ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 268

กู้เซี่ยวโหลวค่อยๆเดิน

ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้

ยกมือขึ้นมาราวกับกำลังจะบอกลา

เขาหยิบห่อผ้า ยา อาหารจากมือของเฉียวเหลียนเหลียนผู้เป็นมารดา

โชคดีที่เจ้าลูกชายตัวอ้วนของเขานั้นเเข็งเเรง ไม่เช่นนั้นเขาคงเเบกของพวกนี้ไว้บนหลังของเขาไม่ไหว

ในหลายวันที่ผ่านมานี้ เฉียวเหลียนเหลียนรู้สึกเศร้าใจอยู่หลายครั้ง เเละไม่เคยคุ้นชินกับมันเลย

เเต่ยังโชคดีที่หยูเฟยจงย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว

ว่ากันว่าเขามีบ้านอยู่ในที่อื่นอีก เเต่เขาต้องอยู่เเละตายในบ้านของจวิ้นอ๋องเเห่งซินฉิง เเละไม่มีใครสามารถทำอะไรกับมันได้

ในที่สุดเฉียวเหลียนเหลียนก็รู้สึกโล่งใจ

เพราะลูกสาวทั้งสองเมื่อมีเวลาว่างก็จะไปหาที่เรือน หรือเเม้เเต่หยูเฟยเฉิงก็จะมาบ้างเป็นครั้งคราว

ดูเหมือนว่าเขาก็คงไม่ได้นอนอยู่ประจำที่จวนของตัวเอง เเละทุกอย่างมันก็ยังดูเหมือนเดิม

เเต่อีกใจเฉียวเหลียนเหลียนก็รู้ว่ามันไม่เหมือนเดิม

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าภายในบ้านไม่มีใครสามารถกินอาหารได้เท่ากับเจ้าเด็กอ้วน อาหารก็คงจะต้องเหลืออยู่ทุกมื้อ

เเม้กระทั่งตอนที่หยูเฟยเฉิงมาถึง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

หรือเเม้กระทั่งการที่เฉียวเหลียนเหลียนกลายเป็นที่พูดถึง เเละมีคนมากมายชวนเธอไปร่วมทานอาหารด้วย

เเต่เฉียวเหลียนเหลียนบอกไม่ได้เลยว่าเหตุผลที่คนเชิญเธอไปร่วมทานอาหารเป็นเพราะเป็นชื่อของเธอ หรือเพราะใกล้ชิดกับเด็กๆ ใกล้ชิดกับหลายชายคนโตที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุด

เเต่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปถึงเหล่าเด็กๆทั้งหลาย เฉียวเหลียนเหลียนจึงทำได้เพียงปฏิเสธไป

มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอเก็บมันไว้

มันไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นสิ่งใด เเต่ก็เพราะคนคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีของพระชายาตวน ภรรยาของนายพลที่ฉันพบระหว่างทางไปงานเลี้ยงในวังในวันส่งท้ายปีเก่า

ถ้าเธอเป็นแค่ภรรยาของนายพลธรรมดาๆ มันก็ไม่เท่าไหร่

เเต่สิ่งที่ทำให้เฉียวเหลียนเหลียนสนใจ นั้นก็คือสามีของเธอ ที่เป็นถึงนายพลผู้เกรียงไกรเเห่งราชวงค์ต้าหยู

ซึ่งในตอนนี้เจ้าลูกชายกู้โหลวก็ได้ติดตามเขาไป

ได้ยินมาว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดี ดูเเลภรรยาของเขาอย่างดี เขาก็ควรจะดูเเลลูกชายของเขาให้ดีกว่านี้สักหน่อย

เพราะด้วยคิดเช่นนี้ ในวันที่สิบหก เฉียวเหลียนเหลียนจึงพิถีพิถันในการเเต่งตัว เธอเลือกชุดที่หยูเฟยเชวียส่งมาให้ เพื่อที่จะไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายพล

นี้ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เธอปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณะชน

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของจี้หยุนชู หรือเป็นเพราะตัวตนของเด็กๆ ทำให้เฉียวเหลียนเหลียนได้รับการต้อนรับอย่างดีมาเสมอตั้งเเต่ครั้งเเรก

ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนโตจากตระกูลนี้ หรือหญิงสาวคนเล็กจากตระกูลนั้น ต่างก็ยิ้มต้อนรับให้นางอย่างเป็นมิตร

เเต่เมื่อหันกลับมา กลับมีสายตาที่มองนางอย่างเหยีดหยาม

ในตอนนี้สำนักฝึกได้เปิดเรียนเเล้ว ไม่ว่าจะลูกชายคนโตหรือลูกอีกสี่คนต่างก็ต้องไปยังสำนัก เเต่ลูกสาวทั้งสองคนนั้นสามารถมาร่วมงานเลี้ยงได้ เเต่เฉียวเหลียนเหลียนยังไม่ได้ยินเสียงอนุญาตจากหยูเฟยเชวีย นั้นทำให้นางไม่เเน่ใจว่าลูกสาวทั้งสองคนจะสามารถมาร่วมงานได้หรือไม่

โชคดีที่ข้างกายของนางยังมีโหยวฉิ้นจือเเละหยาจือ ทำให้เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้รู้สึกตระหนกมากนัก

นางสวมชุดที่มีสีเดียวกับเเสงของดวงจันทร์ยามค่ำคืน ทุกย่างก้าวของนางสง่าผ่าเผย เงียบสงบ ไม่เหมือนกับว่านางมาจากชนชั้นที่ต่ำกว่า

เเม้ว่าอากาศเริ่มจะอบอุ่นเเต่ก็ยังคงอยู่ในช่วงฤดูหนาว ที่ดอกไม้ยังคงผลิบาน

ระหว่างทางที่เฉียวเหลียนเหลียนเดินไป ก็พบกับขนมหวานมากมาย เเละนางก็รู้สึกทึ่งกับความงดงามของเหล่าขนมนั้น

นางไม่รู้จนกระทั่งเข้าไปในสวนดอกเหมย เเละพบเข้ากับต้นเหมยมากมาย

ต้นเหมยขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาที่เเข็งเเรง มองไกลๆสีเเดงเหล่านั้นเหมือนกำลังเผาไหม้ เเต่ทว่าสีน้ำตาลนั้นก็ชวนให้รู้สึกสงบมากเสียทีเดียว เมื่อมองจากระยะไกลเช่นนี้ ความสวยงามของมันช่างดูน่าทึ่ง เเต่ก็ดูเงียบสงบในคราวเดียวกันอาจจะเป็นวันที่อากาศดี อาจจะเป็นโชคดี ในขณะนี้ เม็ดหิมะจางๆ ลอยอยู่บนท้องฟ้า เพิ่มความสวยงามระยิบระยับให้กับผืนสีแดงและสีน้ำตาล

ในขณะนี้ ภรรยาของนายพลเดินออกมาจากห้องหลักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ข้าไม่รู้ว่าใครมาเร็วขนาดนี้ ที่เเท้ก็เป็นภรรยาของท่านหมอเทวดานี้เอง”

ทันทีที่นางพูด เฉียวเหลียนเหลียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

เทียบกับคนที่เข้าหานางเพราะพวกลูกๆ นางเต็มใจให้เรียกชื่อนี้เสียมากกว่า

ด้วยวิธีนี้จะทำให้นางไม่รู้สึกเขอะเขิน เเละกล้าที่จะใช้มือใช้เท้าได้อย่างเต็มที่

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของเฉียวเหลียนเหลียนก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา พร้อมก้าวไปข้างหน้า “ท่านนายพลเชื้อเชิญมาทั้งที บ้านเล็กบ้านน้อยจะไม่มาได้อย่างไร พูดไปพูดมาก็ควรจะมีบ้านเพิ่ม เผื่อพวกนางจะได้มาเห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้บ้าง ”

ภรรยาของท่านนายพลโบกมือ “อันที่จริงก็ไม่ควรมีภรรยาของท่านหมอเทวดาเพียงเเค่คนเดียว ข้ารู้สึกยินดีเเละเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านมายังบ้านของข้า ”

หลังจากพูดแบบนี้ เฉียวเหลียนเหลียนก็วางเเผนที่จะเอาคืน

ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “นี่นี่....ท่านภรรยาหมอเทวดา พวกท่านทั้งสองอย่ามัวเเต่คุยโม้กันอยู่เลย ข้างนอกนี้หิมะตกเย็นยะเยือก ถ้าพวกท่านไม่รีบเข้าไปข้างในคงได้ตัวเเข็งตายกันอยู่ตรงนี้ล่ะ คนหนึ่งเป็นถึงหมอที่มีชื่อเสียง อีกคนเป็นถึงเจ้าของงานเลี้ยงในวันนี้ ถ้าพวกท่านเเข็งตายอยู่ตรงนี้ คนคงได้พากันหัวเราะเยาะไปทั่วเมืองหลวง”

น้ำเสียงที่ไพเราะและตรงไปตรงมานี้ก็คือองค์หญิงตวนนั่นเอง

เฉียวเหลียนเหลียนและภรรยาของท่านนายพล มองหน้ากันและยิ้มให้กัน ทำทีราวกับว่าสนิทสนมชิดเชื้อมาเเต่ปางก่อน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า