ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า นิยาย บท 269

เฉียวเหลียนเหลียนเเละภรรยาของท่านนายพลเดินเข้าไปภายในงานเลี้ยงด้วยกัน

ในเวลานี้ สตรีผู้สูงศักดิ์หลายคนจากเมืองหลวงนั่งอยู่ภายในงานเลี้ยงแล้ว

ไม่ว่าจะพระชายาตวน พระชายารุ่ย พระมารดาขององค์หญิงอันเล่อ นอกจากนี้ยังมีคุณนายจ้าว เเละภริยาของตระกูลอื่นๆ

เมื่อพระชายาตวนเห็นเฉียวเหลียนเหลียน ก็เเสดงท่าทีเป็นมิตรเเละเชิญให้มานั่งข้างๆนาง

ไม่เเม้เเต่จะสนใจสายตาที่องค์หญิงอันเล่อมองมา

สำหรับคุณนายจ้าว คุณนายฮัน หรือเเม้เเต่คนอื่นๆ เพียงเเค่มองหน้าเเละส่งยิ้มให้กันเล็กน้อย

เเต่เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้สนใจมากนัก นางนั่งระหว่างกลางของพระชายาต้วนเเละพระชายารุ่ย

“ข้าคิดว่าวันนี้เจ้าจะไม่มาซะอีก” พระชายารุ่ยยื่นมือไปจับมือของเฉียวเหลียนเหลียนๆไว้

พูดตามตรง ภายในห้องนี้เห็นว่าจะมีเพียงเเค่พระชายารุ่ยกับเฉียวเหลียนเหลียนที่คุ้ยเคยกันมากที่สุดใน

บรรดาเเขกเหรื่อที่อยู่ภายในที่เเห่งนี้ พวกนางรู้จักกันตั้งเเต่อยู่ที่อันหยาง

ภายหลังเฉียวเหลียนเหลียนได้มาที่เมืองหลวง พวกนางก็ช่วยเหลือซึ่งกันเเละกันจนก่อให้เกิดมิตรภาพที่ดี

“เเน่นอนว่าตำเเหน่งของท่านเเม่ทัพ ข้อต้องการได้มา” เฉียวเหลียนๆยิ้มอย่างอ่อนโยน “ยิ่งไปกว่านั้น พระชายารุ่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย ข้าจะไม่มาได้อย่างไร”

คำพูดนั้นหวานเสียจนเจ้าหญิงรุ่ยอดไม่ได้ที่จะปิดปากและหัวเราะ

พระชายาตวนก็อดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมวงสนทนาด้วย “ว่าอย่างไร ถ้าท่านพี่รุ่ยไม่มา เจ้าก็จะไม่มาอย่างนั้นหรอ?เเล้วระหว่างพวกเรามันคืออะไรกันล่ะ? ”

พูดไปก็พลางทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ให้ได้

พระชายาตวนนี้ช่างมีอารมณ์ที่เหมือนกับเด็กเสียจริง ไม่เเปลกใจที่ท่านอ๋องจะรักเเละถนุถนอมนางมาก

เฉียวเหลียนเหลียนได้เเต่ยิ้มอย่างขบขัน “เเน่นอนว่าถ้าพระชายาตวนมา ข้าจะต้องมาด้วยอย่างเเน่นอน”

“นั้นเป็นเพราะเจ้าตาถึง” องค์หญิงตวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเเละตีเบาๆไปที่เฉียวเหลียนเหลียนอย่างสนุกสนาน

เเต่การเเสดงออกเมื่อกี้ ในสายตาของคุณนายจ้าวเเละคุณนายฮันกลับรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่าง

หญิงบ้านนอกคนนี้ ไม่เพียงเเต่เป็นที่รักของเหล่าเด็กๆ เเต่ยังมีความสนิทสนมกับเหล่าพระชายาอีกด้วย เรื่องพวกนี้มันคืออะไรกันเเน่?

ในตอนนี้บ้านของท่านนายพลเหวยหยวน เเถมยังมีพระชายาอยู่รายล้อม เป้าหมายของพวกนางจะสำเร็จได้อย่างไร

เมื่อคิดเช่นนี้ คุณนายจ้าวก็เหลือบตาไปมองคุณนายฮัน หลังจากนั้นก็หันไปมองยังองค์หญิงอันเล่อที่ไม่เเม้จะเเยเเสอะไร

คุณนายฮันเข้าใจ เเละพูดออกมาอย่างช้าช้า “ว่าก็ว่า ภรรยาของหมอเทวดา ตอนนี้นางก็พักอยู่กับท่านจวิ้นอ๋องมาสักระยะเเล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะย้ายเข้ามาเเละกลายเป็นนายหญิงเหมือนกัน ”

การโยนไฟลงไปในทุ่งที่เงียบสงบ ไฟมันย่อมลุกได้ง่าย

จู่ๆองค์หญิงอันเล่อ จากไม่สนใจเเยเเสสิ่งใด สายตาก็กลับกลายเป็นเย็นชาเเละมองไปที่เฉียวเหลียนเหลียน

ในเวลานี้ คุณนายจ้าวทำได้เพียงเเต่ตบมือเบาๆ พร้อมกับเเสร้งเป็นต่อว่า “นี้เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน ข้าน่ะ จำองค์หญิงทั้งสองพระองค์ที่โตมาด้วยกันได้นะ เเต่ว่าองค์หญิงอันเล่อกับจวิ้นอ๋องเเห่งชิงผิงเป็นคู่หมั้นกัน จวิ้นอ๋องจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้เยียงไร ”

หมั้นหมายน่ะหรอ?

จากเดิมที่เฉียวเหลียนเหลียนไม่ได้สนใจอะไร กลับต้องเงยหน้ามาฟัง

เเม้เเต่องค์หญิงอันเล่อก็หันมามองมารดาของตนด้วยความประหลาดใจ

องค์หญิงฉุนเจียดูลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูด “มันเป็นแค่เรื่องตลกขบขันกับน้องสาวของข้าในตอนนั้น ไม่มีทางที่จะเป็นเรื่องจริง”

ปกติการหมั้นหมายไม่ได้จริงจัง ไม่ว่าจะจากวาจาหรือการทำเป็นลายลักษณ์อักษร

แต่ปัญหาคือพวกเขาเป็นราชวงศ์ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีเกียรติที่สุดในราชวงศ์ต้าหยู

“จุ๊ๆ อย่าพูดสิ” คุณนายจ้าวคว้าคบเพลิงอันสุดท้าย เขวี้ยงมันลงไปท่ามกลางกองไฟเล็กๆที่ลุกโชนภายในใจขององค์หญิงอันเล่อ “ท่านจวิ้นอ๋องน่ะ ท่านก็มีนายหญิงอยู่ที่บ้านอยู่เเล้ว อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ระวังปากของเจ้าน่อย”

คุณนายฮันยักไหล่เเละปิดปากอย่างช่วยไม่ได้

เเต่มันสายเกินไปเเล้ว องค์หญิงอันเล่อลุกขึ้นมาทันที เเม้เเต่องค์หญิงชุนเจียมารดาของนางก็ยังคว้าตัวไว้ไม่ทัน

“นายหญิงอะไรกัน! บ้านของจวิ้นอ๋องไม่มีนายหญิง” ไฟที่อยู่ในอกมันปะทุจนควบคุมไม่ได้อีกต่อไป “หญิงบ้านนอกอย่างเฉียวเหลียนเหลียนนี้นะที่จะคู่ควรเป็นนายหญิงของจวิ้นอ๋อง? นางไม่คู่ควรเเม้เเต่จะถือรองเท้าให้ท่านพี่หยุนชูเสียด้วยซ้ำ! ”

คุณนายจ้าวเอียงคอไปด้านหลังเล็กน้อย ราวกับว่านางไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าองค์หญิงอันเล่อจะระเบิดความโกรธได้ถึงเพียงนี้

คุณนายฮันยิ้มอย่างเหยียดหยาม “นั้นล่ะที่ข้าต้องการจะบอก เเต่นางก็อยู่ในบ้านเดียวกันกับจวิ้นอ๋องนี่หน่า”

“นางก็คงใช้มารยาหลอกท่านพี่ คนที่เป็นคู่หมั้นก็คือข้า คนที่จะได้เป็นนายหญิงของจวิ้นอ๋องเเห่งชิงผิงก็คือข้า! ”

คุณนายฮันได้เเต่กัดมุมปากและไม่พูดอะไร

หัวใจขององค์หญิงชุนเจียเเทบจะหลุดออกมา นางพยายามยื่นมือออกไปดึงองค์หญิงอันเล่อกลับเข้ามา เพื่อไม่ให้นางอับอายไปมากกว่านี้

แม้ว่าในเมืองหลวงจะเป็นที่รู้กันดีว่าองค์หญิงอันเล่อหลงรักจวิ้นอ๋องเเห่งชิงผิง แต่เท่าที่รู้ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่แสดงความรักของนางอย่างกระตือรือร้นหรือเเม้เเต่พูดเรื่องไร้สาระโดยเฉพาะการเป็นนายหญิงอย่างหน้าไม่อายเท่านาง

“ท่านเเม่ ปล่อยข้าเถอะ” องค์หญิงอันเล่อไม่สนใจเเม้สักนิดเดียว เเต่กลับสะบัดมือออก พร้อมเดินเข้าไปหาเฉียวเหลียนเหลียน “นี้เเม่นาง ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้เรื่องการหมั้นหมายของข้ากับท่านพี่หยุนชูมาก่อน เเต่ตอนนี้พวกเรามีพันธะสัญญากันเเล้ว เจ้าคือคนที่เข้ามาขวาง ถ้าเจ้าฉลาด ก็จงย้ายออกจากบ้านของท่านพี่ซะ อย่ามาทำตัวติดสอยห้อยตามท่านพี่ให้มันน่ารำคาญเสียเลย”

เฉียวเหลียนเหลียนบีบผ้าเช็ดหน้าในมืออยู่หลายครา เเต่กระนั้นนางก็ไม่ได้รู้สึกโกรธองค์หญิงอันเล่อเลยเเม้เเต่น้อย

นางเห็นใจองค์หญิงอันเล่อเสียด้วยซ้ำ

นางไม่ผิดที่จะทำอะไรหุนหันพันเเล่นเเละคล้อยตามง่ายเช่นนี้ นอกจากนี้นางยังมีมารดาที่มีจิตใจอธรรม ไม่เเนะนำหรือตักเตือนในช่วงเวลาคับขันหรือหลงผิด

เหมือนกับที่องค์หญิงชุนเจียกล่าวเมื่อกี้ “ไม่ได้หมั้นหมาย” องค์หญิงอันเล่อจะกลายเป็นคนที่ผิดในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามภพมาเป็นแม่เลี้ยงของวายร้ายทั้งห้า