ภายใต้การนำของจิงไห่เชียน เย่เทียนกับเจี่ยซือหวี่ก็มาถึงสังเวียนที่สี่อย่างรวดเร็ว
โข่งจื่อโถงกำลังจดจ่อกับสองคนที่สู้อยู่บนสังเวียนอย่างตั้งใจ กับการมาถึงของพวกเขาเธอก็แค่พยักหน้าเป็นการทักทาย แล้วหันกลับไปสนใจบนสังเวียนต่ออย่างรวดเร็ว
นั่นมันก็ทำให้เย่เทียนถึงกับต้องขมวดคิ้ว จากนั้นก็มองตามขึ้นไปบนสังเวียน
แล้วเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมโข่งจื่อโถงถึงเป็นแบบนั้น
นั่นก็เพราะว่า คนที่สู้ด้วยมือเล่าบนสังเวียนนั้น เป็นคนที่อยู่ในระดับดินชั้นกลาง!
ต้องเข้าใจก่อนว่า โข่งจื่อโถงก็อยู่ในระดับดินชั้นกลางเหมือนกัน กับคู่ต่อสู้ที่ปรากฏตัวแบบนี้ ก็ต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
พอคิดได้อย่างนั้น เย่เทียนก็อดที่จะหันไปถามจิงไห่เชียนไม่ได้ “ไห่เชียน คนที่ไม่ถืออาวุธบนเวทีนั่นใคร?”
“ไม่ถืออาวุธ?”
จิงไห่เชียนมงขึ้นไปบนสังเวียน แล้วอธิบายไปว่า “เขาคือสมาชิกของสำนักว่านฉวน เหมือนจะชื่อว่าปี้หยง ส่วนคนที่สู้กับเขาคือ หลี่หงชาวแห่งสำนักปีกทอง ดูจากสถานการณ์ ปี้หยงน่าจะกำลังใกล้แพ้แล้ว!”
ปี้หยงที่อยู่บนสังเวียนในตอนนี้ค่อนข้างสะบักสะบอม ทำได้แค่กระโดดหลบคมกระบี่ในมือของหลี่หงชาวไปมาราวกับลูกลิง ทำให้รู้สึกเหมือนแค่ฝืนต้านได้เท่านั้น
เย่เทียนมองออกอย่างทะลุรุโปร่ง หลี่หงชาวอยู่แค่ระดับดำตอนปลายเท่านั้น ถ้าปี้หยงเกิดเอาจริงขึ้นมา หลี่หงชาวไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว
แต่ว่าตอนนี้ปี้หยงกลับเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ บ่งบอกว่าจงใจอ่อนให้ เพื่อให้คนอื่นระแวงเขาให้น้อยลง แล้วรอจังหวะดีๆ เล่นงานอีกฝ่ายทีเผลอ!
“บัดซบ แน่จริงก็อย่าหนีสิ!”
แต่น่าเสียดายที่คู่กรณีอย่างหลี่หงชาวนั้นไม่รู้ตัวเลย พอเห็นปี้หยงสามารถหลบการโจมตีของตนได้อย่างฉิวเฉียดทุกครั้งเขาจึงโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
ปี้หยงยังคงไม่สนใจ เบะปากแล้วพูดไปว่า “ดูที่แกพูดสิ แกถือกระบี่ ส่วนฉันไม่มีอาวุธอะไรเลย ฉันไม่หนีก็บ้าแล้ว?”
“กระบี่สี่ปราชญ์ หลังธรรมไร้ขอบเขต!”
เห็นได้ชัดว่าหลี่หงชาวอึ้งไปแปบหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้โง่จนทิ้งกระบี่ในมือไป เขาไม่พูดอะไรมากความ ระหว่างที่พุ่งเข้าหาปี้หยง กระบี่ในมือก็ได้ฟาดฟันคลื่นกระบี่ออกไปลูกหนึ่ง พุ่งไปทางปี้หยง
“หมื่นกำปั้นแปดกระบวนท่า หมื่นกำปั้นตะลึงโลก!”
ปี้หยงที่เอาแต่หลบอย่างทุลักทุเลก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย เขาจึงชกออกไปหมัดหนึ่ง กำลังภายในที่หนาแน่นทำให้เกิดเป็นคลื่นหมัดที่ใหญ่โต พุ่งเข้าใส่คลื่นกระบี่ที่กำลังมา
หลี่หงชาวยิ้มเยาะออกมาที่มุมปาก ภายใต้การออมมือของปี้หยง แล้วเขาจะไปเห็นปี้หยงอยู่ในสายตาได้ยังไง
ตูม!
ตามคาด คลื่นกระบี่ปะทะเข้ากับคลื่นหมัดอย่างจัง ในเวลาไม่ถึงวินาที คลื่นหมัดก็ถูกคลื่นกระบี่ฟันออกเป็นเสี่ยงๆ
ในตอนที่เย่เทียนกำลังสงสัยอยู่ว่ามองผิดไปรึเปล่า คลื่นหมัดที่ถูกฟันเป็นเสี่ยงๆ ก็ไม่ได้หายไป แต่กลับกลายเป็นคลื่นหมัดเล็กๆ แล้วพุ่งเข้าใส่หลี่หงชาวอีกครั้ง
หลี่หงชาวที่คิดว่าชนะแน่ๆ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน รีบดึงกระบี่กลับไปตั้งรับ เตรียมที่จะรับมือกับคลื่นหมัดเหล่านี้
ปั้งปั้ง!
คลื่นหมัดพากันกระแทกเข้าไปที่กระบี่ เกิดเป็นเสียงที่ดังสนั่น เมื่อคนที่ตั้งใจวางแผนเล่นงานคนที่ไม่ตั้งใจ ถึงหลี่หงชาวจะสามารถกัดคลื่นหมัดได้ทั้งหมด แต่ก็ถอยไปจนถึงของเวทีอย่างช่วยไม่ได้
ปี้หยงจะปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้หลุดมือไปได้ยังไง ขยับขาแล้วพุ่งตัวออกไป มาอยู่ตรงหน้าหลี่หงชาวราวกับวิญญาณ แล้วซัดหมัดออกไปอย่างแรง
ปั้ง!
นั่นก็ทำให้หน้าผากของเย่เทียนเกิดเส้นสีดำขึ้นมาสามเส้น และรีบดึงตัวเจี่ยซือหวี่เดินห่างออกไปหลายก้าว พร้อมกับทำหน้าเหมือนฉันไม่รู้จักไอ้ปัญญาอ่อนนี่
โข่งจื่อโถงที่ไม่รู้จะทำยังไงกับจิงไห่เชียนก็เลือกที่จะเมินเฉย สบตาจับจ้องไปยังคู่ต่อสู้ตรงหน้าที่เดินขึ้นสังเวียนมาอย่างช้าๆ
เขาเป็นชายฉกรรจ์ที่ร่างกายกำยำราวกับหมี ในมือถือค้อนอันใหญ่ไว้สองอัน ท่าทางที่ป่าเถื่อนนั่น แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็สามารถทำให้เด็กตกใจกลัวจนร้องไห้ได้เลย
“ดูท่าฉันนี่ดวงดีไม่เบาเลยนะเนี่ย รอบแรกก็เจอกับสาวสวยเข้าแล้ว”
ดวงตาดั่งเสือของฝางฉิวผิงกวาดตามองโข่งจื่อโถงขึ้นๆ ลงๆ อย่างหื่นกระหาย แล้วพูดอย่างชั่วร้ายว่า “คนสวย ฉันว่าเธอยอมแพ้ไปเถอะ! เรื่องใช้กำลังแบบนี้มันไม่เหมาะกับเธอเลย กลับไปเย็บปักถักร้อยจะดีกว่านะ!”
คำล้อเลียนของฝางฉิวผิงทำให้โข่งจื่อโถงสีหน้าเตร่งขรึมขึ้นมาดวงตาที่เป็นประกายคู่นั้นปรากฏลำแสงที่เยือกเย็นออกมายิ่งกว่าเดิม บ่งบอกว่ายังไงก็ถูกยั่วโมโหเข้าให้แล้ว
“เริ่มสู้ได้เลย!!”
ตามคาด ทันทีที่กรรมการประกาศ โข่งจื่อโถงก็ขยับเท้า เหวี่ยงมือแล้วมีกระบี่สั้นเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น แล้วพุ่งเข้าใส่ฝางฉิวผิงด้วยแรงอาฆาตที่เต็มเปี่ยม
ฝางฉิวผิงตั้งสติได้ทันที ยกค้อนทั้งขึ้นมาเพื่อกันการโจมตีครั้งนี้ของโข่งจื่อโถงเอาไว้
แต่ว่า โข่งจื่อโถงราวกับจะรู้ไว้ก่อนแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ดวงตาสวยๆ เกิดประกายที่เยือกเย็นขึ้น ขยับเท้าอย่างต่อเนื่องร่างกายเริ่มหมุนวน กระบี่สั้นในมือก็แทงออกไปอย่างต่อเนื่องด้วยองศาที่ยากจะรับมือ
ติ้งติ้ง!
แต่น่าเสียดาย ยังไงฝางฉิวผิงก็พอมีฝีมืออยู่บ้างโบกสะบัดค้อนคู่ในมืออย่างต่อเนื่อง และปัดป้องการโจมตีของโข่งจื่อโถงเอาไว้ได้
“นี่คนสวย เธอเป็นคนรนหาที่เองนะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแล้วฉันจะออมมือให้ล่ะ!”
ยังไงฝางฉิวผิงก็ถูกยุจนโมโหบ้าง ใบหน้าที่มีแต่ก้อนเนื้อดูดุร้ายขึ้นมากะจังหวะแล้วโบกสะบัดค้อนโจมตีสวนโข่งจื่อโถงกลับไป…..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...