“ผู้กองเจียว คุณอยู่ในตำแหน่งนี้มานานแล้วใช่ไหม เชื่อว่าคุณอยากก็อยากก้าวไปข้างหน้า แต่ติดที่ไร้ซึ่งความดีความชอบล่ะสิ?”
นัยน์ตาสีนิลของเย่เทียนจ้องเจียวซินข่ายเขม็ง พูดด้วยใบหน้ากึ่งยิ้ม “แก๊งหวงจี๋ในตอนนี้ ถือเป็นโอกาสดีของคุณไม่ใช่เหรอ”
เจียวซินข่ายได้ฟังดังนั้น เริ่มหวั่นไหวขึ้นมา เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับแก๊งหวงจี๋ในช่วงนี้ดี เดิมคิดว่าถ้าไม่เล่นกันหนักข้อเกินไป เขาเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ก็ได้
บัดนี้มีเย่เทียนยกเรื่องนี้ขึ้นมา เขารู้สึกว่ามีเหตุผลจริงๆ
“คุณชายเย่ คุณหมายความว่าให้กำจัดแก๊งหวงจี๋ไปอย่างสมบูรณ์เหรอ?”
เย่เทียนยิ้มน้อยๆ พูดอย่างลึกล้ำ “ใช่! แต่ก็ไม่ใช่!”
“คุณชายเย่ ผมโง่เขลานัก คุณหมายความว่ายังไง?”
เจียวซินข่ายขมวดคิ้วเป็นปม ไม่ค่อยเข้าใจความคิดเย่เทียนเท่าไหร่
“ฉันหมายความว่า คุณเลือกลงมือกับคนจำนวนหนึ่งก็ได้”
เย่เทียนยิ้มแบบไม่จริงใจ “ตอนนี้ในแก๊งหวงจี๋ที่มีปัญหากันหนักๆก็มีแค่ไม่กี่คน คุณเชือดไก่ให้ลิงดูได้เลย เชื่อว่าคนที่เหลือคงไม่กล้าวู่วามอีก!”
เจียวซินข่ายพยักหน้าอย่างถึงบางอ้อ ที่ตอนนี้แก๊งหวงจี๋โกลาหลก็เพราะรองหัวหน้าสองคนอย่างกู่เจิ้นเจียงกับอูชิงเจ๋อแย่งอำนาจกัน ที่เย่เทียนพูดมาคือต้องการจะจัดการพวกเขาสองคนอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ ตอนนี้สวีพานรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้ารองหัวหน้าสองคนติดคุกกันหมด แก๊งหวงจี๋ก็จะไร้ผู้นำ เป็นความดีความชอบชิ้นใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงเวลานั้นตระกูลเย่ของเย่เทียนช่วยพูดเข้าข้างตัวเองอีกหน่อย ไม่แน่อาจจะเลื่อนตำแหน่งได้จริงๆ
คิดมาถึงนี่ เจียวซินข่ายตัดสินใจได้ รีบลุกขึ้นแสดงเจตจำนง “คุณชายเย่วางใจได้ ผมรับประกันว่าจะจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ดี ให้คุณออกจากบ้านได้อย่างสบายใจหลังจากนี้!”
“ถ้าอย่างนั้นหวังว่าผู้กองเจียวจะทำตามที่พูดได้นะ!”
เมื่อเห็นว่าในที่สุดเจียวซินข่ายก็เข้าใจแล้ว เย่เทียนจึงไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อ เขาลุกขึ้นพลางเอ่ย “ผู้กองเจียว ฉันมีธุระต่อ ไม่รบกวนคุณแล้ว”
เห็นเย่เทียนไม่พูดเรื่องเฮ่อจงเทียน เจียวซินข่ายย่อมไม่โง่พูดขึ้นมาเอง จึงรีบลุกขึ้นส่งเย่เทียนออกจากสถานีตำรวจ
หลังจากกลับมาอีกครั้ง เขารีบออกคำสั่ง หากแก๊งหวงจี๋มีวี่แววจะมีปัญหา ให้ลงมือจับกุมทันที!
หลังจากออกจากสถานีตำรวจมาแล้ว เดิมเย่เทียนอยากไปบ้านหลังเล็กตระกูลเย่ แต่คิดไปคิดมา เขาไปที่ตระกูลเซวก่อน
สองวันมานี้เขาไม่ได้ติดต่อกับจี้เยียนหรัน พวกนั้นต้องเป็นห่วงเป็นธรรมดา
เย่เทียนก็ไม่พูดอะไรมาก เพียงแต่บอกให้ทั้งหมดเพิ่มกองกำลังรักษา ช่วงนี้ไม่ออกจากบ้านได้ก็ไม่ต้องออก
นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ สิ่งทีเย่เทียนกังวลไม่ใช่บริษัทนักฆ่า ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขาคำนึงถึงก็คือเลือดปีศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด!
ไม่ว่ายังไง เจ้านั่นสืบเรื่องตัวเองมาแล้ว เกรงว่าคงทราบความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับจี้เยียนหรันดี แม้ความเป็นไปได้ที่เขาจะบุกมาตระกูลเซวนั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย แต่ก็ต้องคิดเผื่อไว้ก่อน!
หลังจากจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ เย่เทียนถึงกลับมายังบ้านหลังเล็กตระกูลเย่ เขาไม่คุยอะไรกับคุณย่าเย่มาก นั่นดูคุณย่าเย่คุยกับเฉินหวั่นชิงอยู่ด้านข้างเงียบๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
เวลามักจะผ่านพ้นไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่ม การต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าใหญ่แห่งแก๊งหวงจี๋เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
บาร์ไลเทคคือหนึ่งในบาร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองจิน และก็ถือเป็นถิ่นของแก๊งหวงจี๋
ท้องฟ้ามืดลงแล้วแท้ๆ แต่บาร์ไลเทคที่มีผู้คนพรั่งพรูทุกค่ำคืน คืนนี้กลับไม่มีลูกค้าสักคน นักสู้หลายสิบคนซ่อนตัวอยู่ในหลืบอย่างเงียบเชียบ รอให้คนของอีกฝ่ายโผล่มา
สือปินหัวเราะลั่นอย่างสามหาว “ฮ่าๆ เลี่ยวจวิ้น เลิกคุยโวได้แล้ว นายคิดว่านายมีปัญญาฆ่าฉันเหรอ?”
เลี่ยวจวิ้นคำราม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว ฉันจะให้โอกาสนายสักครั้ง ไสหัวกลับไปเลยตอนนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้นายได้ตายอย่างอนาถแน่!”
สือปินกวาดสายตามองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ส่ายหัวพลางกล่าว “เลี่ยวจวิ้น นี่เป็นคำพูดที่ฉันอยากบอกนายเหมือนกัน นายเป็นคนฉลาด ติดตามกู่เจิ้นเจียงไปก็ไม่เป็นผลดีหรอก ตำแหน่งหัวหน้าใหญ่ต้องเป็นของพี่ใหญ่อูของเราแน่ๆ!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกัน มาสู้กันเลยเถอะ”
สีหน้าเลี่ยวจวิ้นเย็นเยียบ ขี้เกียจเปลืองน้ำลายกับสือปินต่อไป เขายกมืดในหมายจะออกคำสั่ง
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงไซเรนรถตำรวจดันดังขึ้นนอกบาร์ ส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายที่พร้อมห้ำหั่นกันงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
สือปินได้สติคนแรก เขาตวาดอย่างโมโห “เวรเอ๊ย! นายหน้าด้านไปไหมวะ ถึงขั้นแจ้งตำรวจเลยเหรอ?!”
เลี่ยวจวิ้นสวนทันควัน “นายอย่ามาปรักปรำกันนะโว้ย”
ยังไงก็ตาม ตำรวจในเครื่องแบบกองกำลังจัดเต็มหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในมือมีปืนสั้นปืนยาวระเบิดสารพัด ท่าทางน่าเกรงขามสุดๆ
เมื่อเห็นตำรวจที่นำอยู่ เลี่ยวจวิ้นกับสือปินเลิกคิ้วขึ้นทันที พูดขึ้นพร้อมกัน “หัวหน้าหลี่ ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”
“มาซะเต็มรูปแบบเชียวนะ นี่จะมีเรื่องกันเหรอ? ในสายตาพวกนายยังมีกฎหมาย มีตำรวจอย่างพวกเราอยู่ไหม?”
ผู้ที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าหลี่ไม่สนใจสองคนนี้ และออกคำสั่งเด็ดขาด “พาตัวพวกเขากลับไปให้หมด! ถ้ามีใครกล้าขัดขืน ยิงได้เลย!”
เผชิญกับปืนสั้นปืนยาวระเบิดมากมาย บวกกับคำพูดของหัวหน้าหลี่ สือปินและเลี่ยวจวิ้นสองฝ่ายกล้าวู่วามที่ไหน ทั้งเจ็ดแปดสิบคนนั้นวางอาวุธลง….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...