“ว้าว ครอบครัวเหล่าซาน เมื่อวานหม้อเล็ก วันนี้เปลี่ยนเป็นหม้อใหญ่แล้ว” ป้าจ้าว ป้าในหมู่บ้านเดียวกันถาม “เนื้อแกพะโล้ของเธอนี่คงหาเงินได้ง่าย"
“ขอบคุณค่ะ ฉันก็พอขายได้บ้าง” เฉียวเหลียนเหลียนยิ้ม
เมื่อวานเธอไปขายน่องแกะตุ๋น คนในรถพากันหัวเราะเยาะเธอ พวกเขาคิดว่าของพวกนี้สุกแล้วขายแพงกว่าราคาทุนเป็นเท่าตัว ใครจะโง่ซื้อ
วันนี้พวกเขาเจอเธออีกเห็นเธอเปลี่ยนจาหม้อเล็กเป็นหม้อใหญ่ก็ตกตะลึง ดูเหมือนรายได้เธอไม่เลว ใครๆก็ต่างพากันอิจฉา
เมื่อเห็นเธอเป็นคนคิวง่าย ป้าจ้าวก็ชวยคุย “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยเห็นเนื้อแกะพะโล้มาก่อน มันก็แค่ใส่พริกลงไป กลิ่นก็เลยหอมค่อนข้างหอม แต่กลิ่นแย่กว่าเนื้อแกะพะโล้ของเธอมาก เธอใส่อะไรลงไป?”
เรื่องนี้เป็นความลับ และเฉียวเหลียนเหลียนไม่มีทางโง่พูด
เธอแค่ยิ้ม “อันที่จริง ฉันก็ใส่แบบเดาๆ รสชาติอร่อยก็ดีแล้ว”
ไม่มีคำพูดต่อจากนี้
ป้าจ้าวถามต่อ แต่ลุงหนิวขัดจังหวะเสียก่อน
คนในรถก็เลยเงียบ
เมื่อพวกเขามาถึงเมืองซีหยาง คนอื่นๆก็ลงจากรถไปตลาด ลุงหนิวช่วยเฉียวเหลียนเหลียนยกของลงและพูดว่า “การปรุงน้ำพะโล้มีสูตรลับเฉพาะ พวกเขาก็ถามเพื่อล้วงความลับ ถ้ามีใครมาถาม เธอก็ปฏิเสธไป คนบางคนก็ชอบล้วงความลับ”
นี่เป็นคำพูดที่ค่อนข้างมั่นใจ
เฉียวเหลียนเหลียนขอบคุณลุงหนิวพร้อมกับเอาเนื้อแกะพะโล้ให้
ลุงหนิวรีบปฎิเสธ “เธอเสียเงินซื้อมา ฉันไม่เอาหรอก ฉันรีบไปส่งคนก่อน”
เฉียวเหลียนเหลียนถอนหายใจ มันสายเกินไปที่จะพูด มีคนมากมายอยู่บริเวณแผงขายของ
มีทั้งคนที่เคยกินเมื่อวาน และลูกค้าใหม่ที่ได้กลิ่นหอมของพะโล้ และยังมีปี้ซงลูกค้าที่ซื้อไม่ทัน เขามารออย่างใจจดใจจ่อ
“เฮ้ สาวน้อย” ปี้ซงมีความสุขมาก “ฉันรอเธอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว เอาเนื้อแกะพะโล้โลครึ่ง ไม่สิ เอาสองโลครึ่งละกัน”
เมื่อสั่งของเสร็จ มือขนาดใหญ่ก็วางเงินลงบนโต๊ะ
เฉียวเหลียนเหลียนชั่งน่องแกะสองโลครึ่งให้เขาทันที เธอห่อกระดาษกันน้ำมันและมัดด้วยเชือกฟางเพื่อให้เขาพกติดตัวได้ง่าย
“ขอบคุณนะสาวน้อย”
ปี้ซงขอบคุณเขาอย่างมีความสุขและหันกลับมาเห็นกู้เฉิงจูงมือกู้เชวี่ยมา
แม้ว่าเด็กชายวัย 9 ขวบจะแต่งกายสุภาพเรียบร้อย แต่เขาไม่สามารถซ่อนท่าทีของเขาได้
ปี้ซงขมวดคิ้ว เด็กน้อยคนนี้ดูคุ้นๆ ดูเหมือนเขาจะเคยเห็น แต่เขาเป็นใครจำไม่ได้แล้ว
ช่างเถอะ
กลับไปกินเนื้อแกะโล้ก่อน!
ปี้ซงหอบเนื้อแกะและรีบกลับไป
ก๊อก ก๊อก คนเคาะประตูคนเดิมกับเมื่อวานก็มาอีกเช่นเคย
ทันทีที่ปี้ซงเข้ามา เขาพูดอย่างมีความสุขว่า "เจียงชุน ฉันซื้อเนื้อแกะพะโล้มาตั้งสองโลครึ่ง มันหอมมาก มาชิมดูสิ"
“นายท่านยังไม่ฟื้น ทำไมแกถึงมีความสุขนัก!” เจียงชุนดุเขา
ปี้ซงกลั้นยิ้มไว้ “งั้นฉันกลับไปเอามาให้นายท่านอีกชุดนึง เผื่อนายท่านได้กลิ่นหอมจะฟื้นขึ้นมา”
“แกคิดว่านายท่านตะกละเหมือนแกเหรอ” เจียงชุนมองเขาอย่างดุดัน จากนั้นหันหลังเข้ามาในห้อง
ปี้ซงก้มหน้าด้วยความผิดหวัง และวางเนื้อแกะลง
ทันใดนั้น เจียงชุนก็อุทานเสียงดัง "นายท่าน นายท่านฟื้นแล้ว!"
ปี้ซงรีบโยนเนื้อแกะทิ้งแล้วรีบวิ่งเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ราวกับลมบ้าหมู “ในที่สุด นายท่านก็ฟื้นขึ้น หากท่านไม่ฟื้น เราวางแผนที่จะพาท่านกลับไปที่เมืองหลวง ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดนายท่านก็ฟื้น"
ชายสองคนที่เข้มงวดคุกเข่าลงบนพื้นและร้องไห้เสียงดัง
ชายชุดม่วงที่นอนอยู่บนเตียงเอื้อมมือไปลูบที่แขนของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะหลับตาลงด้วยความผิดหวัง
ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั้น...มันคือภาพลวงตาเหรอ?
แต่เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้เป็นคนยุคนี้ เธอมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง และมีผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ชั้นสูงในยุคศตวรรษที่ 20
ยาหยอดตาขวดนี้เป็นยาหยอดตาชนิดหนึ่งที่เธอเคยพัฒนาเพื่อบรรเทาอาการต้อหิน
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคนและผู้สูงอายุที่ไม่มีบุตรและไม่ได้เป็นโรคต้อหินแต่กำเนิด เฉียวเหลียนเหลียนไม่แน่ใจว่าโรคตาของกู้จงจะหายขาดได้หรือไม่
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงไม่เคยเอายาหยอดตาออกมาเลย
แต่ตอนนี้ เมื่อมองไปที่กู้จงตัวน้อยที่หลบอยู่มุมห้องโดยไม่พูดอะไรเลย เฉียวเหลียนเหลียนก็เลยไม่ต้องการรออีกต่อไป
จะรักษาให้หายขาดได้หรือไม่จะทราบภายหลังการรักษาเท่านั้น
แม่ลูกทำความสะอาดแผงขายของ และเนื่องจากมีนักชิมอย่างกู้โหลว เฉียวเหลียนเหลียนจึงหยิบเงิน 20 เหรียญออกไปซื้อเค้ก
ขากลับพวกเขานั่งรถลุงหนิวกลับเช่นเคย เฉียวเหลียนเหลียนหยิบชามซี่โครงแกะที่แบ่งไว้ให้กับลุงหนิว
ลุงหนิวปฎิเสธหลายครั้ง สุดท้ายก็ยอม
แต่ค่ารถยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอจ่ายเป็นอันขาด
“เสี่ยวเฉียว เธอให้ซี่โครงแกะฉันมา ฉันไม่เก็บค่ารถเธอ ถ้าเธอยืนยันจะจ่ายค่ารถ ฉันจะไม่ขอรับซี่โครงแกะนี้”
ลุงหนิวเป็นคนอารมณ์ดีและทำในสิ่งที่เขาพูด
เฉียวเหลียนเหลียนไม่มีทางเลือก เธอเก็บเงินไว้และพาลูกๆกลับบ้าน
เช้าอันแสนวุ่นวายผ่านไป หลังจากอาบน้ำเสร็จเด็กๆก็หมดแรงและผลอยหลับไป
มีเพียงกู้จงเท่านั้นที่ไม่ง่วงนัก และนั่งเบื่อหน้าประตู
เฉียวเหลียนเหลียนจึงนำยาหยดตามาหยอดให้กู้จง
“แม่” กู้จงตกใจ แม้เขาจะมองไม่ค่อยเห็น แต่เขาก็รู้ว่าเป็นเงาเฉียวเหลียนเหลียน “มีอะไรเหรอ?”
“จงเอ๋อร์ แม่มีอะไรจะบอก” เฉียวเหลียนเหลียนนั่งแล้วกระซิบเบาๆ “แม่ไปพบหมอผู้เชี่ยวชาญทางด้านตา หมอบอกว่าถ้าหยอดยานี้จะทำให้ตามองเห็นโลกใบนี้ แต่บางคนหยอดแล้วอาจจะยังพร่ามัว ลูกอยากลองไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่36หายค่ะ แก้ไขให้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาตอน 21-25หาย แก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายแก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายค่ะ...
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...