เจียงเฉิงเข้าใจในทันที ที่แท้ก่อนหน้านี้เจียงเฉิงแยกกันนอนกับสวี่ฉิง เจียงเฉิงจึงทำได้แค่นอนบนพื้น
เช้าวันรุ่งขึ้น สวี่ฉิงทานอาหารเช้าและไปทำงานที่โรงพยาบาลกับเจียงเฉิง
“หืม นี่มันไอ้เจียงไร้ประโยชน์ของโรงพยาบาลเราไม่ใช่หรอ?ทำไมถึงพึ่งออกจากโรงพยาบาลก็มาทำงานเลยล่ะ รักในงานเกาะผู้หญิงกินมากสินะ?”
เจียงเฉิงพึ่งเปลี่ยนชุดคลุมสีขาว เมื่อได้ยินคำพูดเสียดแทงลอดเข้ามาในหูของตัวเอง
เจียงเฉิงก็หันกลับไป แล้วมองไปที่ฉินหลานหัวหน้าพยาบาลร่างท้วมกำลังมองมาที่เขาอย่างเย้ยหยัน
เจียงเฉิงรู้จักฉินหลานคนนี้ เพราะครอบครัวของตัวเองไม่อบอุ่น จึงมักจะมาพร้อมกับอารมณ์ที่ทำงานด้วย การระบายที่ดีที่สุดของเธอก็คือ เจียงเฉิงก่อนหน้านี้
เห็นฉินหลานมีท่าทีเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าชีวิตในครอบครัวไม่อบอุ่น จึงระบายใส่ตนแบบนี้
เจียงเฉิงมองไปที่ฉินหลานด้วยสายตาเรียบเฉย พลางกล่าวว่า“หัวหน้าพยาบาลฉินครับ ดูท่าคุณแล้ว สามีคงจะออกไปสร้างปัญหาข้างนอกใช่ไหม?”
ฉินหลานได้ยินคำพูดตรงไปตรงมาของเจียงเฉิงก็ถึงกับตกตะลึง เมื่อก่อนเธอเอาแต่หาเรื่องระบายกับเจียงเฉิง ถึงอย่างไรเสียเจียงเฉิงก็ทำได้แค่ยิ้มส่งให้เธอ คิดไม่ถึงว่าวันนี้เจียงเฉิงจะตอบโต้ตัวเองแบบนี้
ทันใดนั้นแก้มอ้วนๆของฉินหลานก็แดงก่ำทันที เธอเกลียดที่คนอื่นเอาเรื่องในครอบครัวของเธอมาพูด เธอจึงถลึงตาและตะคอกเสียงดังว่า“เจียงเฉิง วันนี้สมองของนายเสียไปแล้วใช่ไหม?นายมันก็แค่สวะแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง มีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงเรื่องในครอบครัวของฉันห้ะ?”
เมื่อวานฉินหลานลา ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกับเจียงเฉิงที่โรงพยาบาล คิดว่าเจียงเฉิงยังเป็นเจียงเฉิงคนเดียวกันกับเมื่อก่อน จึงเยาะเย้ยเขาอย่างเกรงกลัว
เจียงเฉิงไม่อยากสนใจเธอ จึงเมินใส่เธอทันที เตรียมจะเข้าไปมาคณบดีเสิ่นที่ห้องทำงาน เนื่องจากหัวหน้าแผนกเฉินไปหาเขาด้วยตัวเอง ถ้าไม่ไปก็คงจะไม่ดี
แต่ฉินหลานกลับขวางทางของเจียงเฉิง แล้วกล่าวว่า“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!วันนี้ถ้านายไม่อธิบายให้รู้เรื่อง อย่าคิดจะออกไปเลย”
เจียงเฉิงพูดอย่างหน่ายใจ“คณบดีเสิ่นจะพบผม ถ้าผมไม่ไป คณบดีจะโกรธเอานะครับ คุณรับผิดชอบไหวหรอ?”
เมื่อฉินหลานได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง ก็เหมือนกับได้ยินเรื่องตลก จึงหัวเราะไปด้วยพูดไปด้วยว่า“ฉันว่าวันนี้สมองของนายคงไม่ปกติจริงๆด้วย คณบดีเสิ่นเป็นใคร?เธอจะขอพบกับบุรุษพยาบาลอย่างนายเนี่ยนะ?นายไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองหน่อยล่ะ!”
ในเวลาปกติเจียงเฉิงก็เหมือนกับคนไร้ตัวตนในโรงพยาบาล ไม่มีใครให้ความสำคัญ คณบดีของโรงพยาบาลเมืองหลูหยางที่หนึ่ง จะขอพบกับคนแบบนี้เนี่ยนะ ฉินหลานคิดว่าเจียงเฉิงต้องฆ่าตัวตายจนสมองเสียไปแล้วแน่ๆ
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าแผนกเฉิน ฉินหลานก็ตกใจจนหน้าถอดสี ที่แท้ที่เจียงเฉิงพูดก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง คณบดีเสิ่นขอพบเขาจริงๆ อีกทั้งยังให้เขาเป็นแพทย์ประจำบ้านอีกด้วย
ตนขวางคนที่คณบดีเสิ่นขอพบ นี่มันก็เท่ากับการนอนบนส้วมน่ะสิ ที่ที่ไม่ไกลจากอุจจาระ?
“หัวหน้าแผนกเฉิน ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้จริงๆ ฉะ……”ฉินหลานพูดได้แค่ครึ่งเดียว ก็รีบพูดกับเจียงเฉิงว่า“น้องเจียงเฉิง ดูสิฉันโมโหไอ้ผัวเฮงซวยของฉันน่ะ ฉันสมควรตาย ฉันปากพล่อยเอง ขอโทษด้วยนะ”
ฉินหลานกลัวว่าเจียงเฉิงจะพูดใส่ไฟตนเองต่อหน้าคณบดี ถ้าพูดออกไปจริงๆ เธอก็จะต้องทิ้งตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลที่เธอกว่าจะได้มาแน่ๆ
เจียงเฉิงไม่อยากใส่คนอย่างนี้ จึงเดินอ้อมฉินหลานออกไป หัวหน้าแผนกเฉินถลึงตาใส่ฉินหลานอย่างดุดัน
เมื่อเห็นเจียงเฉิงเดินจากไป ฉินหลานก็เสียใจมาก เธอไม่รู้ว่า ระหว่างที่เธอลาไปหนึ่งวัน ตกลงในโรงพยาบาลเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
หัวหน้าแผนกเฉินพาเจียงเฉิงมาที่ห้องทำงานของคณบดีเสิ่น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“น้องเจียงเฉิง นายจะต้องช่วยฉันพูดด้วยนะ”
เจียงเฉิงตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินเข้าห้องทำงานของคณบดีเสิ่นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง