ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 925

ตูม!

กรงเล็บของจีเสว่ปะทะเข้ากับกำปั้นที่ถูกสร้างขึ้นจากกำลังภายในของกัวหมิงเลี่ยง มันราวกับปะทะเข้ากับเต้าหู้ ถูกข่วนแหลกไปทันที กำลังภายในที่แข็งแกร่งแผ่ซ่านไปทั่วทิศ จนก่อเกิดสายลมที่รุนแรง พัดกระจายไปทั่ว

ในตอนสุดท้าย กรงเล็บของจีเสว่ยังไม่ยอมหยุด ได้ข่วนไปยังกัวหมิงเลี่ยงที่กำลังยืนอึ้งอยู่

“แดนระดับฟ้า!” เมื่อรับรู้ถึงออร่าของจีเสว่ หลู่ซูหางก็อุทานออกมาทันที

เย่เทียนก็ขมวดคิ้วอย่างแรง ในใจรู้สึกสงสัยยิ่งกว่า ทั้งๆ ที่เมื่อหลายวันก่อนจีเสว่ยังเป็นแค่ระดับดำตอนปลาย ตอนนี้กลับกระโดดข้ามมาสองขั้น หมัดเดียวก็ก้าวถึงแดนระดับฟ้า จะไม่ให้ตกใจได้ยังไง

แต่ดูจากหน้าตาที่เปลี่ยนไปของจีเสว่ ไม่ต้องคิดเย่เทียนก็พอจะรู้ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกันแน่ และน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับจอห์นนี่นั่นด้วย

“นะ นี่มันแดนระดับฟ้า!” มีผู้ชมใต้เวทีอุทานออกมา ทำหน้าเหมือนกับเห็นผี พร้อมกับแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

ต้องรู้ก่อนว่า การฝึกฝนก็คือการพัฒนาไปตามลำดับขั้นที่ควรจะเป็น ยิ่งหลังๆ ยิ่งฝึกยาก แต่สถานการณ์ของจีเสว่นั้นไม่กล้าพูดว่าต่อไปจะไม่มีอีก แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีแน่นอน!

“ว่าไงนะ! จีเสว่เป็นแดนระดับฟ้าอย่างนั้นเหรอ? เป็นไปได้ยังไง!”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ฉันจำได้ว่าเธออยู่แค่ฟ้ากำหนดระดับปลายเท่านั้นนี่ ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นแดนระดับฟ้าไปได้ล่ะ?”

“……..”

ใต้เวทีเกิดโกลาหลขึ้นมาใหญ่ เรื่องของจีเสว่นั้นมันน่าตกใจจริงๆ มันช่างน่าหดหู่จริงๆ

“บาปกรรม เธอกล้า!” พอเห็นออร่าของจีเสว่ยังพุ่งไปทางกัวหมิงเลี่ยงไม่หยุด กัวซิ้วเจี๋ยก็ได้คำรามออกมา

กับเสียงคำรามของกัวซิ้วเจี๋ยจีเสว่ทำเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงก้าวเท้าต่อไป ข่วนไปที่ไหล่ของกัวหมิงเลี่ยง ออกแรงที่มือแล้วเกิดเสียงกระดูกเคลื่อนดังขึ้น บ่งบอกว่ากระดูกเคลื่อนไปเรียบร้อยแล้ว

แกร็ก!

แต่เธอรู้สึกว่ายังสะใจไม่พอ ยื่นมืออีกข้างออกมา แล้วดึงแขนอีกข้างของกัวหมิงเลี่ยงจนกระดูกเคลื่อน

“อ้า!” เมื่อสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดขนาดนี้ กัวหมิงเลี่ยงก็ทนไม่ไหวจนร้องโอดครวญออกมา

“รนหาที่ตาย!” พอเห็นอย่างนั้น กัวซิ้วเจี๋ยก็เดือดดาลขึ้นมาทันที เพิ่มความเร็วที่ขา แล้วซัดฝ่ามือออกไป

“หึ!” จีเสว่ขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ ยื่นมือทั้งสองข้างออกไปพร้อมกัน ยกกัวหมิงเลี่ยงขึ้นมา พร้อมกับกระโดดขึ้นแล้วถีบใส่ท้องของกัวหมิงเลี่ยง จนกระเด็นไปทางกัวซิ้วเจี๋ย

สำหรับกัวหมิงเลี่ยงนั้น จีเสว่ยังไม่กล้าฆ่า เพราะยังไงเขาก็เป็นผู้สืบทอดรุ่นต่อไปของตระกูลกัว ถ้าถูกฆ่าไปทั้งอย่างนี้กัวซิ้วเจี๋ยต้องลงมือแน่ แต่ตอนนี้เธอยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกัวซิ้วเจี๋ย ถ้าเป็นแบบนี้ การที่เธอจะไปแก้แค้นเย่เทียน มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย

กัวซิ้วเจี๋ยที่เห็นอย่างนั้น ก็รีบยกเลิกการโจมตีทันที แล้วรับกัวหมิงเลี่ยงเอาไว้ และได้ถามไปอย่างห่วงใยว่า “หมิงเลี่ยงเป็นยังไงบ้าง? แกไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

“แคร็กๆ” กัวหมิงเลี่ยงไอออกมาเป็นเลือด แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าว่า “พ่อครับ ผมไม่…..”

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ก็สลบไปแล้ว

การที่เธอสามารถบรรลุถึงแดนระดับฟ้าหนึ่งขอบฟ้านั้น ความจริงเธอได้ทำการเปลี่ยนวิชายุทธ์ไปแล้ว ตอนแรกคิดว่าต่อให้เปลี่ยนวิชายุทธ์แล้วก็ไม่น่าจะบรรลุถึงแดนระดับฟ้าหนึ่งขอบฟ้าได้ แต่ด้วยการช่วยเหลือของจอห์นนี้ ไม่เพียงสามารถบรรลุถึงได้ แต่ยังยืดเวลาได้นานถึงสิบสองชั่วโมง!

แต่ค่าแลกเปลี่ยนก็แพงมาก ไม่เพียงต่อไปจะต้องกลายเป็นคนพิการ แต่ยังต้องทนรับกับความเจ็บปวดที่กระดูกถูกทิ่มแทง และใบหน้าที่เสียโฉม!

แต่ถึงต้องทนรับกับความเจ็บปวดขนาดนี้เธอก็ยินดี เพราะตอนนี้เธอได้ถูกความแค้นบังตาทั้งสองข้างไปแล้ว เหยียนเฟิงกลายเป็นคนพิการ มันจึงสร้างผลกระทบกับเธอเป็นอย่างมาก!

จีเสว่เป็นคนที่เย่อหยิ่งแค่ไหน ถ้าต้องเสียโฉม ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นหรอก แค่ตัวเธอเอง ยังไม่อยากมีชีวิตต่อเลย!

“หึ!” พอได้ฟังที่กัวซิ้วเจี๋ยพูด จีเสว่ก็ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ฉันเองก็เริ่มอยากรู้ขึ้นมาแล้วว่า การที่ศิษย์ของเจ็ดสำนักใหญ่กับสองตระกูลใหญ่ถูกทำร้าย พวกคุณที่เป็นผู้อาวุโสอยากลงมือยังไงก็ได้ใช่มั้ย? ส่วนคนจากสำนักเล็กๆ อย่างเราก็ได้แต่ต้องอดกลั้นเอาไว้สินะ?”

“นี่เธอ!” กัวซิ้วเจี๋ยโมโห แต่กลับไม่กล้าลงมือแล้ว เพราะถ้าเขาเป็นฝ่ายโจมตีไปเอง ก็จะเป็นการยืนยันคำพูดของจีเสว่ ถึงตอนนั้นทุกคนในโลกบู๊จะมองเขายังไง?

การที่กัวหมิงเลี่ยงถูกทำร้ายกัวซิ้วเจี๋ยต้องโมโหอยู่แล้ว แต่ยังไงเขาก็เป็น เจ้าบ้านกัว ถ้าไม่มีหัวคิดสักหน่อย ตระกูลกัวคงถูกคนเล่นงานจนไม่เหลือซากไปนานแล้ว

“เอาล่ะ เจ้าบ้านกัวรีบไปรักษาให้คุณชายดีกว่า” พอเห็นอย่างนั้น ปรมาจารย์เจตสิกก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ยังหาเหตุผลให้กัวซิ้วเจี๋ยสามารถลงจากเวทีได้

“บัญชีครั้งนี้ฉันจะจดไว้ในส่วนของโฉวฝันเฟยก่อน เจอกันครั้งหน้า ฉันไม่มีทางปล่อยมันไปแน่!” หัวซิ้วเจี๋ยโบกมือ ทิ้งท้ายไว้คำหนึ่ง จากนั้นก็อุ้มกัวหมิงเลี่ยงขึ้นมา แล้วเดินไปทางหมอเทพ

กับการข่มขู่ของกัวซิ้วเจี๋ยนัน จีเสว่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร พอเห็นกัวซิ้วเจี๋ยไปแล้ว จีเสว่ก็หันมองไปทางเย่เทียนที่นั่งอยู่บนเวทีสูง จากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า “เย่เทียน นี่แกยังเป็นผู้ชายอยู่มั้ย! ถ้ายังเป็นผู้ชายก็รีบไสหัวลงมาเดี๋ยวนี้!”

เมื่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว เย่เทียนก็รู้ว่าตัวเองควรขึ้นสังเวียนแล้ว ไม่อย่างนั้น ไม่รู้ว่าผู้คนในโลกบู๊จะมองเขาด้วยสายตายังไง……

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่