ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 772

เมื่อเห็นว่ากู่เจิ้นเจียงและอูชิงเจ๋อสองคนกำลังจะปะทะกัน ลูกน้องทั้งสองฝ่ายไม่ยอมน้อยหน้า พากันสบถก่นด่า

“คุณหนูกู้ เรื่องที่พี่ใหญ่เกิดอุบัติเหตุเป็นฝีมือของไอ้สารเลวอูชิงเจ๋อครับ คุณต้องลงโทษไอ้เนรคุณนี่ให้หนัก!”

“ใช่แล้วครับคุณหนูกู้ ตามหลักแก๊งเรา ต้องตัดเอ็นแขนขาของไอ้เนรคุณคนนี้ แล้วไล่ออกจากแก๊งหวงจี๋ของเรา!”

“พวกนายอย่ามาปรักปรำกันนะโว้ย เรื่องของพี่ใหญ่เป็นฝีมือของพวกนายชัดๆ!”

“คุณหนูกู้ คนที่ต้องโดนลงโทษคือคนทรยศอย่างกู่เจิ้นเจียงต่างหากครับ!”

ชั่วขณะนั้น ทั้งห้องประชุมไม่เหลือความขึงขังน่าเกรงขาม วุ่นวายอย่างกับตลาดสด ครื้นเครงถึงขีดสุด

มองพวกผู้ชายที่ประชันกันดุดันตรงหน้า คิ้วเรียวของกู้หยุนขมวดมุ่น ทนความเอะอะที่รบกวนแก้วหูต่อไปไม่ไหวอีกต่อไป เธอตบโต๊ะอย่างแรง ลุกขึ้นตะคอก “พอได้แล้ว! หุบปากให้หมด!”

ไม่กี่คำสั้นๆ ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายหุบปากในทันใด ห้องประชุมกลับสู่ความสงบอีกครั้ง

“ที่ฉันให้พวกนายมาในคืนนี้เพราะหวังให้พวกนายเลือกหัวหน้าใหญ่ ไม่ใช่มาโต้เถียงกัน!”

กู้หยุนกวาดสายตามองทุกคนหนึ่งรอบ และตำหนิด้วยสีหน้าเย็นชา “ดูพวกนายแต่ละคนสิ มีความเป็นพี่ใหญ่เสียที่ไหน? อย่างกับป้าขายผักในตลาดสด ไม่กลัวว่าเรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วจะโดนคนอื่นหัวเราะเยาะรึ!”

แม้จะโดนเพศสตรีด่าว่า แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ในนี้กลับไม่กล้าส่งเสียง ไม่กล้าแม้แต่จะพูด

“ตอนนี้ ลดระดับเสียงลงซะ ทุกคนนั่งลงหารือกันดีๆและเลือกคนออกมาดูแลแก๊งหวงจี๋! ไม่ยากใช่ไหม?”

เมื่อเธอพูดเช่นนี้ ผู้คนที่เงียบไปได้ครู่หนึ่งก็โหวกเหวกขึ้นมาอีกครั้ง คนในที่นี้นอกจากกู้หยุนแล้ว ที่เหลือเลือกฝั่งกันหมด ไม่ว่าจะสนับสนุนกู่เจิ้นเจียงหรือสนับสนุนอูชิงเจ๋อ ต่างหวังให้คนที่ตัวเองสนับสนุนได้เป็นหัวหน้าใหญ่

เทียบกับสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ความแตกต่างเดียวเห็นทีจะเป็นเรื่องที่ทุกคนพูดกันเบาลง เห็นได้ชัดว่ายำเกรงกู้หยุนมาก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังไม่เท่าไหร่ เจ็ดตัวเบิ้มแห่งแก๊งหวงจี๋มีสี่คนที่เข้าข้างกู่เจิ้นเจียง แต่เวลานี้ชุยเต๋อเพิ่งโดนจัดการไป ไม่ว่าจะเป็นกู่เจิ้นเจียงหรืออูชิงเจ๋อต่างมีตัวเบิ้มสนับสนุนอยู่สามคน จึงทะเลาะกันหน้าคอแดงก่ำ ไม่มีใครยอมใคร

กู้หยุนเห็นแบบนั้นได้แต่ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ไม่พูดอะไรอีก นั่งรอให้พวกเขาทะเลาะจนล้าแล้วค่อยว่ากัน

เวลาผ่านไปช้าๆ หลังจากโต้เถียงกันอย่างดุเดือดมากว่าครึ่งชั่วโมง ท้ายสุดทั้งสองฝ่ายยังหารือไม่ได้ผล

“อูชิงเจ๋อ นายไม่ฉี่แล้วชะโงกดูเงาตัวเองหน่อยวะ คนแขนขาผอมแห้งอย่างนายมีสิทธิ์อะไรอยู่ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่?”

อูชิงเจ๋อตอบโต้กู่เจิ้นเจียงอย่างไม่ยอมแพ้ “หรือต้องแขนขากำยำแต่เซลล์สมองน้อยนิดอย่างนายเหรอ ถึงจะเป็นหัวหน้าใหญ่ได้? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆฉันว่าแก๊งหวงจี๋ของเราคงได้ยุบในเวลาไม่ถึงสองปีแน่!”

กู่เจิ้นเจียงเดือดสุดๆ แทบจะระงับความโกรธไม่ไหวแล้วพุ่งเข้าไปจัดการอูชิงเจ๋อ

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงเอะอะพลันดังขึ้นข้างนอก ประตูบานใหญ่ของห้องประชุมโดนผลักออกโดยไม่มีวี่แววก่อนหน้าอีกครั้ง

“ไม่รู้เหรอว่าพวกเรากำลังคุยเรื่องสำคัญกันอยู่ ใครวะยังจะกล้าเข้ามาอีก!”

ตัวเบิ้มคนหนึ่งอดด่าไม่ได้ แต่เมื่อเขาหันไป ความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึง กระทั่งคำพูดยังอึกๆอักๆ “คุณ คุณชายเย่….”

ใช่แล้ว คนที่เดินเข้าห้องประชุมในเวลานี้ก็คือคุณชายใหญ่ตระกูลเย่ เย่หย่งโซ่!

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ฝ่ายกู่เจิ้นเจียงกับอูชิงเจ๋อไม่ว่าอะไร จึงรอคอยบทต่อไปของเย่หย่งโซ่

ถึงกู้หยุนจะเป็นคนตระกูลกู้ แต่ฐานทัพหลักของตระกูลกู้ไม่อยู่ที่เมืองจิน อยู่ไกลขนาดนั้น จะมีอำนาจเท่าเย่หย่งโซ่ที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่เจ้าถิ่นได้ยังไง?

“พื้นที่ที่พวกคุณคุมอยู่มีเกือบสี่สิบที่ คืนนี้พวกนายถอนคนออกมาให้หมด นับจากพรุ่งนี้ไปหนึ่งสัปดาห์ ใครครอบครองพื้นที่ได้เยอะกว่ากัน คนนั้นได้เป็นหัวหน้าใหญ่คนใหม่”

คำพูดของเย่หย่งโซ่เรียกได้ว่าไร้สาระถึงขีดสุด นี่มันไม่ใช่การชิงตำแหน่งธรรมดาแล้ว นี่จะให้พวกเขารบกันเต็มกำลังชัดๆ!

หากต้องรบกันเต็มกำลัง อูชิงเจ๋อเกรงกลัวในกู่เจิ้นเจียงอยู่นิดหน่อย เขาขมวดคิ้วทันควัน “คุณชายเย่ ยังไงซะพวกเราก็เป็นคนของแก๊งหวงจี๋ ทำแบบนี้จะบั่นทอนความสมานฉันท์เกินไปไหม”

“ทำไมเหรอ นายปอดแหกขึ้นมารึไง? ถ้ากลัวก็ถอนตัวเสีย อย่าเสียเวลาคนอื่นเลย”

พอเห็นอูชิงเจ๋อมีทีท่าอ่อนข้อ กู่เจิ้นเจียงรีบจี้จุด เขามั่นใจว่าตัวเองมีการช่วยเหลือจากตระกูลเย่ ไม่มีอะไรต้องห่วง!

อูชิงเจ๋อพูดอย่างกราดเกรี้ยว “ใครบอกว่าฉันกลัว!”

“ได้! ในเมื่อพวกคุณสองคนไม่ว่าอะไร งั้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากนี้เรามาดูผลกัน!”

เย่หย่งโซ่ฟันธงก่อนจะเปลี่ยนนำ้เสียง เขาเอ่ยยิ้มๆ “แต่ภายในหนึ่งสัปดาห์นี้ แก๊งหวงจี๋จะไม่มีคนดูแลไม่ได้ ฉันเสนอว่าให้คุณหนูกู้จัดการเรื่องต่างๆภายในแก๊งหวงจี๋ในหนึ่งสัปดาห์นี้ น่าจะไม่มีปัญหาใช่ไหม?”

พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว กู่เจิ้นเจียงและอูชิงเจ๋อไม่เหลืออารมณ์ร้อน ได้แต่พยักหน้าตกลง…..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่