ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 922

ถึงฟูจีโน ซาบูโระจะลงจากสังเวียนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้หนีไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากหนี แต่ตอนนี้เขาถูกไป๋ซินเยว่พาคนของตระกูลเสิ่นมาขวางเอาไว้ ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือภาวนาให้ซาซากิ โยชิอฮิเดะเอาชนะเสิ่นซิงอวี่ให้ได้ ไม่อย่างนั้น แขนข้างหนึ่งของเขาคงได้อยู่ในประเทศจีนตลอดไปแน่

“ฮึฮึ” ซาซากิ โยชิฮิเดะเช็ดคาบเลือดตรงมุมปากออก แล้วขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “คุณนี่ร้ายกาจจริงๆ ด้วย เจ้าฟูจิโนะนั่นถึงแพ้อย่างราบคาบขนาดนั้น”

“ต้องบอกว่าพวกคุณอ่อนแอเกินไปถึงจะถูก” เสิ่นซิงอวี่ส่ายหน้า และไม่ได้รีบร้อนที่จะลงมือ

“ฮึฮึ” ซาซากิ โยชิฮิเดะขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “วิชากระบี่ของคุณร้ายกาจมาก ทั้งๆ ที่ระดับการฝึกต่ำกว่าผม แต่กลับเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ ดูท่าผมเองก็ต้องงัดความสามารถที่แท้จริงออกมาใช้แล้ว”

ระหว่างที่พูด ซาซากิ โขชิฮิเดะก็ค่อยๆ เอาดาบทาชิในมือเสียบไปข้างหน้า ยื่นมือแล้วดึงแขนเสื้อทางขวาลง

“หืม?” พอได้ฟังที่ซาซากิ โยชิฮิเดะพูด ทุกคนต่างตื่นตกใจ จากนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา เมื่อกี้การต่อสู้ก็ดุเดือดมากแล้วแต่นี่ทั้งคู่ยังไม่ได้เอาจริง ตอนนี้ซาซากิ โยชิฮิเดะพูดมาแบบนี้ คงจะเอาจริงขึ้นมาแล้วแน่ๆ

เสิ่นซิงอวี่เองก็ตกใจเหมือนกัน ไม่รีบทำการโจมตี แต่กลับมองดูการกระทำของซาซากิ โยชิฮิเดะอย่างจริงจัง

ซาซากิ โยชิฮิเดะค่อยๆ จับดาบทาชิขึ้น พร้อมกับพูดออกมาอย่างช้าๆ ว่า “คุณโชคดีมาก การฝึกฝนทั้งชีวิตของผมเพียงเพื่อกระบวนท่าเดียว ความรุนแรงของหนึ่งกระบวนท่านี้ แรงพอที่จะสังหารเทพเจ้าได้!”

ซาซากิ โยชิฮิเดะยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น สองมือกำด้ามดาบแน่น ไม่รีบร้อนที่จะโจมตี ดูสุขุมมาก

และยิ่งเป็นแบบนี้ เสิ่นซิงอวี่ก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือที่กำกระบี่ไว้ ถึงกับมีเหงื่อแอบไหลออกมา

ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่สีหน้าของเสิ่นซิงอวี่กลับดูตื่นเต้นมาก แววตาดูมีใจที่จะสู้ เขาคือมือกระบี่ สิ่งที่ต้องการคือมุ่งสู่ข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัว ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแกร่งสักแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางถอย เพราะเมื่อไหร่ที่ถอย ก็เท่ากับชีวิตที่ผ่านมาของเขาจะสูญเปล่าทันที! มีเพียงแค่การสู้! สู้ต่อไปเรื่อยๆ!

ซาซากิ โยชิฮิเดะขยับแล้ว ก้าวขาออกมาเล็กน้อย ดาบทาชิในมือก็ถูกยกขึ้นช้าๆ ทว่า เพียงการเคลื่อนไหวที่เรียบง่ายแบบนี้ กลับมีจิตสังหารอันน่าตกใจเอ่อล้นออกมาจากตัวเขา

เมื่อสัมผัสถึงรังสีของซาซากิ โยชิฮิเดะ ทุกคนในที่ตรงนั้นก็ถึงกับตกใจ จิตสั่งหารอันนี้ของซาซากิโยชิฮิเดะนั้นรุนแรงเกินไป ในจิตสังหารอันนี้ ทำให้เห็นภาพซากศพที่กองเท่าภูเขา เห็นภาพแขนขาที่ขาดสะบั้นอยู่เต็มพื้น ต้องฆ่าคนไปมากขนาดไหนถึงมีจิตสังหารที่รุนแรงแบบนี้ได้นะ

แถมบางคนที่ค่อนข้างอ่อนแอหลังจากที่สัมผัสถึงจิตสังหารนี้ ร่างกายก็สั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ สีหน้าก็ดูหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ราวกับตัวเองกำลังยืนอยู่บนยอดเขาที่กองขึ้นจากซากศพ และเมื่อมองดูดีๆ ก็จะพบว่ามันเป็นซากคนตายทั้งนั้น

“กระบวนท่านี้ ถ้าคุณรับได้ ก็ถือว่าผมแพ้ ฟูจิโนะก็ยกให้คุณจัดการได้ตามใจชอบเลย!” ซาซากิ โยชิฮิเดะพูดออกมาอย่างช้าๆ

พอสิ้นเสียง เขาก็ขยับแล้ว กระโดดขึ้นมาอย่างเรียบง่าย ฟันดาบลงไปอย่างง่ายๆ แต่ในการกระทำที่เรียบง่ายนี้ ราวกับสัตว์โบราณดุร้ายอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือด พุ่งไปข้างหน้าเพื่อกลืนกินเสิ่นซิงอวี่

“เสิ่นซิงอวี่!” ไป๋ซินเยว่ที่อยู่ใต้เวทีตกโกนออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับสีหน้าที่เป็นห่วง นี่เพิ่งได้พบกับเสิ่นซิงอวี่อีกครั้ง เธอจึงไม่อยากแยกจากกันเร็วขนาดนี้ แถมยังเป็นการแยกจากกันแบบไม่มีวันได้พบกันอีกด้วย

อย่าว่าแต่เธอเลย แม้แต่นักบู๊ชาวจีนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เป็นกังวลกันมาก นี่จะแพ้แล้วเหรอ ถ้าแพ้มันก็ไม่ใช่แค่การต่อสู้ที่จบลง นี่มันส่งผลถึงชื่อเสียงในโลกบู๊เลยนะ!

พอได้ยินเสียงเรียกของไป๋ซินเยว่ เสิ่นซินอวี่ก็หันหน้าไป ยิ้มออกมาเล็กน้อย พยักหน้า เพื่อเป็นการบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง

การต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่เปี่ยมด้วยจิตสังหารของซาซากิ โยชิฮิเดะนั้น เสิ่นซินอวี่กลับไม่มีท่าทีอะไร มือขวาจับกระบี่ ยืนอย่างทนองตนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าได้เผยรอยยิ้มที่จางๆออกมา ราวกับได้ยอมแพ้ที่จะขัดขืนแล้ว และเฝ้ารอความตายอยู่ตรงนั้น

เมื่อสัตว์ร้ายมาถึงตรงหน้า เสิ่นซิงอวี่ก็เคลื่อนไหวแล้ว ขยับเท้าเบาๆ ทันใดนั้น เจตจำนงแห่งกระบี่ที่มหึมาก็พุ่งทะยานขึ้นบนฟ้า แล้วเห็นลำแสงกระบี่เส้นหนึ่งพุ่งผ่านกลางปากขอสัตว์ร้ายตัวนั้นไป

ราวกับเวลาได้หยุดลงตรงนี้ ดาบทาชิของซาซากิ โยชิฮิเดะอยู่ห่างจากหัวของเสิ่นซิงอวี่เพียงเล็กน้อย แต่ความห่างเพียงน้อยนิดนี้กลับฟันยังไงก็ไม่ลง

ตอนนี้ร่างกายขอเขาก็อ่อนแออย่างถึงที่สุด ไม่ได้ต่างจากคนทั่วไปมาก ถ้าไม่รีบห้ามเลือด เกรงว่าอาจเสียเลือดจนตายได้!

เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ หลู่ซูหางจึงได้กำชับกับลุกศิษย์ในสำนักหมอเทพไว้แต่แรกแล้ว ไม่อย่างนั้น ถ้าฟูจีโน ซาบูโระเกิดตายในการชุมนุมยุทธจักรขึ้นมา มันจะกลายเป็นเรื่องให้เอาได้

เอื้อก!

หลังจากที่ออกจากสายตาของผู้คนแล้ว เสิ่นซิงอวี่ก็รู้สึกเคืองคอ และได้กระอักเลือดออกมา

“ซิงอวี่ คุณเป็นยังไงบ้าง? ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” พอเห็นอย่างนั้น ไป๋ซินเยว่จึงถามไปด้วยความร้อนใจ

“ไม่เป็นไร ยังไม่ถึงตาย แม่งเอ๊ย เกือบแพ้แล้ว” เสิ่นซิงอวี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“คุณนี่นะ ชอบทำเป็นเก่งอยู่เรื่อย” พอได้ยินอย่างนั้น ไป๋ซินเยว่ก็ยื่นมือเล็กๆ ออกไปจิ้มใส่ตรงหัวของเสิ่นซิงอวี่ แต่ในแววตากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

“ยังจะมาว่าผมอีก ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมจะไปสู้กับเขามั้ย? ผมจะบาดเจ็บมั้ย?” เสิ่นซิงอวี่มองบนใส่ไป๋ซินเยว่ จากนั้นก็ตัดพ้อว่า “แต่ว่าเมื่อกี้ผมสังเกตเห็น ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ใช่ยอดฝีมือของประเทศจีน ดูท่าการชุมนุมยุทธจักรในครั้งนี้มันจะไม่ธรรมดาซะแล้ว”

“คุณก็บาดเจ็บแล้ว ยังจะไปสนใจอะไรพวกนั้นอีกทำไม ยังไงก็มีพวกพี่ชายของฉันอยู่” ไป๋ซินเยว่ยิ้มร่า “ไปกันเถอะเดี๋ยวฉันทำแผลให้”

“บอกเอาไว้ก่อน คุณอย่าทำอะไรบ้าๆ ผมเป็นผู้บาดเจ็บ ทำอะไรไม่ไหวหรอกนะ” เสิ่นซิงอวี่พูดด้วยความหวาดกลัว

ภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น เงาของทั้งสองก็ค่อยๆ เลือนหายไป…..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่