กู้เซี่ยวโหลวค่อยๆเดิน
ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้
ยกมือขึ้นมาราวกับกำลังจะบอกลา
เขาหยิบห่อผ้า ยา อาหารจากมือของเฉียวเหลียนเหลียนผู้เป็นมารดา
โชคดีที่เจ้าลูกชายตัวอ้วนของเขานั้นเเข็งเเรง ไม่เช่นนั้นเขาคงเเบกของพวกนี้ไว้บนหลังของเขาไม่ไหว
ในหลายวันที่ผ่านมานี้ เฉียวเหลียนเหลียนรู้สึกเศร้าใจอยู่หลายครั้ง เเละไม่เคยคุ้นชินกับมันเลย
เเต่ยังโชคดีที่หยูเฟยจงย้ายออกไปอย่างรวดเร็ว
ว่ากันว่าเขามีบ้านอยู่ในที่อื่นอีก เเต่เขาต้องอยู่เเละตายในบ้านของจวิ้นอ๋องเเห่งซินฉิง เเละไม่มีใครสามารถทำอะไรกับมันได้
ในที่สุดเฉียวเหลียนเหลียนก็รู้สึกโล่งใจ
เพราะลูกสาวทั้งสองเมื่อมีเวลาว่างก็จะไปหาที่เรือน หรือเเม้เเต่หยูเฟยเฉิงก็จะมาบ้างเป็นครั้งคราว
ดูเหมือนว่าเขาก็คงไม่ได้นอนอยู่ประจำที่จวนของตัวเอง เเละทุกอย่างมันก็ยังดูเหมือนเดิม
เเต่อีกใจเฉียวเหลียนเหลียนก็รู้ว่ามันไม่เหมือนเดิม
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าภายในบ้านไม่มีใครสามารถกินอาหารได้เท่ากับเจ้าเด็กอ้วน อาหารก็คงจะต้องเหลืออยู่ทุกมื้อ
เเม้กระทั่งตอนที่หยูเฟยเฉิงมาถึง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
หรือเเม้กระทั่งการที่เฉียวเหลียนเหลียนกลายเป็นที่พูดถึง เเละมีคนมากมายชวนเธอไปร่วมทานอาหารด้วย
เเต่เฉียวเหลียนเหลียนบอกไม่ได้เลยว่าเหตุผลที่คนเชิญเธอไปร่วมทานอาหารเป็นเพราะเป็นชื่อของเธอ หรือเพราะใกล้ชิดกับเด็กๆ ใกล้ชิดกับหลายชายคนโตที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุด
เเต่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบไปถึงเหล่าเด็กๆทั้งหลาย เฉียวเหลียนเหลียนจึงทำได้เพียงปฏิเสธไป
มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอเก็บมันไว้
มันไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นสิ่งใด เเต่ก็เพราะคนคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีของพระชายาตวน ภรรยาของนายพลที่ฉันพบระหว่างทางไปงานเลี้ยงในวังในวันส่งท้ายปีเก่า
ถ้าเธอเป็นแค่ภรรยาของนายพลธรรมดาๆ มันก็ไม่เท่าไหร่
เเต่สิ่งที่ทำให้เฉียวเหลียนเหลียนสนใจ นั้นก็คือสามีของเธอ ที่เป็นถึงนายพลผู้เกรียงไกรเเห่งราชวงค์ต้าหยู
ซึ่งในตอนนี้เจ้าลูกชายกู้โหลวก็ได้ติดตามเขาไป
ได้ยินมาว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดี ดูเเลภรรยาของเขาอย่างดี เขาก็ควรจะดูเเลลูกชายของเขาให้ดีกว่านี้สักหน่อย
เพราะด้วยคิดเช่นนี้ ในวันที่สิบหก เฉียวเหลียนเหลียนจึงพิถีพิถันในการเเต่งตัว เธอเลือกชุดที่หยูเฟยเชวียส่งมาให้ เพื่อที่จะไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายพล
นี้ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เธอปรากฎตัวต่อหน้าสาธารณะชน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของจี้หยุนชู หรือเป็นเพราะตัวตนของเด็กๆ ทำให้เฉียวเหลียนเหลียนได้รับการต้อนรับอย่างดีมาเสมอตั้งเเต่ครั้งเเรก
ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนโตจากตระกูลนี้ หรือหญิงสาวคนเล็กจากตระกูลนั้น ต่างก็ยิ้มต้อนรับให้นางอย่างเป็นมิตร
เเต่เมื่อหันกลับมา กลับมีสายตาที่มองนางอย่างเหยีดหยาม
ในตอนนี้สำนักฝึกได้เปิดเรียนเเล้ว ไม่ว่าจะลูกชายคนโตหรือลูกอีกสี่คนต่างก็ต้องไปยังสำนัก เเต่ลูกสาวทั้งสองคนนั้นสามารถมาร่วมงานเลี้ยงได้ เเต่เฉียวเหลียนเหลียนยังไม่ได้ยินเสียงอนุญาตจากหยูเฟยเชวีย นั้นทำให้นางไม่เเน่ใจว่าลูกสาวทั้งสองคนจะสามารถมาร่วมงานได้หรือไม่
โชคดีที่ข้างกายของนางยังมีโหยวฉิ้นจือเเละหยาจือ ทำให้เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้รู้สึกตระหนกมากนัก
นางสวมชุดที่มีสีเดียวกับเเสงของดวงจันทร์ยามค่ำคืน ทุกย่างก้าวของนางสง่าผ่าเผย เงียบสงบ ไม่เหมือนกับว่านางมาจากชนชั้นที่ต่ำกว่า
เเม้ว่าอากาศเริ่มจะอบอุ่นเเต่ก็ยังคงอยู่ในช่วงฤดูหนาว ที่ดอกไม้ยังคงผลิบาน
ระหว่างทางที่เฉียวเหลียนเหลียนเดินไป ก็พบกับขนมหวานมากมาย เเละนางก็รู้สึกทึ่งกับความงดงามของเหล่าขนมนั้น
นางไม่รู้จนกระทั่งเข้าไปในสวนดอกเหมย เเละพบเข้ากับต้นเหมยมากมาย
ต้นเหมยขนาดใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาที่เเข็งเเรง มองไกลๆสีเเดงเหล่านั้นเหมือนกำลังเผาไหม้ เเต่ทว่าสีน้ำตาลนั้นก็ชวนให้รู้สึกสงบมากเสียทีเดียว เมื่อมองจากระยะไกลเช่นนี้ ความสวยงามของมันช่างดูน่าทึ่ง เเต่ก็ดูเงียบสงบในคราวเดียวกันอาจจะเป็นวันที่อากาศดี อาจจะเป็นโชคดี ในขณะนี้ เม็ดหิมะจางๆ ลอยอยู่บนท้องฟ้า เพิ่มความสวยงามระยิบระยับให้กับผืนสีแดงและสีน้ำตาล
ในขณะนี้ ภรรยาของนายพลเดินออกมาจากห้องหลักด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ข้าไม่รู้ว่าใครมาเร็วขนาดนี้ ที่เเท้ก็เป็นภรรยาของท่านหมอเทวดานี้เอง”
ทันทีที่นางพูด เฉียวเหลียนเหลียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา
เทียบกับคนที่เข้าหานางเพราะพวกลูกๆ นางเต็มใจให้เรียกชื่อนี้เสียมากกว่า
ด้วยวิธีนี้จะทำให้นางไม่รู้สึกเขอะเขิน เเละกล้าที่จะใช้มือใช้เท้าได้อย่างเต็มที่
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของเฉียวเหลียนเหลียนก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา พร้อมก้าวไปข้างหน้า “ท่านนายพลเชื้อเชิญมาทั้งที บ้านเล็กบ้านน้อยจะไม่มาได้อย่างไร พูดไปพูดมาก็ควรจะมีบ้านเพิ่ม เผื่อพวกนางจะได้มาเห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้บ้าง ”
ภรรยาของท่านนายพลโบกมือ “อันที่จริงก็ไม่ควรมีภรรยาของท่านหมอเทวดาเพียงเเค่คนเดียว ข้ารู้สึกยินดีเเละเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านมายังบ้านของข้า ”
หลังจากพูดแบบนี้ เฉียวเหลียนเหลียนก็วางเเผนที่จะเอาคืน
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง “นี่นี่....ท่านภรรยาหมอเทวดา พวกท่านทั้งสองอย่ามัวเเต่คุยโม้กันอยู่เลย ข้างนอกนี้หิมะตกเย็นยะเยือก ถ้าพวกท่านไม่รีบเข้าไปข้างในคงได้ตัวเเข็งตายกันอยู่ตรงนี้ล่ะ คนหนึ่งเป็นถึงหมอที่มีชื่อเสียง อีกคนเป็นถึงเจ้าของงานเลี้ยงในวันนี้ ถ้าพวกท่านเเข็งตายอยู่ตรงนี้ คนคงได้พากันหัวเราะเยาะไปทั่วเมืองหลวง”
น้ำเสียงที่ไพเราะและตรงไปตรงมานี้ก็คือองค์หญิงตวนนั่นเอง
เฉียวเหลียนเหลียนและภรรยาของท่านนายพล มองหน้ากันและยิ้มให้กัน ทำทีราวกับว่าสนิทสนมชิดเชื้อมาเเต่ปางก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า
ตอนที่36หายค่ะ แก้ไขให้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาตอน 21-25หาย แก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายแก้หน่อยนะคะ...
เนื้อหาหายค่ะ...
ตอนที่ 21-25 เนื้อหาหายไปค่ะรบกวนแก้ไขให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ...
ลุ้นๆๆๆ ขนมอบต้องมา...
รัททายาทเป็นพ่อที่เลวมากๆ...
สนุกๆ รอตอนต่อไปค่ะ...
เริดๆๆ...
รอต่อค่าาา...