ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 755

อย่างกับที่กู่หงเลี่ยงพูด ไม่ถึงสิบห้านาที ก็มีรถตู้กว่าสามสี่คันขับมาแล้ว ขว้างกั้นถนนไว้ส่วนใหญ่อย่างหน้าไม่อายเลย

ถนนเส้นนี้เดิมทีเป็นถนนสองเลนส์ รถตู้สามสี่คันนี้จอดเรียงขวางถนนไว้แล้ว ทำให้คนขับรถคันด้านหลังก็พูดด่าทอออกมา แต่ตอนที่ประตูรถตู้เปิดออก มองเห็นคนที่เดินลงมาอย่างชัดเจน กลุ่มคนขับรถก็ตกใจไม่เบาเลย ตกตะลึงจนไม่มีใครกล้าไปพูดเหตุผลกับคนเขา

ไม่มีอย่างอื่น คนที่ลงมาจากในรถตู้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นพวกนักเลงข้างถนนที่ออกมาใช้ชีวิตรอดวันๆ แต่ละคนล้วนแต่มีสีหน้าท่าทางที่ดุร้าย ในมือก็ถืออาวุธอย่างท่อเหล็ก มีดประเภทนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนที่จะมายั่วยุกันได้ง่ายๆ

“อย่าไป เหมือนว่าพวกเขาจะเป็นคนของแก๊งหวงจี๋!”

“ใช่!ฉันรู้จักคนหัวล้านที่เป็นผู้นำคนนั้น เขาก็คือคนของแก๊งหวงจี๋ !”

“เยสเข้!ทำไมหัวล้านเขามาถึงที่นี่ได้ล่ะ?เขาเป็นคนดูแลที่บาร์เขตตะวันตกไม่ใช่เหรอ?”

“นี่ยังจำเป็นต้องเดา?ต้องมีใครบางคนไม่ดูตาม้าตาเรือล่วงเกินพวกเขาเข้าแล้ว”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนที่ดังก้องอยู่ในหู นักเลงกว่ายี่สิบคนถืออาวุธลงมาจากรถตู้ โดยเฉพาะชายหัวล้านที่ถูกพูดชื่อนั้น แต่ละคนต่างก็เผยรอยยิ้มที่เย่อหยิ่งได้ใจออกมาแล้ว

ชายหัวล้านมองดูออกไปรอบๆแล้ว ตอนที่สายตาสัมผัสกับคุณชายกู่รีบเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่กระตือรือร้นและประจบสอพลอทันที วิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“คุณชายกู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?คนไหนที่มันไม่ดูตาม้าตาเรือมาล่วงเกินคุณแล้ว?”

“นั่น ไอ้สารเลวที่นั่งอยู่ในรถคนนั้น!”

ใบหน้าของกู่หงเลี่ยงเผยรอยยิ้มที่ได้ใจออกมา ยื่นมือไปทางเย่เทียนที่นั่งอยู่ในรถ “ไอ้หมอนั่นชนรถของฉันไม่พอ ยังไม่ยอมจ่ายค่าชดใช้อีก”

“เยสเข้!ชนรถของคุณชายกู่ยังไม่ยอมชดใช้เงิน?ไอ้สารเลวตัวไหนมันเย่อหยิ่งขนาดนี้?”

สีหน้าท่าทางบนใบหน้าของชายหัวล้านเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที ตบอกพร้อมพูดรับประกันว่า : “คุณชายกู่คุณวางใจเถอะ ผมรับรองว่าไอ้หมอนั่นจะต้องได้เห็นดีกันแน่!”

พูดจบ ชายหัวล้านก็หันหลังเดินไปยังรถอาวดี้ที่เย่เทียนนั่งอยู่

ปังปัง!

เสียงทุบกระจกอย่างหยาบคายแผ่ซ่านเข้ามาในหู เย่เทียนที่หลับตาพักสมองในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว มองดูชายหัวล้านรูปร่างใหญ่โตที่อยู่นอกหน้าต่างรถด้วยสายตาที่นิ่งสงบ มุมปากยิ้มยกชั่วร้ายออกมา “มีธุระอะไรเหรอ?”

“เด็กน้อย แกคิดว่าแสร้งทำตัวโง่แล้วมันจะผ่านพ้นไปได้เหรอ?”

ชายหัวหน้ายิ้มอย่างเยือกเย็นพร้อมพูดว่า : “แกแม่งชนรถของคุณชายกู่ยังไม่ยอมชดใช้เงินอีก ฉันว่าแกคงเบื่อกับชีวิตแล้วสินะ? ”

“คนฉลาดล้วนแต่มองออก เห็นชัดๆว่าเขาเป็นคนชนฉัน”

เย่เทียนได้ยินเข้า ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มไม่เปลี่ยนแปลง พูดอธิบายให้ชายหัวล้านฟังอย่างจริงจังว่า : “สังคมสมัยนี้เป็นอะไรไปแล้ว?พูดกันด้วยเหตุผลบ้างไหม?ทำไมคนชั่วถึงกล้าที่จะแย่งกล่าวหาผู้อื่นก่อน?”

“พูดเหตุผลใช่ไหม?งั้นฉันจะบอกแกตอนนี้เลย กูต้าเปียว ก็คือเหตุผล!ก็คือกฎหมาย!”

ชายหัวล้านที่เรียกตัวเองว่าต้าเปียวพูดคำรามอย่างรุนแรงไปยังเย่เทียนว่า: “แกแม่งหยุดพูดร่ำไรสักที รีบชดใช้เงินมา ไม่เช่นนั้นฉันจะจัดการอย่างโหดเหี้ยม!”

ข่มขู่เย่เทียนด้วยใบหน้าที่ดุร้ายแล้ว เขาก็หันหน้ากลับมา พูดถามกู่หงเลี่ยงว่า : “คุณชายกู่จะให้เขาชดใช้เงินเท่าไหร่ครับ?”

“หนึ่งล้าน!”

มุมปากของกู่หงเลี่ยงเผยรอยยิ้มที่โหดร้าย “หนึ่งแสนต่อหนึ่งนิ้ว ขาดไปเท่าไหร่ก็ตัดนิ้วเท่านั้น!”

“ครับ!”

สำหรับต้าเปียวแล้วก็ไม่มีความคิดเห็นอะไร พยักหน้าเล็กน้อยพูดตะโกนเสียงดังไปยังเย่เทียนอีกว่า : “เด็กน้อย แกแม่งได้ยินที่คุณชายกู่พูดแล้วสินะ?รีบเอาเงินสองล้านออกมา ไม่งั้นแม้แต่นิ้วเท้าก็ถูกสับหมดแล้ว!”

ปัง!

ต้าเปียวจะเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เทียนได้ยังไงกัน ในเวลานี้หน้าท้องถูกกระแทกอย่างรุนแรงอีกครั้งทันที ถอยลงไปอย่างต่อเนื่องอย่างไม่อาจจะควบคุมได้

โชคดีพวกลูกสมุนสามสี่คนที่เขาพามามีปฏิกิริยาตอบสนองไว ประคองเขาไว้อย่างรวดเร็ว ถึงไม่ได้ทำให้เขาล้มนั่งลงกับพื้นอย่างหนักหน่วงอีก

“เด็กน้อย ฉันว่าแกคงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆสินะ!”

ต้าเปียวโมโหอย่างสมบูรณ์แล้ว แววตาจับจ้องไปยังเย่เทียนราวกับพ่นไฟออกมายังไงอย่างนั้น ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเย่เทียนคงถูกแล่เนื้อออกมาเป็นชิ้นๆตั้งนานแล้ว

“ทำไม?แกยังคิดอยากจะต่อยฉันอีกงั้นเหรอ?”

เย่เทียนยักไหล่อย่างไม่สนใจ ไม่ได้เห็นคำขู่ของต้าเปียวอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ

เดิมทีเขาไม่ได้คิดที่จะลงไม้ลงมือ แต่เหลยเหลาหู่ดันมาช้าขนาดนี้ คนกลุ่มนี้ก็รอไม่ไหวแล้ว เขาก็ไม่ถือสาที่จะออกโรงสั่งสอนพวกเขาก่อน

ต้าเปียวโมโหจนคอเป็นเอ็น ยกมือขึ้นคิดอยากจะควักมือเรียกลูกสมุนให้พุ่งไปยังเย่เทียน

แต่ในเวลานี้ กู่หงเลี่ยงเดินออกมาก่อนแล้ว สายตาที่มองไปยังเย่เทียนเผยความชื่นชมเล็กน้อย “เด็กน้อย ฉันว่าทักษะของแกนี่ไม่เลวเลยนะ เคยฝึกมาก่อนใช่ไหม?”

เย่เทียนยักไหล่ เบะปากพร้อมพูดว่า : “ธรรมดาๆ อันดับสามของโลก”

“เด็กน้อย ฉันเชื่อว่าแกเป็นคนฉลาด ในเมื่อทักษะของแกไม่เลวเลย แต่สุภาษิตพูดไว้ได้ดีมาก อย่าเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง คนของฉันมีมากมายเช่นนี้ สามารถชกต่อยแกให้นอนคว่ำหน้าได้แน่นอน”

กู่หงเลี่ยงกลอกตาสองรอบ พูดอย่างยิ้มกริ่มว่า : “แต่ว่า ฉันกู่หงเลี่ยงเป็นคนใจกว้าง ฉันไม่ให้แกชดใช้เงินได้ เพียงแค่แกคุกเข่าลงโขลกศีรษะยอมรับผิดกับฉัน และต่อไปทำงานให้ฉัน เรื่องนี้ก็จะถือว่าปล่อยผ่านไปแล้ว”

แต่ว่า เย่เทียนปฏิเสธความใจกว้างที่คิดไปเองของกู่หงเลี่ยงอย่างไม่ลังเล พูดเยาะเย้ยว่า : “อย่าว่าแต่ให้ฉันคุกเข่าลงให้แกเลย แม้ว่าแกคุกเข่าลงให้ฉัน ฉันก็รู้สึกว่ามันน่าอับอาย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่