ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ นิยาย บท 937

ถ้าจะบอกว่าเมื่อก่อนกำลังภายในของเย่เทียนเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่หนึ่งเส้น ตอนนี้มันได้หดเล็กจนกลายเป็นร่องน้ำไปแล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เปลี่ยนจากปริมาณเป็นคุณภาพ

ไม่เพียงเท่านั้น เย่เทียนถึงขั้นรับรู้ได้ว่าสายฟ้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่างของเขา ถึงมันจะทำให้เส้นเลือดภายในของเขาได้รับความเสียหาย แต่วินาทีต่อมา พลังงานแปลกประหลาดที่รวมตัวกันกับกำลังภายในแบบใหม่จะพุ่งเข้าไปทำการรักษาทันที หลังจากที่ทำการฟื้นฟูเสร็จ เขาก็สามารถสัมผัสได้ว่าเส้นเลือดในร่างกายได้ขยายขึ้นมามาก

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เป็นแบบนี้ มันก็เป็นความดีความชอบของจิตแห่งไท่ก๊กเลย ต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้เย่เทียนยังขับเคลื่อนจิตแห่งไท่ก๊กอยู่ คุณสมบัติพิเศษที่รวมทุกอย่างอยู่ในนั้นได้ดูดซับสายฟ้าของจอห์นนี้เข้าไปด้วย!

ส่วนคุณสมบัติพิเศษของสายฟ้าที่ทำให้ชานั้น เย่เทียนก็รู้สึกถึงมันนิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขา ถึงเย่เทียนจะรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องพวกนี้

ในเวลาไม่นาน เย่เทียนก็มีแผนอยู่ในหัวแล้ว ยิ้มอย่างชัวร้ายออกมาที่มุมปาก เผชิญหน้ากับจอห์นนี่ด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย…….

อให้ฝันเย่เทียนก็นึกไม่ถึงว่าถ้าตัดจิตแห่งไท่ก๊กแล้ว ที่เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวในตัวจอห์นนี่ยังมีอีกหนึ่งเหตุผล นั่นก็เพราะร่างกายของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก!

ต้องรู้ก่อนว่า ตอนนั้นเขาได้กินยาพันธุกรรมไปที่เดียวห้าสิบขวดเลย มากกว่าคนทั่วถึงยี่สิบห้าเท่า ร่างกายของเขาจึงแข็งแกร่งอย่างไร้เทียมทานไปนานแล้ว

บวกกับพลังทั้งสองอย่างที่ปะทะกันหลังจากนั้น มันจึงทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมจากภายในสู่ภายนอกด้วยเหตุนี้ ตอนที่สู้กับจีเสว่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจีเสว่จะใช้แรงสักแค่ไหน แต่อาการบาดเจ็บที่เธอได้รับก็ยังมากกว่าเย่เทียนอยู่ดี!

พอเห็นเย่เทียนไม่พูดไม่จา แต่กลับต้องมองตัวเองด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย จอห์นนี่ก็ได้เลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดไปอย่างใจเย็นว่า “ถึงแกจะไม่เลว แต่น่าเสียดาย ใครให้แกฆ่าเสว่อิ่ง แกจึงต้องตายสถานเดียว!”

“เหรอ?” เย่เทียนยักไหล่อย่างสบายๆ

“ตอนนี้ร่างกายของแกมันชาหน่อยๆ ใช่มั้ย? แกคิดว่าสภาพแบบนี้ยังสามารถรับหมัดฉันได้อีกรึไง?” จอห์นนี่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่สบอารมณ์

“รับไหวรึเหล่า ลองดูเดี๋ยวก็รู้เอง” เย่เทียนยิ้มออกมาอย่างมีความนัย

พอเห็นทำท่าทำทางอย่างนั้น จอห์นนี่ก็ขมวดคิ้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าเย่เทียนกำลังวางแผนอะไรอยู่ แต่ว่า กับความสามารถของตัวเอง เขาก็พอมีความมั่นใจอยู่ จึงได้ขยับเท้า ไปปรากฏอยู่ตรงหน้าเย่เทียนอย่างรวดเร็ว แล้วซัดกำปั้นที่รุนแรงออกไปอีกครั้ง

“พลังทริปเปิ้ล!” พอเห็นอย่างนั้น เย่เทียนก็ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ ยังคงทำท่าทีเหมือนเดิม ยื่นมือแล้วซัดกำปั้นออกไปอย่างแรงอีกครั้ง

ปัง!

แคร็ก!

จากการเข้าปะทะกันอีกครั้งของทั้งคู่ ก็ได้มีเสียงที่อุดอู้ดังขึ้นอีกรอบ แต่มันยังมีเสียงกระดูกที่แตกหักดังตามมาด้วย

ทั้งสองเข้าปะทะกันแล้วแยกออก แขนขวาของจอห์นนี่เชื่อมต่อกันเล็กน้อย ส่วนสีหน้าของเขาก็ซีดเซียว บนหน้าผากก็เริ่มมีเหงื่อไหลออกมาเต็มแล้ว แค่เขายังอดทนไม่ร้องออกมาเท่านั้น

ซี๊ด!

ผู้ชมที่อยู่ไม่ไกลที่ยังไม่ยอมไปพอเห็นภาพนี้เข้า ก็ทนไม่ไหวจนต้องสูดปาก นี่มันช่างน่าตกใจจริงๆ

ต้องรู้ก่อนว่า จอห์นนี่เป็นผู้มีพลังพิเศษที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลย ส่วนเย่เทียนก็เป็นแค่ม้ามืดที่เพิ่งปรากฏตัวในการแข่งชิงตำแหน่งในครั้งนี้เท่านั้น แต่พอทั้งคู่เข้ามาปะทะกัน กลับเป็นเย่เทียนที่แข็งแกร่งกว่า แล้วจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง

……

พอเห็นสายฟ้าลูกใหญ่ขนาดนี้พุ่งเข้ามา เย่เทียนก็ได้ยิ้มอย่างประหลาดออกมาที่มุมปาก เขาเลือกที่จะไม่หลบหลีกไปไหน เอาแต่ยืนอยู่ที่เดิม รอคอยการมาของสายฟ้า!

“หึ! รนหาที่ตาย!” พอเห็นอย่างนั้น จอห์นนี่ก็ทำเสียงฮึดฮัด ในใจรู้สึกโมโหยิ่งกว่า นึกไม่ถึงว่าเย่เทียนจะดูถูกตนถึงเพียงนี้

“ซี๊ด! สายฟ้าลูกใหญ่จัง? สมแล้วที่จอห์นนี่เป็นผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียง กับสายฟ้าลูกนี้ มันก็สามารถยืนยันความแข็งแกร่งของเขาได้แล้ว!”

“พวกนายรีบดูเร็ว นี่เย่เทียนกำลังทำอะไร? รนหาที่ตายเหรอ?”

“ก็ใช่นะสิ? ทำไมเขาถึงไม่หลบ?”

เหล่าผู้ชมที่อยู่รอบๆ พากันวิจารณ์ ก็การกระทำของเย่เทียนในตอนนี้มันรนหาที่ตายชัดๆ นี่นา!

“เย่เทียน!” หลู่ซูหางที่กำลังสู้กับโฉวฝันเฟยอยู่อีกด้านเหลือบเห็นภาพนี้จากทางหางตา จึงรีบตะโกนออกมา

จากการตะโกนของหลู่ซูหาง โฉวฝันเฟยที่กำลังต้านเหล่าเจ้าสำนักทั้งแปดก็หันมามองเหมือนกัน ในใจขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ การกระทำของเย่เทียนตอนนี้ช่างถูกใจเขาจริงๆ การที่เขายังฝืนต้านอยู่ตรงนี้ ก็เพราะอยากให้เย่เทียนตายเท่านั้น

ไม่ใช่แค่โฉวฝันเฟย เหล่าเจ้าสำนักทั้งแปดก็พากันหันมองเหมือนกัน

ตูม!

สายฟ้าขนาดเท่าท่อนแขนลูกนี้ได้ซัดใส่ตัวของเย่เทียนอย่างจัง จนทำเอาร่างของเย่เทียนกระเด็นออกไปสามเมตรเส้นผมชูชัน ร่างกายก็ดูไหม้เกรียม และล้มลงกับพื้น…..