ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 934

“หรือโฉวฝันเฟยจะร่วมมือกับชาวต่างชาติแล้วจริงๆ?”

“ฉันพูดไว้ตั้งนานแล้วว่าโฉวฝันเฟเป็นคนแบบไหน ดูสิ ตอนนี้เขาร่วมมือกับคนที่มีความสามารถพิเศษคนนั้นเเล้ว เปิดเผยความลับโลกบู๊ของเราไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้”

ด้วยความที่อยู่ไกล ทำให้พวกผู้ชมไม่ได้ยินบทสนทนาที่เกิดขึ้นบนสังเวียน พอเห็นจอห์นนี่กระโดดขึ้นสังเวียน จึงได้วิจารณ์กันขึ้นมา

ซิ่ว!

ทันใดนั้นเอง ได้มีเงาอีกสี่เงาพุ่งขึ้นไปบนสังเวียนอีกครั้ง ซึ่งก็คือผู้สูงวัยผมชาวที่นั่งอยู่บนเวทีสูงนั่นเอง

“รีบดูนั่นเร็ว ตาแก่สี่คนนั่นใคร? ทำไมยังกล้าขึ้นไปอีก ไม่กลัวตายกันรึไงเนี่ย!”

“นั่นสิ ก่อนหน้านี้ที่นั่งบนเวทีฉันก็อยากถามแล้วว่าตาแก่พวกนี้เป็นใคร ทำไมถึงมีสิทธิ์ไปนั่งกับพวกเจ้าสำนักด้วย?”

“ฉันละสงสัยจริงๆ เลยว่านายเป็นคนของโลกบู๊รึเปล่า พวกเขาเป็นผู้คุมกฎ เป็นคนที่คอยตรวจสอบว่านในโลกบู๊ของเราไปร่วมมือกับชาวต่างชาติ แล้วทรยศต่อผลประโยชน์แก่โลกบู๊ของเรารึเปล่า!”

“เชี่ย ถ้าตามที่นายบอก แสดงว่าโฉวฝันเฟยทรยศโลกบู๊ของเราแล้วเหรอ? ไอ้กบฏนี่! ไอ้ทรยศ! ไอ้คนขายชาติ!”

พอเห็นเหล่าผู้คุมกฎกระโดดขึ้นบนสังเวียน เหล่าผู้ชมก็พากันฮือฮาขึ้นมา และมีบางส่วนก็เริ่มด่าทอโฉวฝันเฟยแล้วด้วย เพราะคนทรยศ ใครๆ ก็เกลียดกันทั้งนั้น!

การที่ของผู้นำยุทธภพคนก่อนต้องตายอย่างอนาถ ก็เพราะมีคนในโลกบู๊เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวไปร่วมมือกับต่างชาติ ช่วยกันสังหารเขาจนตาย จนทำให้แปดปีให้หลังยังไม่มีคนที่จะรับตำแหน่งผู้นำยุทธภพเลย โชคยังดีที่เรื่องถูกเปิดเผยเร็ว ไม่อย่างนั้น โลกบู๊คงได้พินาศไปแล้ว

และด้วยเหตุนี้ หลังการหารือของทุกคน ถึงได้มีการจัดตั้งผู้คุมกฎขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นอีก

ผู้คุมกฎนั้นถูกคัดเลือกออกมาจากคนในโลกบู๊ทั้งหมด และผู้ที่ถูกเลือก ปกติฝีมือก็จะอยู่ในระดับหนึ่งขอบฟ้า

และแน่นอนว่า การเสียสละก็ต้องมีผลตอบแทน ผู้ที่ถูกเลือกไม่เพียงจะได้รับค่าตอบแทนจะทั้งเจ็ดสำนักกับสองตระกูลใหญ่ คนในครอบครัวของพวกเขาก็จะได้รับการปกป้องด้วย ถ้าใครกล้าลงมือ ก็เท่ากับมีเรื่องกับทั้งเจ็ดสำนักและสองตระกูลใหญ่ด้วย!

และด้วยเหตุนี้ โดยปกติแล้ว ผู้ที่ถูกเลือกจะไม่ปฏิเสธ ถึงพวกเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนระดับฟ้าเหมือนกัน แต่ใครบ้างที่จะไม่มีครอบครัว?

แน่นอนว่า เพื่อกันไม่ให้ผู้คุมกฎถูกซื้อตัว จึงกำหนดว่าจะมีการเปลี่ยนกฎทุกสองปี หลายปีที่ผ่านมา ผู้คุมกฎก็จับสายลับจากประเทศอื่นได้มากมาย จนทำให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ

บนสังเวียน โฉวฝันเฟยยืนอยู่ฝั่งเดียวกับจอห์นนี่ ส่วนด้านตรงข้ามของเขา ก็คือเจ้าสำนักทั้งแปดกับผู้คุมกฎทั้งสี่

สีหน้าของเย่เทียนก็ค่อยๆ บึ้งตึงขึ้นมา เพราะตอนนี้โฉวฝันเฟยกับจอห์นนี่ต่างมุ่งเป้ามาที่ตน ส่วนเขาตอนนี้ก็กำลังเจ็บหนัก ไม่มีกำลังพอที่จะสวนกลับเลย การที่ต้องฝากชีวิตในมือคนอื่นแบบนี้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เอาซะเลย

ไม่รอให้เย่เทียนได้คิดมาก เจ้าสำนักของสำนักหมอเทพฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนคุยกันแอบย่องมาอยู่ตรงหน้าเย่เทียนแล้ว ยื่นมือมาแล้วอยากเช็กอาการให้เย่เทียน

“ผมไม่เป็นไร แค่ใช้กำลังภายในมากไปหน่อยเท่านั้น” กับสถานการณ์ของตัวเองนั้นเย่เทียนรู้ดีที่สุด ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วโบกไม้โบกมือ ส่งสัญญาณว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมาก

เจ้าสำนักหมอเทพพยักหน้า ทำหน้าเคร่งขรึม “เย่เทียน ตอนนี้โฉวฝันเฟยกับจอห์นนี่แสดงออกชัดเจนว่าจะให้เธอตายฉันจะให้การฝังเข็มกระตุ้นความสามารถของเธอ เพื่อให้เธอสามารถปกป้องตัวเองได้”

“จริงเหรอ? งั้นคุณก็ลองฆ่าให้ดูหน่อยสิ!” ด้านหลังของทุกคน เย่เทียนค่อยๆ ลุกขึ้น ถึงสีหน้าจะยังซีดเซียวอย่างถึงที่สุดแต่ก็เห็นได้ชัดว่าเริ่มมีเลือดไหลเวียนแล้ว

เย่เทียนในตอนนี้ได้รับการฝังเข็มจากเจ้าสำนักหมอเทพแล้ว ได้ทำให้เขาสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในระยะสั้นๆ บวกกับการใช้วิชาใจบริสุทธิ์ ทำให้โดยรวมเขาก็ฟื้นฟูได้พอสมควรแล้ว ถึงตรงหน้าอกจะยังมีบาดแผล แต่การที่จะปลดปล่อยพลังออกมาแปดสิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

ที่สำคัญ เย่เทียนไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งธรรมดาทั่วไปตอนนี้ในตัวของเขาได้มีกำลังภายในสองแบบหลอมรวมกันอยู่ ทำให้แข็งแกร่งกว่าผู้แข็งแกร่งแดนระดับฟ้าทั่วไปอยู่ไม่น้อย และนี่ก็เป็นสาเหตุที่เขาสามารถต้านทานการโจมตีที่เปี่ยมด้วยความโกรธของโฉวฝันเฟยได้!

“เหล่าจิน ยังลังเลอะไร มีอะไรค่อยมาว่ากันหลังจากที่เราจัดการมันได้แล้วก็ยังไม่สาย!”

ยัยแก่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ชายชราที่เป็นหัวหน้าได้ส่งเสียงฮึดฮัด เสียงซิ่วดังขึ้น กระบี่ที่อยู่ตรงเอวถูกชักออกจากฝัก กำไว้ที่มือขวา สีหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาต

“น้องเล็ก นิสัยของเธอนี่จะเปลี่ยนบ้างไม่ได้เลยเหรอ? ยังใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะ” หลังจากที่คำพูดของผู้สูงวัยสิ้นสุดลง ชายชราคนหนึ่งที่อยู่ข้างเธอก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น แต่ก็ยังก้าวเท้าออกมาเล็กน้อย พร้อมกับจ้องมองไปที่จอห์นนี่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเหมือนกัน

ส่วนชายชรากระโปรงจับจีบคนสุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไร มุมปากได้เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา ขยับเท้าเล็กน้อย ร่างกายค่อยๆ หายไปในอากาศ ทำการเคลื่อนไหวทันทีเพื่อแสดงถึงการตัดสินใจของเขา

“พวกเจ้าแก่กันถึงปูนนี้แล้ว ทำไมยังใจร้อนกันขนาดนี้นะ?” เมื่อรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพรรคพวกที่อยู่ข้างๆ เหล่าจินก็ส่ายหน้า แล้วออร่าที่แข็งแกร่งได้ระเบิดออกจากตัวเขาทันที

“บุก!” หลังจากที่ชายชราตะโกนออกมา ผู้สูงวัยทั้งสี่ก็ทำการโจมตีทันที

พอเห็นอย่างนั้น เย่เทียนก็ทำหน้าพร้อมสู้ ถีบขาอย่างแรง พุ่งตามหลังผู้สูงวัยทั้งสี่ไปติดๆ …..