เมื่อเห็นหลู่ซูหางปัดความรับผิดชอบ จีเสว่ทำได้เพียงมุ่งความสนใจไปที่เย่เทียน “คุณเป็นใคร?ถ้าแน่จริงก็บอกชื่อมา!”
“บอกคุณแล้วยังไงล่ะ?”
เย่เทียนยิ้มอย่างไม่แยแส “ผมเป็นปู่ของคุณชื่อเย่เทียน จำไว้ให้ดีล่ะ!”
“บัญชีนี้พวกเราจะจำไว้ วันหน้าถ้ามีโอกาส พวกเราต้องเอาคืนสองเท่าอย่างแน่นอน!” จีเสว่ตะโกนด้วยสีหน้าเย็นชา ดึงตัวเหยียนเฟิงแล้วเดินออกไปข้างนอก
เดิมทีเย่เทียนคิดจะขวางไว้ แต่ทำไงได้หลู่ซีซานเดินมาดึงเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงจำต้องปล่อยคู่ครองเหลียนหัวจากไป
รอจนร่างของคู่ครองเหลียนหัวเดินหายไป เย่เทียนจึงหันกลับมา เอื้อมมือไปลูบแก้มที่ถูกตบของหลู่ซีซาน และพูดอย่างอ่อนโยน “เจ็บไหม?”
“ไม่ค่อยเจ็บแล้ว”
หลู่ซีซานส่ายหัวเล็กน้อย ใบหน้าที่สวยงามอดไม่ได้ที่รู้สึกเขินอายขึ้นมา
นี่ก็เป็นเรื่องที่จนปัญญาจริงๆ ในเมื่อทุกคนที่อยู่ในสถานที่ล้วนเป็นคนของตระกูลหลู่ และท่าทางความสนิทสนมของเย่เทียน ทำให้หลู่ซีซานรู้สึกเขินอาย
หลู่ซูหางแกล้งไอสองทีขัดจังหวะคำพูดที่อ่อนโยนของทั้งสองคน ถอนหายใจแล้วส่ายหัวพูดว่า “เย่เทียน คราวนี้คุณเจอปัญหาใหญ่แล้ว! บางทีอาจทำให้ตระกูลหลู่ของเราต้องเดือดร้อนไปด้วย?!”
“คุณพ่อ! วันนี้พ่อเป็นอะไรเหรอ?”
ไม่รอให้เย่เทียนตอบกลับ หลู่ลี่หาวกลับร้องเอะอะขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “คู่ครองเหลียนหัวทำร้ายพี่สาวจนบาดเจ็บ พ่อไม่สนใจก็ไม่ว่า พี่เย่มาช่วยไว้ ทำไมพ่อถึงมาโทษเขาอีกล่ะ?”
หลู่ซูหางถลึงตาใส่หลู่ลี่หาว พูดด้วยความโกรธ “นายจะไปเข้าใจอะไร? นายรู้หรือไม่ว่าพวกเขามานี่เพื่อที่จะทำอะไร?”
หลู่ที่หาวพูดเสียงแข็ง “ผมไม่เข้าใจ ผมไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ผมรู้แค่ว่าพี่สาวถูกคนตี ผมไม่สามารถนิ่งดูดายได้!”
“ไอ้เด็กบ้านี่ จงใจยั่วโมโหฉันใช่ไหม?”
หลู่ซูหางโกรธจัด “วันนี้พวกเขามาที่นี่ เพื่อจะ.....”
พึ่งพูดได้สองคำ มองดูทุกคนในตระกูลหลู่ เขาก็ตั้งสติได้อีกครั้ง รีบเปลี่ยนคำพูด “ไอ้เด็กบ้า เย่เทียน ซีซาน พวกเธอสามคนเข้ามาหาฉัน คนอื่นๆจะทำอะไรก็ไปทำซะ?”
พูดจบ เขาก็ไม่ได้คำนึงถึงปฏิกิริยาของทุกคน หันหลังกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น
แม้ว่าทุกคนในตระกูลหลู่ต่างก็อยากรู้จุดประสงค์ของคู่ครองเหลียนหัวที่มาที่นี่ แต่ในเมื่อหลู่ซูหางก็พูดขนาดนี้แล้ว พวกเขาทำได้เพียงต่างแยกย้ายกันไป
สถานการณ์ของทั้งสามคนที่ถูกเรียกชื่อ ก็รีบเดินตามหลู่ซูหางเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกัน
จินไห่เซวียนเดินตามเข้าไปก่อน ทำไงได้อาสี่ได้แต่เฝ้าอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่นอย่างรู้หน้าที่ แทบไม่ยอมให้คนอื่นเดินเข้าไปเลย
รอทั้งสามเข้าไปแล้ว หลู่ซูหางนั่งอยู่ที่ตำแหน่งหัวหน้าแล้ว พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ปิดประตูด้วย”
ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว มีหรือที่พวกเขาทั้งสามคนจะไม่รู้ว่าหลู่ซูหางต้องการจะบอกเรื่องอะไรกับพวกเขา ดังนั้นจึงรีบปิดประตูและหน้าต่างให้เรียบร้อย
เมื่อทั้งสามคนนั่งลง หลู่ซูหางจึงถอนหายใจลึกๆ แล้วหันไปพูดกับหลู่ซีซานว่า “ซีซาน ในใจของเธอ ไม่มากก็น้อยก็คงจะโทษพ่อที่คิดจะให้ลูกแต่งงานกับกัวหมิงเลี่ยงใช่ไหม?”
“อืม”
หลู่ซีซานนิ่งอึ้ง หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาทีสุดท้ายก็พยักหน้ายอมรับความจริง
หลังจากได้รับคำตอบที่แน่นอน หลู่ซูหางก็ถอนหายใจลึกๆ และพูดอย่างขมขื่น “เธอก็อย่าโทษพ่อเลย พ่อก็ไม่อยากยุ่งเรื่องการแต่งงานของเธอมากนักนะ”
หลู่ซีซานเลิกคิ้ว และถามด้วยความสงสัย “แล้วเพราะอะไร……”
“ไม่นะ คุณพ่อ ท่านแน่ใจหรือว่าสิ่งที่พ่อได้เลือกตอนนั้นคือวิชากระบี่หยินหยาง?”
หลู่ลี่หาวเลิกคิ้ว พึมพำว่า "ผมก็ไม่รู้สึกว่าวิชากระบี่หยินหยางมีอะไรวิเศษนัก?”
“นั่นเป็นเพราะฐานการฝึกฝนของนายไม่เพียงพอ!”
หลู่ซูหางถลึงตาใส่หลู่ลี่หาวอย่างไม่สบอารมณ์ ส่ายหัวและพูดว่า “แน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ พ่อได้เอามาแค่ส่วนบนเท่านั้น ส่วนล่างพ่อยังไม่ได้เอาออกมา”
หลู่ลี่หาวที่ถูกตำหนิเกาหัวอย่างเขินอาย และถามว่า “ในเมื่อพ่อบอกว่าวิชากระบี่หยินหยางมีพลังร้ายกาจขนาดนั้น แล้วส่วนล่างนั้นทำไมพ่อไม่เอาออกมาด้วยล่ะ?”
“พ่อเอาออกมาก็ไร้ประโยชน์ อย่าว่าแต่นายเลย แม้แต่พ่อเองก็ไม่สามารถฝึกฝนได้”
หลู่ซูหางส่ายหัว ถอนหายใจและพูดว่า “ในปีนั้นหลังจากที่พวกเราทั้งสามคนได้สมบัติที่ยอดฝีมือทิ้งไว้ พวกเราทั้งสามก็แยกย้ายกันไปฝึกฝน”
“ผ่านไปประมาณครึ่งปี พ่อพึ่งจะค้นพบว่าสมบัติทั้งสามอย่างนั้นต้องถูกจับคู่เข้าด้วยกัน หากไม่ได้ฝึกฝนคัมภีร์ชางหลัน ก็แทบไม่สามารถฝึกฝนวิชากระบี่หยินหยางให้ถึงระดับสูงสุดได้ ถ้าไม่มีดาบเลือดก็ไม่สามารถใช้พลังของวิชากระบี่หยินหยางออกมาได้เต็มที่”
“พอคิดถึงจุดนี้ได้ พ่อก็ไม่ได้อยู่ในโลกบู๊อีกต่อไป กลับไปที่เมืองเถาหยวน ถึงเวลานั้น พ่อถึงได้รู้ว่า หลังจากที่ดาบเลือดได้โฉวฝันเฟยไม่นานก็กลับมาที่เมืองเถาหยวน เขายังกวาดล้างและสังหารตระกูลที่เคยเป็นศัตรูกับเขามากกว่าห้าสิบชีวิต ในคราวเดียวก็กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงและก่อตั้งสำนักเหลียนหัวขึ้น”
“สำหรับกัวซิ้วเจี๋ย หลังจากฝึกฝนคัมภีร์ชางหลัน แล้ว เขาก็ก้าวเข้าสู่แดนระดับฟ้า ในเวลานั้นก็กลายเป็นคนหนุ่มคนแรกในรุ่นพวกเรา”
“ฉันก็เคยไปคุยกับพวกเขา แต่ต่างคนต่างปกปิดกัน แน่นอนเลยเจรจากันไม่สำเร็จ ต่อมาก็เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ระหว่างพวกเราสามคนก็ค่อยๆแตกหักหักกัน”
ขณะที่พูดถึงเรื่องเหล่านี้ สีหน้าของหลู่ซูหางก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความระลึกถึงเรื่องเก่าๆ เห็นได้ชัดว่าสะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
“เดิมที ฉันคิดว่าในชีวิตนี้คงจะไม่มีวันเห็นสามสิ่งนี้กลับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตระกูลกัวกับตระกูลหลู่ของเราอ่อนกำลังลงทีละน้อย ในทางกลับกันสำนักเหลียนหัวกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดโฉวฝันเฟยก็ทนไม่ได้……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...