เมื่อรับรู้ราคาเดิมห้องพักของโรงเตี๊ยมกากแห่งนี้ว่าเพียงแค่ไม่กี่สิบหยวนจากในปากสาวชุดโบราณ เย่เทียนอึดอัดใจจนเกือบกระอักเลือดออกมา
แต่ เรื่องราวมาถึงปัจจุบันนี้ เขาก็ทำได้เพียงอดกลั้นลงมาเฉยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิ่งมาถึงเมืองเถาหยวนสถานที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ และเมื่อพิจารณาถึงประเพณีโหดเหี้ยมของที่นี่อีกที จัดการธุระอย่างเรียบง่ายน่าจะเป็นวิธีการอันยอดเยี่ยม!
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ภายในการนำทางของสาวชุดโบราณ ไม่นานทั้งสองก็มาถึงตำแหน่งที่ชั้นสี่ หญิงสาวชี้ไปยังห้องพักสองห้องติดโถงทางเดินพลางพูดว่า “สองห้องนี้คือห้องของพวกนาย ไม่ว่ามีเรื่องหรือไม่มีเรื่องอะไรอย่าเรียกมั่วซั่ว พวกเราจะไม่สนใจ”
ชั่วขณะนั้นเย่เทียนพูดแบบไม่พอใจ “เธอกำลังล้อเล่นงั้นเหรอ? ดีเลวอย่างไรพวกฉันพักคืนหนึ่งก็เป็นเงินเยอะขนาดนั้น ถ้าเกิดส้วมในห้องตันอะไรทำนองนี้คงไม่ใช่ให้พวกฉันจัดการเองหรอกมั้ง?”
“ในเมื่อฉันก็จะไม่สนใจ ส่วนพ่อฉัน นั่นคงต้องดูว่าพวกนายจะเรียกใช้เขาได้หรือเปล่าแล้ว”
สาวชุดโบราณเบ้ปาก “เตือนสติพวกนายไว้หน่อย พ่อฉันคนนั้นชอบอาหารป่า ออกนอกโรงเตี๊ยมไปทางด้านซ้ายจะมองเห็นภูเขาสองสามลูก ปกติจะพอจับไก่ป่า กระต่ายป่าสองอะไรพวกนี้ได้สองสามตัว ไม่แน่ว่าโชคดียังจับหมีได้ ขอเพียงพ่อฉันอารมณ์ดีแล้ว เรื่องทั่วไปเขาจะช่วยเหลือหมด”
ตอนที่มองเห็นสาวชุดโบราณอยากจะออกไป ในที่สุดเย่เทียนถึงได้สติกลับมา สอบถามว่า “นี่ ฉันอยากถามหน่อยว่าตระกูลหลู่อยู่ที่ไหน?”
ดวงตาสาวชุดโบราณมีแสงสว่างแฉลบผ่านแบบสัมผัสไม่ง่ายนัก “ตระกูลหลู่? นายถามหาตระกูลหลู่ทำไม?”
เย่เทียนยิ้มตอบ “หลู่ซีซานเป็นเพื่อนของฉัน หล่อนกลับมาแล้ว ฉันเลยคิดจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยือนสักหน่อย”
ตั้งแต่เข้าเมืองเถาหยวนนี้มา โดยพื้นฐานเจี่ยซือหวี่ไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรมาก เห็นได้ชัดว่ารู้บ้างไม่รู้บ้างต่อที่นี่ ยังต้องเป็นเขาที่คิดหาวิธีล้วงข้อมูล
“หล่อนกลับมาแล้วเหรอ?”
สาวชุดโบราณพูดพึมพำ ตอบกลับว่า “ตระกูลหลู่อยู่ใจกลางของเมือง นายออกจากโรงเตี๊ยมแล้วเดินตามทางประมาณสองกิโลก็ถึงแล้ว ฉันชื่อโข่งจื่อโถง ถ้ามีคนมาหาเรื่องเดือดร้อนนายเข้า ลองพูดชื่อของฉันไปดูก็ได้ ขู่คนทั่วไปคงไม่มีปัญหาอะไร”
พูดจบ สาวชุดโบราณไม่ได้อยู่ต่อไป หมุนตัวอย่างสง่างามมากแล้วเดินไป
“โข่งจื่อโถงเหรอ?”
เย่เทียนแอบพูดพึมพำเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไรมาก ยื่นมือผลักประตูห้องพักออกโดยจิตใต้สำนึกหมายจะเดินเข้าไป
เอี๊ยด!
เสียงที่เสียดแก้วหูดังขึ้นฉับพลัน และมีกลิ่นอับตลบอบอวลลอยออกมา ราวกับว่านานมากแล้วที่ไม่มีใครเคยเข้าไป
“เชี่ย! ไอ้ที่กากๆ นี้คือที่พักซ่องโจรโดยแท้สินะ! มิน่าถึงตั้งชื่อว่าโรงเตี๊ยมไฉ่สิ่ง ที่แท้ก็คือเห็นพวกเราเป็นไฉ่สิ่ง(เทพเจ้าแห่งโชคลาภ)นี่เอง!”
เย่เทียนอุดจมูกโดยจิตใต้สำนึกพลางมองไปด้านใน ชั่วพริบตาเดียวอดไม่ไหวตำหนิเสียงดังออกมา
ด้านในนั้นนอกจากโต๊ะเก้าอี้ไม้ไม่กี่ตัวแล้ว ก็มีเพียงเตียงไม้ตัวหนึ่ง แม้กระทั่งผ้าห่มแบบหนายังไม่มี พูดได้ว่าโกโรโกโสถึงขีดสุด
จ่ายด้วยราคาสูงถึงห้าล้านกลับเช่าห้องพักแบบนี้มา นี่ทำให้ในใจเย่เทียนเต็มไปด้วยความเสียใจ รู้แต่แรกว่าเป็นแบบนี้น่าจะไปกับหลู่ซีซานแล้ว
เย่เทียนยิ่งคิดยิ่งโมโห ตำหนิอย่างไม่พอใจมากๆ พอชำเลืองมองก็พบว่าเจี่ยซือหวี่หน้าตาเหน็ดเหนื่อยเต็มที่ จึงรีบบอกเธอสักหน่อย แล้ววิ่งลงไปด้านล่างอย่างเดือดดาล
เย่เทียนยิ่งคิดยิ่งโกรธ พูดคุยกับเจี่ยซือหวี่สักหน่อย จึงเดินลงไปข้างล่างอย่างโมโหเดือดดาล
ในขณะเดียวกัน ข่งเทียนหยินที่ด้านล่างพอเห็นเงินห้าล้านเข้าบัญชีก็ยัดถั่วเข้าปากไปไม่ขาดสาย และกรอกเหล้าลงในปากอยู่เรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เบิกบานมากแค่ไหน
“ตาแก่ ผู้ชายคนนั้นบอกว่าเขาเป็นเพื่อนของพี่ซีซาน”
โข่งจื่อโถงที่ลงจากบันไดเดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงข้างกายของข่งเทียนหยิน ทั่วทั้งตัวไม่มีท่าทีของคนเป็นลูกสาวสักนิด
พูดถึงจุดนี้ เดิมทีเย่เทียนที่จิตใจเต็มไปด้วยไฟโกรธชั่วพริบตาเดียวก็หดหู่ลงมาราวกับมะเขือเหี่ยว หาเหตุผลใดๆ เพื่อมาระบายความกลัดกลุ้มในใจไม่เจอทั้งสิ้น
เวลานี้ โข่งจื่อโถงนำผ้าห่มสองผืนเดินกลับมาได้จังหวะเหมาะพอดี ทั้งที่เป็นผ้าห่มสองผืนซึ่งไม่เบานัก พออยู่ในมือเธอก็เหมือนเป็นของเบาหวิวสองอัน ใช้เพียงมือข้างเดียวแบกไว้
“นี่ นายลงมาอยากจะเอาผ้าห่มสินะ?”
พูดจบ เดิมทีเธอไม่รอเย่เทียนตอบสนองมา หมุนตัวเดินขึ้นบันไดอย่างสง่างามไปแล้ว
เย่เทียนที่โทษข่งเทียนหยินเนื่องจากเข้าใจผิดก็ไม่มีหน้าอยู่ต่อไปอีก รีบตามฝีเท้าของโข่งจื่อโถงเดินไปยังห้องพักด้านบนทันที
“เจ้าหนุ่มนี่ยังประหลาดเสียจริง เจ็บถึงขั้นนี้ยังไม่ตาย”
มองภาพด้านหลังของเย่เทียนจากไป ข่งเทียนหยินแอบบ่นพึมพำ จากนั้นส่ายหน้าพูดว่า “เขาจะเป็นหรือตายเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย? ฉันกังวลมากขนาดนั้นทำไมกัน!”
ปึง!
โข่งจื่อโถงที่เดินขึ้นตึกมาทิ้งผ้าห่มลงบนโต๊ะ กลับไม่ได้รีบร้อนออกไป แต่ว่ามองเย่เทียนด้วยสายตาประหลาด
เย่เทียนถูกจ้องจนในใจหวาดหวั่น “เธอ เธอมองฉันแบบนี้ทำไม? หรือว่าบนหน้าฉันมีดอกไม้บานงั้นเหรอ?”
โข่งจื่อโถงยังคงจ้องเย่เทียนอยู่ไม่เลิก “ฉันถามนายนะ นายกับหลู่ซีซานเป็นอะไรกัน?”
เย่เทียนตะลึง เบ้ปากตอบ “ฉันกับซีซานมีความสัมพันธ์อะไรกันเกี่ยวกับเธอด้วยเหรอ?”
ในที่สุดโข่งจื่อโถงก็เก็บสายตากลับแล้ว หมุนตัวพลางบอกว่า “นายไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก แต่ฉันขอเตือนนายไว้ หล่อนเป็นคนที่มีการหมั้นหมายแล้ว เกรงว่าหล่อนกลับมาครั้งนี้คงเพื่อจัดการงานหมั้นให้เรียบร้อย......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...