ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 913

เทพธิดาเตี๋ยอู่กระชากผ้าคลุมหน้าออกอย่างฉับพลัน เสยผมที่ปรกหน้าผากออก พูดด้วยเสียงเย้ายวน “เย่เทียน ข้าสวยไหม?”

“สวย!”เย่เทียนผงกหัว

“ฮะ ฮะ”เทพธิดาเตี๋ยอู่ใช้มือปิดปากหัวเราะออกมาเบา ๆ ใช้มือข้างขวาวาดผ่านหน้าเย่เทียนไป กลิ่นอวลหอมลอยเข้ากระทบเย่เทียนในทันทีนั้น พูดไปด้วยว่า “เพียงแต่เจ้าทิ้งจากคุณเธอพวกนั้นไป ข้าก็จะแต่งงานกับเจ้า ต่อไปข้าก็จะเป็นผู้หญิงของเจ้า อยู่คู่กับเจ้าไปยันแก่เฒ่า”

“เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ นอกเสียแต่พวกหล่อนจากข้าไป ไม่งั้น ข้าจะไม่มีวันทิ้งหล่อนไม่ว่าใครคนใดคนหนึ่ง”แม้เทพธิดาเตี๋ยอู่ที่เห็นอยู่ขณะนี้จะสวยพราวเสน่ห์ยังไง แต่เย่เทียนกลับไม่ใส่ใจใยดีด้วย พูดออกไปเสียงเรียบเฉย

เทพธิดาเตี๋ยอู่ถึงแม้จะสวย แต่พวกหลู่ซีซานก็ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือ พวกหล่อนเคยร่วมกันฟันฝ่าผ่าเหตุการณ์กับเย่เทียนมากันมากต่อมากแล้ว ความประทับใจต่อพวกหล่อนไม่มีทางว่าจะถูกตัดขาดด้วยคำพูดของเทพธิดาเตี๋ยอู่ไปได้

“เพราะอะไร?ก็เจ้าบอกว่าข้าสวยกว่าพวกหล่อนไม่ใช่หรือ?”ได้ยินคำพูดของเย่เทียน เทพธิดาเตี๋ยอู่ถึงกับอึ้ง สีหน้าเยือกลงให้เห็นได้

“เจ้านะสวย เจ้าจะสวยกว่าพวกหล่อนด้วย แต่ว่า ข้ากับเจ้าไม่มีใจต่อกัน จะแต่งงานกันยังไง?”เย่เทียนส่ายหน้า

“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา พวกเราแต่งงานกันก่อนก็ได้แล้วค่อยคุยกันเรื่องน้ำใจที่จะมีต่อกัน”พอได้ฟังเย่เทียนพูด สีหน้าเทพธิดาเตี๋ยอู่ค่อยผ่อนคลายลง

“เฮ้อ เจ้าก็ยังไม่เข้าใจความหมายของข้าอยู่ดี”เย่เทียนถอนหายใจ แหงนหน้าขึ้นพูดอย่างหนักแน่นว่า “เทพธิดาเตี๋ยอู่ ข้าพูดในเรื่องข้อเท็จจริงนะ ข้าไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเจ้าเลย แล้วจะให้พูดถึงอยู่กันตลอดทั้งชาติได้ยังไง?ว่ากันไปถึงเรื่องวันนั้นที่พลาดท่าไปดึงเอาผ้าคลุมหน้าของเจ้าหลุดออก แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีใครอยู่ เจ้าก็คิดเสียว่าไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นก็แค่นั้น เจ้าก็เดินไปบนเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของเจ้าไป ข้าก็เดินไปบนทางสะพานไม้แคบ ๆ ของข้าไป”

“เจ้า!”ได้ยินดังนั้น เทพธิดาเตี๋ยอู่อารมณ์กราดเกรี้ยวขึ้นมาทันที คิดถึงที่ตัวเองสู้อุตส่าห์ลดตัวลงบากหน้ามาหา เย่เทียนกลับไม่สนองรับน้ำใจ

“เย่เทียน”

“เย่เทียน ข้าเกลียดแก!”

พูดจบ ไม่รอฟังเย่เทียนจะตอบอะไร ก็ได้หันตัวกลับวิ่งออกจากไป

“นี่มันอะไรกันวะ!”มองตามเงาหลังเทพธิดาเตี๋ยอู่ที่จากไป เย่เทียนแค่นหัวเราะขื่น ๆ มาคราวนี้ได้กระทบกระแทกเทพธิดาเตี๋ยอู่อย่างถึงขั้นเอาเป็นเอาตายเสียแล้ว เจอกันในครั้งหน้า น่ากลัวคงไม่มีการที่จะพูดกันดี ๆ แบบนี้แล้ว

“เย่เทียน....”ในขณะนั้นเอง เสียงใสเสนาะราวนกขมิ้นเหลืองอ่อนแว่วมาจากอีกด้านหนึ่งของระเบียงทางเดิน

เย่เทียนหันกลับมองไป หลู่ซีซานนั่นเอง “ซีซาน เธอทำไมถึง......”

ก็ที่นี่คือวิลล่าตระกูลหลู่ การมาของเทพธิดาเตี๋ยอู่ย่อมไม่สามารถปิดไม่ให้คนในตระกูลหลู่รู้ได้ หลู่ซีซานนั้นคงมาตั้งแต่เช้าแล้ว เพียงแต่ยังไม่ออกมา สุดท้ายได้ยินคำพูดของเย่เทียน ยังความปลื้มในใจสุด ๆ เมื่อเห็นเทพธิดาเตี๋ยอู่จากไปแล้ว หล่อนจึงได้เดินออกมา

“ที่เมื่อกี้นี้ฉันได้ยินหมดแล้ว”ไม่รอให้เย่เทียนพูด หลู่ซีซานก็ได้ก้าวประชิดขึ้นมา

“ข้า........”เย่เทียนเพิ่งอ้าปากจะพูด

“ไม่ต้องพูด จูบฉัน!”แต่หลู่ซีซานได้ลากตัวเย่เทียนเข้าหา ส่งจูบอันหวานหอมให้แล้ว

เห็นสภาพแล้ว เย่เทียนก็จึงกอดสาวสวยเข้าแนบอก ก้มหน้าจูบลงไปอย่างไม่เกรงใจอะไร

เต๊ง!

ผ่านไปเนิ่นนาน ทั้งสองจึงได้แยกออกจากกัน แต่ยังไม่ทันได้ให้เย่เทียนเอ่ยปาก เสียงระฆังดังลั่นเข้ามา แว่วกระจายไปทั่วทั้งโลกบู๊

“ซีซาน มีเรื่องอะไรกันหรือ?”เย่เทียนสะดุ้ง ถามไปด้วยความสงสัย

“ไป ไป ไป ไปตายไกล ๆ ข้าหน่อยเหอะ”เย่เทียนถลึงตาใส่จินไห่เซวียน พูดอย่างไม่สบอารมณ์ ในใจก็คิดละเหี่ยอยู่กับสภาพสัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็กในวงการโลกบู๊ ผู้ที่มีพลังมาก อิทธิพลใหญ่ ก็ได้ที่นั่งบนอัฒจันทร์ มุมมองก็มองเห็นได้ทั่ว พวกกำลังน้อยไม่มีคนหนุนหลัง ก็ต้องเบียดกันดูอยู่ข้างล่างเวที

เห็นได้ที ”จินไห่เซวียนก็รีบเดินขึ้นหน้าไป มือโอบเข้าไปที่ไหล่เย่เทียน ทั้งลากทั้งจูงขึ้นไปบนอัฒจันทร์

หลู่ซีซานได้แต่ยิ้มส่ง แล้วก็จูงมือโข่งจื้อถงเดินตามขึ้นไป

หลู่ซูหางเห็นเย่เทียนเดินมากันสี่คน ก็รีบยืนขึ้น “เป็นยังไงบ้าง?เรียนรู้ปลาครอบจักรวาลหยินหยางได้หรือยัง?”

“อือม์ ขอบคุณท่านอาหลู่ที่ห่วงใย ในขณะนี้ภายในของข้ามีพลังสองพลังได้ผนึกรวมกันแล้ว”เย่เทียนยิ้ม ๆ พูดโดยไม่มีต้องปิดบัง

“นั่นก็ดีละ”หลู่ซูหางผงกหัว เผยเห็นยิ้มแย้มอย่างแจ้งชัด ในขณะนี้เย่เทียนที่นอกจากเป็นเพื่อนชายของหลู่ซีซานแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นผู้เข้าชิงเป็นประมุขยุทธภพ ที่แน่นอนว่าหลู่ซูหางจะไม่ยอมให้ชื่อเย่เทียนต้องถูกแขวนทิ้งแน่

อีกด้านหนึ่ง ได้มองเห็นเย่เทียนเดินขึ้นมาบนหอสูง แววเหี้ยมโหดฉายวาบขึ้นในดวงตากัวซิ้วเจี๋ย แท้ที่จริงแล้วปลาครอบจักรวาลหยินหยางเป็นตำราลับเฉพาะของตระกูลถัง แต่เวลานี้กลับต้องปล่อยให้คนนอกเอาไปเรียนรู้ ทำไมเขาจะไม่เดือดดาล เพียงแต่ความกดดันจากสำนักพรรครอบข้าง เขาจะไม่เอาออกมาให้ก็ไม่ได้

ความเจ็บแค้นของกัวหมิงเลี่ยงก็ได้แวบผ่านเข้ามาด้วย ในขณะเดียวกันกับถ้าเย่เทียนชิงตำแหน่งที่หนึ่งได้ แน่นอนว่าฐานะความเป็นอันดับหนึ่งในรุ่นหนุ่มของเขาต้องถูกชิงเอาไป หากแม้นว่าเขาทั้งสองไม่เคยปะมือกัน เขาก็อาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่ดันเป็นว่าเขาได้เคยปะมือกับเย่เทียนแล้วที่โรงตี๊ยม และเย่เทียนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าเขาต้องไม่สบอารมณ์อย่างเด็ดขาด!

ส่วนจิ่วเจี้ยกับเสวียนเฉิงต่างยืนอยู่ข้างหลังของอาจารย์แต่ละท่าน เห็นเย่เทียนมองเข้ามา ต่างก็ยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร ยิ่งจิ่วเจี้ยนั้นยังบุ้ยไปทางสำนักง้อไบ๊ส่งสัญญาณทางสายตาไปให้เย่เทียนบ่อย ๆ ทำเอาเย่เทียนยิ้มไม่ออกวางตัวไม่ถูก

ในขณะสนทนาพาทีกัน หลู่ซูหางก็ได้สั่งการให้ยกเก้าอี้เพิ่มเข้ามาหนึ่งตัว ดึงเย่เทียนมานั่งด้วยกัน ส่วนหลู่ซีซาน คงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะนั่ง จึงต้องยืนอยู่หลังเย่เทียน

เมื่อเห็นในสภาพดังนี้ เจ้าสำนักต่าง ๆ ก็ได้ส่งยิ้มทักทายกับเย่เทียน คงไม่มีอะไรต้องว่ากัน ก็ในเมื่อเวลานี้เย่เทียนก็ชิงได้แล้วในตำแหน่งที่หนึ่งของรุ่นวัยหนุ่ม แน่นอนว่ามีคุณสมบัติพอที่จะนั่งได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่