่าไอ้หมอนั่นจะต้องได้เห็นดีกันแน่!”
พูดจบ ชายหัวล้านก็หันหลังเดินไปยังรถอาวดี้ที่เย่เทียนนั่งอยู่
ปังปัง!
เสียงทุบกระจกอย่างหยาบคายแผ่ซ่านเข้ามาในหู เย่เทียนที่หลับตาพักสมองในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว มองดูชายหัวล้านรูปร่างใหญ่โตที่อยู่นอกหน้าต่างรถด้วยสายตาที่นิ่งสงบ มุมปากยิ้มยกชั่วร้ายออกมา “มีธุระอะไรเหรอ?”
“เด็กน้อย แกคิดว่าแสร้งทำตัวโง่แล้วมันจะผ่านพ้นไปได้เหรอ?”
ชายหัวหน้ายิ้มอย่างเยือกเย็นพร้อมพูดว่า : “แกแม่งชนรถของคุณชายกู่ยังไม่ยอมชดใช้เงินอีก ฉันว่าแกคงเบื่อกับชีวิตแล้วสินะ? ”
“คนฉลาดล้วนแต่มองออก เห็นชัดๆว่าเขาเป็นคนชนฉัน”
เย่เทียนได้ยินเข้า ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง พูดอธิบายให้ชายหัวล้านฟังอย่างจริงจังว่า : “สังคมสมัยนี้เป็นอะไรไปแล้ว?พูดกันด้วยเหตุผลบ้างไหม?ทำไมคนชั่วถึงกล้าที่จะแย่งกล่าวหาผู้อื่นก่อน?”
“พูดเหตุผลใช่ไหม?งั้นฉันจะบอกแกตอนนี้เลย กูต้าเปียว ก็คือเหตุผล!ก็คือกฎหมาย!”
ชายหัวล้านที่เรียกตัวเองว่าต้าเปียวพูดคำรามอย่างรุนแรงไปยังเย่เทียนว่า: “แกแม่งหยุดพูดร่ำไรสักที รีบชดใช้เงินมา ไม่เช่นนั้นฉันจะจัดการอย่างโหดเหี้ยม!”
ข่มขู่เย่เทียนด้วยใบหน้าที่ดุร้ายแล้ว เขาก็หันหน้ากลับมา พูดถามกู่หงเลี่ยงว่า : “คุณชายกู่จะให้เขาชดใช้เงินเท่าไหร่ครับ?”
“หนึ่งล้าน!”
มุมปากของกู่หงเลี่ยงเผยรอยยิ้มที่โหดร้าย “หนึ่งแสนต่อหนึ่งนิ้ว ขาดไปเท่าไหร่ก็ตัดนิ้วเท่านั้น!”
“ครับ!”
สำหรับต้าเปียวแล้วก็ไม่มีความคิดเห็นอะไร พยักหน้าเล็กน้อยพูดตะโกนเสียงดังไปยังเย่เทียนอีกว่า : “เด็กน้อย แกแม่งได้ยินที่คุณชายกู่พูดแล้วสินะ?รีบเอาเงินสองล้านออกมา ไม่งั้นแม้แต่นิ้วเท้าก็ถูกสับหมดแล้ว!”
ปัง!
ต้าเปียวจะเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เทียนได้ยังไงกัน ในเวลานี้หน้าท้องถูกกระแทกอย่างรุนแรงอีกครั้งทันที ถอยลงไปอย่างต่อเนื่องอย่างไม่อาจจะควบคุมได้
โชคดีพวกลูกสมุนสามสี่คนที่เขาพามามีปฏิกิริยาตอบสนองไว ประคองเขาไว้อย่างรวดเร็ว ถึงไม่ได้ทำให้เขาล้มนั่งลงกับพื้นอย่างหนักหน่วงอีก
“เด็กน้อย ฉันว่าแกคงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆสินะ!”
ต้าเปียวโมโหอย่างสมบูรณ์แล้ว แววตาจับจ้องไปยังเย่เทียนราวกับพ่นไฟออกมายังไงอย่างนั้น ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเย่เทียนคงถูกแล่เนื้อออกมาเป็นชิ้นๆตั้งนานแล้ว
“ทำไม?แกยังคิดอยากจะต่อยฉันอีกงั้นเหรอ?”
เย่เทียนยักไหล่อย่างไม่สนใจ ไม่ได้เห็นคำขู่ของต้าเปียวอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
เดิมทีเขาไม่ได้คิดที่จะลงไม้ลงมือ แต่เหลยเหลาหู่ดันมาช้าขนาดนี้ คนกลุ่มนี้ก็รอไม่ไหวแล้ว เขาก็ไม่ถือสาที่จะออกโรงสั่งสอนพวกเขาก่อน
ต้าเปียวโมโหจนคอเป็นเอ็น ยกมือขึ้นคิดอยากจะควักมือเรียกลูกสมุนให้พุ่งไปยังเย่เทียน
แต่ในเวลานี้ กู่หงเลี่ยงเดินออกมาก่อนแล้ว สายตาที่มองไปยังเย่เทียนเผยความชื่นชมเล็กน้อย “เด็กน้อย ฉันว่าทักษะของแกนี่ไม่เลวเลยนะ เคยฝึกมาก่อนใช่ไหม?”
เย่เทียนยักไหล่ เบะปากพร้อมพูดว่า : “ธรรมดาๆ อันดับสามของโลก”
“เด็กน้อย ฉันเชื่อว่าแกเป็นคนฉลาด ในเมื่อทักษะของแกไม่เลวเลย แต่สุภาษิตพูดไว้ได้ดีมาก อย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง คนของฉันมีมากมายเช่นนี้ สามารถชกต่อยแกให้นอนคว่ำหน้าได้แน่นอน”
กู่หงเลี่ยงกลอกตาสองรอบ พูดอย่างยิ้มกริ่มว่า : “แต่ว่า ฉันกู่หงเลี่ยงเป็นคนใจกว้าง ฉันไม่ให้แกชดใช้เงินได้ เพียงแค่แกคุกเข่าลงโขลกศีรษะยอมรับผิดกับฉัน และต่อไปทำงานให้ฉัน เรื่องนี้ก็จะถือว่าปล่อยผ่านไปแล้ว”
แต่ว่า เย่เทียนปฏิเสธความใจกว้างที่คิดไปเองของกู่หงเลี่ยงอย่างไม่ลังเล พูดเยาะเย้ยว่า : “อย่าว่าแต่ให้ฉันคุกเข่าลงให้แกเลย แม้ว่าแกคุกเข่าลงให้ฉัน ฉันก็รู้สึกว่ามันน่าอับอาย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...