สำหรับเสียงครวญครางของฟูจีโน ซาบูโระที่ดังมาจากใต้เวทีนั้น ซาซากิ โยชิฮิเดะทำเหมือนไม่ได้ยิน คุกเข่าข้างหนึ่งแล้วช็อกอยู่ตรงนั้น แววตาไร้ความรู้สึก
“ฮ่าฮ่าฮ่า……” ทันใดนั้น ผมของซาซากิ โยชิฮิเดะก็หลุดลุ่ย เงยหน้าแล้วหัวเราะออกมา “ประเทศจีนก็สมเป็นประเทศจีนจริงๆ บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาสินะฮ่าฮ่าฮ่า…..”
สภาพของซาซากิ โยชิฮิเดะตอนนี้ดูย่ำแย่มาก เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง หัวกระเซอะกระเซิง ไม่ต่างอะไรกับคนจรจัดเลย
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าไอ้เสิ่นซิงอวี่นั่นมันร้ายกาจ นึกไม่ถึงว่าจะเข้าใจกระบวนท่านั้นได้ แม่งเอ๊ย เมื่อกี้ฉันเกือบทนไม่ไหวจนอยากจะลงมือเองแล้ว” บนเวทีสูง หลู่ซูหางกร่นด่าออกมา
“หืม?” พอได้ฟังที่หลู่ซูหางพูด เหล่าเจ้าสำนักก็พากันตกใจ และมองไปทางหลู่ซูหางอย่างพร้อมเพรียงกัน คอยฟังที่เขาจะพูดต่อ
“ฮึฮึ” หลู่ซูหางก็สังเกตเห็นสีหน้าของทุกคนเหมือนกัน จึงขำออกมาอย่างได้ใจ “น่าจะเป็นเมื่อหกปีที่แล้วมั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่กินเหล้ากับเสิ่นซิงอวี่ ไอ้เฒ่าทารกนั่นบอกว่าได้คิดค้นวิชากระบี่ขึ้นมาชุดหนึ่ง บอกว่าในการชุมนุมยุทธจักรจะทำให้ทุกคนตกใจ นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำสำเร็จแล้วจริงๆ เฒ่าทารกนั่น ทำให้ฉันตกใจได้จริงๆ”
“ซี๊ด!” พอได้ฟังอย่างนั้น ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็อดที่จะสูดหายใจเข้าไม่ได้ ต้องเข้าใจก่อนว่าคนที่สามารถคิดค้นกระบวนท่าที่เหมาะสมกับตัวเองขึ้นมาได้ มันก็สามารถถูกยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ในแขนงนั้นได้แล้ว
หลู่ซูหางได้จับตาดูการตอบสนองของทุกคนไว้ในสายตา และได้ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “ผมรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณต้องตกใจ แต่จะว่าไปก็พูดไม่ได้ว่าเขาคิดค้นขึ้นคนเดียว พวกคุณน่าจะรู้จัก วิชากระบี่กลับสู่หนึ่งของตระกูลเสิ่นใช่มั้ย? ทุกคนที่ไปทำความเข้าใจกับวิชานี้ก็จะมีความเข้าใจที่แตกต่างกัน ส่วนเสิ่นซิงอวี่นั้น ก็ได้เริ่มจากตรงนี้แหละ จนสามารถคิดค้นกระบวนท่าที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุดได้”
“อ๋อ….” หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายจากหลู่ซูหางแล้ว ทุกคนก็พากันพยักหน้า และพอเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า…..” และในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงหัวเราะที่ไม่รู้ว่าดังมาจากไหน
เสียง “ตูม!” ดังขึ้น จู่ๆ ก็มีสายฟ้าเกิดขึ้นกลางอากาศ ผ่าลงกลางสังเวียน ในเวลาเดียวกัน ได้มีชาวต่างชาติผมทองนัยน์ตาสีฟ้าคนหนึ่งปรากฏขึ้น “ช่างโชคดีจริงๆ ดีที่ผมไม่ได้มาช้าไป ยังทันได้เห็นศึกใหญ่ขนาดนี้ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า…..”
ถ้าโฉวฝันเฟยอยู่ที่นี่ จะต้องจำได้อย่างแน่นอนว่า คนคนนี้ก็คือจอห์นนี่ที่มาขอให้เขาร่วมมือด้วยนั่นเอง!
“จอห์นนี่? ทำไมเขาถึงมาอยู่นี่ได้?” พอเห็นผู้มาเยือน หลู่ซูหางก็ขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าก็ดูบึ้งตึงขึ้นมา
“ลุงหลู่ มีอะไรเหรอครับ?” เย่เทียนสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของหลู่ซูหาง จึงรีบถามไป
“อืม เป็นคนที่มีชื่อเสียงมาก” หลู่ซูหางขำออกมาอย่างขมขื่น แล้วส่ายหน้าเบาๆ “จอห์นนี่เป็นคนที่มีความสามารถในธาตุสายฟ้ากับธาตุช่องว่าง ฝีมือก็อยู่ในระดับที่ยอดฝีมือสามยอดรวมเกล้าทั่วไปไม่อาจสู้ได้ ไม่รู้ว่าที่เขามาที่นี่จะมีจุดประสงค์อะไร”
“วิชากระบี่ของคุณซาซากินี่ช่างร้ายกาจจริงๆ” ยังไม่ทันที่เย่เทียนจะได้ตอบ จอห์นนี่ที่ยืนอยู่บนสังเวียนก็ได้หันไปยิ้มให้ซาซากิ โยชิฮิเดะ แล้วพูดออกมา
ซาซากิ โยชิฮิเดะหันมองเขาแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
จอห์นนี่เองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่กลับกวาดตามองไปยังผู้คนที่อยู่ใต้สังเวียน “เหล่านักบู๊ของประเทศจีนทุกท่าน หวังว่าผมจะไม่ได้รบกวนทุกท่านนะครับ เพียงแต่การที่กระผมมาที่นี่ในครั้งนี้ เพราะมีเรื่องอยากรบกวนทุกท่านนิดหน่อย”
“จอห์นนี่ ว่ามา คุณมาทำอะไรที่นี่?” ปรมาจารย์เจตสิกได้ก้าวออกมา พูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ปรมาจารย์เจตสิก สวัสดีครับ” จอห์นนี่ไม่ได้รีบร้อน แต่กลับหันไปทักทายปรมาจารย์เจตสิกก่อนค่อยหันมาพูดต่อว่า “ความจริงที่ผมมานี่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่อยากให้ทุกท่านช่วยอธิบายกับผมหน่อยว่า ทำไมลูกเขยของผมถึงถูกคนทำให้พิการอย่างน่าประหลาดครับ?”
“ลูกเขย?” ปรมาจารย์เจตสิกขมวดคิ้ว “จอห์นนี้ ผมไม่เห็นจะเคยได้ยินว่าคุณมีลูกสาวมาก่อนเลย!”
“ฉันว่าเป็นไปได้ บางที่โฉวฝันเฟยอาจจะไม่กล้ามาแล้ว เลยให้จอห์รรี่มาแทนนี่ไง”
“หึ คิดไว้แล้วว่าโฉวฝันเฟยต้องไม่ใช่คนดีอะไร ตอนนี้ยังมาร่วมมือกับคนอื่น บางทีอาจจะเอาข้อมูลในโลกบู๊ของเราไปบอกจอห์นนี่นั่นตั้งนานแล้วก็ได้”
พอได้ยินจีเสว่ที่พูดอยู่บนสังเวียน ผู้ชมที่อยู่ใต้เวทีก็พากันวิจารณ์ใหญ่ แต่แค่มุ่งเป้าไปที่โฉวฝันเฟยเท่านั้น ใครให้เขาได้ฉายาว่าจักรพรรดิมารล่ะ
“จีเสว่? ทำไมเธอถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ?” พอได้ยินที่จีเสว่พูดปรมาจารย์เจตสิกก็ขมวดคิ้วอย่างแรง ไม่นึกไม่ฝันว่าเธอคนนี้จะเป็นจีเสว่!
“ภาพของฉันตอนนี้ เย่เทียนนี่แหละที่เป็นคนทำ! ไม่ปิดท่านปรมาจารย์ ที่ฉันมาในวันนี้ ก็เพื่ออยากมาทวงคืนความเป็นธรรมค่ะ!” จีเสว่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ
พอได้ยินอย่างนั้น ปรมาจารย์เจตสิกก็เลิกคิ้วขึ้น “จีเสว่ เรื่องที่เหยี่ยนเฟิงถูกทำให้พิการจะโทษเย่เทียนไม่ได้ เพราะตอนที่ประลองกัน เป็นเหยียนเฟิงเองที่เปลี่ยนวิชายุทธ์จนตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพนั้น”
“หลิงเอ๋อรู้ดี” จีเสว่งอตัวเล็กน้อย จากนั้นก็หันมองไปที่เย่เทียน ด้วยสายตาที่อำมหิตอย่างถึงที่สุด “เย่เทียน ในเมื่อแกอยู่บนสังเวียนแล้วทำให้สามีของฉันต้องพิการ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะขอเอาคืนแกบนสังเวียนแล้วกัน”
หลังจากที่ชะงักไปครู่หนึ่ง จีเสว่ก็ได้ตะโกนออกมาว่า “เย่เทียนแกกล้าลงมาสู้กันสักตั้งมั้ย!”
พอได้ยินที่จีเสว่พูด เย่เทียนก็ถึงกับตกใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงว่าจีเสว่จะกล้าท้าสู้ตัวเองแบบนี้ พอกำลังจะลุกขึ้น แต่ข้างๆ กลับมีคนลุกขึ้นมาก่อนแล้ว “หึ จีเสว่ ก่อนหน้านี้เธอทำร้ายคนของตระกูลเราจนบาดเจ็บ ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลย ตอนนี้เธอยังกล้าโผล่หัวออกมาอีก คงไม่อยากอยู่ต่อแล้วสินะ!”
ระหว่างที่พูด คนคนนั้นก็ได้ถีบขา ร่างกายลอยลงมาอยู่บนสังเวียนอย่างนิ่มนวล ชุดขาวทั้งตัว มือถือกระบี่ยาว และเขาก็คือกัวหมิงเลี่ยงนั่นเอง…..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่
ฝากถึงทีมงาน เราชอบอ่านนิยายมานาน...อ่านทุกประเภทและนิยายจีน..จากปี2520..อ่านมาตลอดในเวปใหญ่ๆ ชอบที่ทีมงานในเวปที่ให้อ่านฟรี..ก็อยากสนับสนุนถ้ามีโอกาส..และเวปดังๆเขาเก็บแพง..สมัยก่่อนเคยอ่านนิยายทั้งไทยจีน ค่าเช่าเล่มละ3บาท...แต่เวปดังๆเขาคิดตอนละ3บาท บางเรื่องมีหลายพันตอนซึ่งเมื่อเทียบแล้วเป็นเงินหลายพันบาท ซึ่งแพงกว่าเช่ามาก...เพื่อให้เวปพัฒนาขึ้น มีนิยายให้อ่านมากๆเรื่อง...มีค่าอ่านเช่น10ตอน3บาทหรือแล้วแต่ทางทีมงานจะตั้งราคา ที่ไม่สูงมากอย่างเวปอื่นซึ่งทีมงานคงรู้..นำมาปรับปรุงเวปนี้ เพราะชอบการแปลแบบนี้...
55555โดนสะงั้น...
Goๆๆๆๆๆๆ...
สุดยอดๆๆๆๆ...
ต่อไปๆๆๆ...
ยอมรับว่าเล้าใจๆๆ...
ติดตามๆๆๆๆไปต่อ...
ไปต่อๆๆๆ...
ต่อๆๆไปเลย...
สุดยอด...