ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 829

ปัง!

แววตาของปีศาจเลือดมีความบ้าคลั่ง ดาบน้ำแข็งในมือแทงเข้าใส่ร่างกายของเย่เทียน คิดว่าทีนี้สามารถจัดการเย่เทียนทิ้งได้อย่างสมบูรณ์สักที

เพียงแต่ ยังไม่ทันรอให้เขายิ้มออกมา ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวทันที

ไม่มีมันอยู่ แม้ว่าดาบน้ำแข็งจะแทงโดนเย่เทียนแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้เลยสักนิด!

ร่างกายของเย่เทียนเหมือนดั่งผนังเหล็ก ไม่ว่าปีศาจเลือดจะใช้แรงมากยังไง ดาบน้ำแข็งที่คมกริบก็ไม่สามารถบาดผิวหนังของเขาให้เป็นแผลได้!

หลังจากที่อึ้งตะลึงไปสักครู่ เย่เทียนก็ยิ้มอย่างได้ใจ “อย่างที่คิด ยาสารพันธุกรรมได้ปรับปรุงแก้ไขความแข็งแรงของร่างกายฉันแล้ว การโจมตีของนายในตอนนี้ ไม่สามารถทำให้ฉันบาดเจ็บได้เลยสักนิดเดียว!”

แววตาของปีศาจเลือดอดไม่ได้ที่จะแสดงออกถึงความหวาดกลัว และคิดอยากจะใช้ความรวดเร็วดั่งผีหลบหนี

“แกคิดว่าฉันจะปล่อยแกไปง่ายๆงั้นหรอ?”

เย่เทียนจะเดาไม่ออกได้อย่างไรว่าปีศาจเลือดคิดอะไรอยู่ มือขวายืนออกไปเร็วดั่งสายฟ้า แล้วบีบคอของปีศาจเลือดไว้อย่างรวดเร็ว

ปีศาจเลือดทั้งตกใจและหวาดกลัว รีบร้อนตะเกียกตะกาย “สมควรตาย!มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ!”

“ปล่อย? นายคิดว่าเป็นไปได้มั้ย?”

เย่เทียนยิ้มเยาะ มือซ้ายที่ว่างอยู่ปล่อยหมัดออกไปอย่างแรง

พลั่ก!

ปีศาจเลือดที่ถูกจับบีบคอไว้ตอบสนองไม่ทัน ใบหน้าจึงโดนหมัดนี้ของเย่เทียนต่อยใส่ แล้วขอบตาซ้ายก็เขียวช้ำขึ้นมาทันที

แต่ว่า สิ่งนี้เองก็ทำให้ปีศาจเลือดตั้งสติได้ ไม่ทันสนใจความเจ็บปวดบนใบหน้า แล้วรีบเคลื่อนไหวพลังสร้างน้ำแข็งย้อยมากมายที่ด้านหลังของเย่เทียน แล้วแทงเข้าใส่ที่แผ่นหลังของเย่เทียน

แต่ เย่เทียนสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวที่ด้านหลังแต่แรกแล้ว และก็ไม่ได้หลบ เพียงยิ้มเยาะแล้วยกปีศาจเลือดขึ้น จากนั้นก็เปลี่ยนตำแหน่งกับเขา

ขณะนี้น้ำแข็งย้อยได้พุ่งแทงเข้ามารวดเร็วดั่งสายฟ้า บวกกับระยะทางใกล้มากเท่านี้ ปีศาจเลือดจึงไม่ทันทำให้น้ำแข็งย้อยมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

พรุ่บ!

เสียงดังหลายครั้งติดกัน ปีศาจเลือดถูกน้ำแข็งย้อยที่ตัวเองสร้างขึ้นทิ่มแทงเข้าที่ด้านหลังตัวเอง

ทำเอาปีศาจเลือดเจ็บปวดอย่างที่สุด และอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงคร่ำครวญออกมา

“ก่อนหน้านี้เห็นแกแสดงพลังยิ่งใหญ่ คิดว่าคงจะเสียพลังงานไปไม่น้อยละสิ? ถ้าหากว่าฉันเดาไม่ผิด กำลังภายในของแกคงจะเหลือไม่ถึงครึ่ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่แกทำลายการป้องกันของฉันไม่ได้ ตอนนี้ฉันจะดูสิว่าใครกันแน่ที่ต้องตาย!”

เย่เทียนยิ้มเยาะพูดวิเคราะห์ ทุกคำที่พูดออกมา ทำให้สีหน้าของปีศาจเลือดแย่ยิ่งกว่าเดิมเสมอ

เย่เทียนพูดถูก แม้เขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีกำลังภายในที่ใช้ไม่หมด จากการต่อสู้มาระยะเวลานานขนาดนี้ ได้สูญเสียไปไม่น้อยแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องตามหลักการปกติ ก่อนหน้านี้ถูกคนมากมายขนาดนี้มาล้อมโจมตี เขาจึงต้องใช้กำแพงน้ำแข็งมากกั้นไว้ แล้วยังใช้น้ำแข็งย้อยโจมตีเรื่อยๆ จึงสูญเสียพลังงานภายในไปไม่น้อย

เมื่อคิดถึงจุดนี้ ภายในใจของเสว่อิ่งเต็มไปด้วยความเสียใจ หากรู้อย่างนี้แต่แรก เขาก็ควรจะจัดการเย่เทียนทิ้งไปแต่แรกซะ จะได้ไม่น่าเวทนาอย่างตอนนี้

“ถึงแม้แกจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับฟ้า แต่แกก็ถือเป็นการมีตัวตนอยู่อย่างไร้เทียมทาน!”

เย่เทียนจับจ้องการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของปีศาจเลือดไว้ จะไม่รู้ได้ยังไงว่าตัวเองคาดเดาไม่ผิด จึงได้ยิ้มเยาะออกมา “มีคำโบราณคำหนึ่งไม่รู้ว่าแกเคยได้ยินบ้างมั้ย คนที่ทำร้ายผู้อื่น สักวันก็จะต้องถูกผู้อื่นทำร้ายกลับเช่นกัน!”

ขณะพูดอยู่ เย่เทียนก็ยกแขนขึ้น แล้วต่อยเข้าที่ร่างกายของปีศาจเลือดอย่างหนัก

พลั่ก!

ปีศาจเลือดเงียบไปนานหลายวินาที แล้วถามอย่างลองใจว่า “ฉัน…ฉันบอกนายแล้วนายจะปล่อยฉันไปมั้ย?”

เย่เทียนยิ้มเยาะ “แกคิดว่าเป็นไปได้มั้ย?”

เมื่อปีศาจเลือดได้ยินอย่างนั้น สีหน้าที่เดิมทีก็ซีดเซียวจากการเสียเลือดมากอยู่แล้วก็ยิ่งขาวซีดหนักกว่าเดิม ดูแล้วอย่างกับคนตาย ไม่มีสีเลือดใดๆเลยสักนิด

“ในเมื่อยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว แล้วทำไมฉันจะต้องบอกนายด้วย!”

แม้จะพูดไปเช่นนั้น แต่การกระทำของปีศาจเลือดกลับแข็งกร้าวมาก แต่ใจเขารู้ดี ว่านี่คือไพ่ใบสุดท้ายที่จะรักษาชีวิตเขาไว้ได้แล้ว ถ้าหากว่าพูดออกมา เย่เทียนคงจะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตรอดอยู่นานกว่านี้อีกแม้แต่หนึ่งวินาทีแน่นอน

“ในเมื่อแกไม่เต็มใจจะพูด อย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้วละ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีคนรู้!”

มองดูสีหน้าของปีศาจเลือดแล้ว เย่เทียนจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงไม่คิดจะถามอะไรมากอีก แล้วก็เหยียบเข้าที่ลำคอของปีศาจเลือดอย่างโหดร้าย

กร๊อบ!

เสียงกระดูกหักดังออกมา ลำคอของปีศาจเลือดหักไปตามเสียง แล้วก็หมดลมหายใจตายไป!

กลิ่นคาวเลือดที่ทำให้รู้สึกคลื่นไส้โชยไปทั่ว เย่เทียนถอนหายใจออกมาทีหนึ่ง ในที่สุดก็จัดการปีศาจเลือดทิ้งจนสิ้นไปได้แล้ว

ตามมาจากอารมณ์ที่ผ่อนคลายของเขา แล้วขาก็อ่อนเพลียจนเกือบจะล้มลง

“อย่างที่คิด ไม่ควรใจร้อนกินยาสารพันธุกรรมมากขนาดนั้นเลย!”

เย่เทียนถอนหายใจ สิ่งนี้ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงขี้เกียจพูดมากกับปีศาจเลือดเช่นกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก แต่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าร่างกายเริ่มจะแบกรับพลังงานภายในไม่ไหวแล้วต่างหาก!

ในเวลานี้เอง กำแพงน้ำแข็งที่ล้อมไว้รอบด้าน หลังจากที่สูญเสียการสนับสนุนจากพลังงานของปีศาจเลือด ก็ได้ทรุดตัวลงในทันที เสียงดังพรุ่บละลายกลายเป็นน้ำไหลออกไป แล้วปรากฏให้เห็นใบหน้าที่เป็นกังวลของเฉินหวั่นชิงและคนอื่นๆ….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่