ประโยคนั้นจี้ใจดำดนัยอย่างจัง เพราะเขาคิดแบบนั้นจริง ๆ
แต่งกับเขาต้องเข้าตระกูลเตชะโสภา แน่นอนว่ากิจการร้านอาหารก็ต้องทุ่มเทด้วย
“ฉันจะพูดเรื่องพวกนี้กับคุณไปทำไมกัน? เปลืองน้ำลาย แต่ฉันต้องการจะบอกว่าการแสดงวันนี้ทำได้ดีเลยนะ ที่น่าเสียดายคือบาร์บี้ไม่มีน้ำตาเลย น่าเสียดายทีเดียว และตอนนี้คุณควรออกไปได้แล้ว เชิญ!!”
ดนัยหลับตาลง หายใจเข้าออกลึก ๆ
เขาอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปจุมพิตริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอ จูบนั้นรุนแรง และไม่ทันตั้งตัว เขากดจูบราวกับจะพิสูจน์ให้เธอรับรู้ถึงความรู้สึกและความจริงใจของเขา
เขาจูบและแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา
ถ้าเธอยังมองว่านี่เป็นเพียงแค่การแสดงอีก แล้วเมื่อไหร่ความผิดของเขาจะหายไป?
เล่นละคร?
เขาเล่นละครอะไรกับบาร์บี้?
รสจูบที่รุนแรงจนเลยเถิด มุมปากถูกกัดและได้กลิ่นเลือดจาง ๆ…
นาโนคิดว่าแบบนี้ไม่ดีต่อทั้งสองฝ่าย เธอกัดปากเขาและดึงเต็มแรง ไม่สนว่าเขาจะเจ็บไหม!
“ให้โอกาสผมอีกครั้งนะ แค่ครั้งเดียวก็ได้ ครั้งก่อนผมหน้ามืดตามัวเอง แต่ตอนนี้ผมตาสว่างแล้ว ผมเข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว!”
“ตบหัวแล้วลูบหลัง คิดว่าจะได้เหรอ?”
นาโนผลักเขาออกพลางหอบหายใจแรง สายตาของเธอจ้องเขม็ง “ไปให้พ้น!”
…
เรื่องของทั้งสองยังไม่มีบทสรุป
การเลือกผู้บริหารใหม่ของเตชะโสภาก็ใกล้เข้ามาทุกวัน
นีรดารู้เรื่องนี้แล้ว เธอกระวนกระวายและกังวลมาก แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
แต่ดนัยกลับนิ่ง ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนสักนิด เหมือนเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเองเลย
เขาไปดื่มที่บาร์บ้างเป็นครั้งคราว หรือไม่ก็ไปหาคังซีที่โรงแรม
และแน่นอนบางครั้งก็มีของขวัญติดไม้ติดมือไปให้ เป็นของขวัญสุดพิเศษ จนของเล่นที่ห้องของนาโนกำลังจะล้นออกมา...
คังซียังเด็กเกินกว่าจะเล่นของเล่นมากมายพวกนั้น และก็คงเล่นไม่เป็นด้วยนั่นแหละ
ดนัยเหมือนคนไม่มีสติ เขาซื้อของเยอะขึ้น ๆ และซื้อบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ
แต่นาโนก็เมินเขาทุกครั้งที่เขามา
การประชุมผู้ถือหุ้นของเตชะโสภามีขึ้นในวันพุธนี้ และนี่ก็เป็นวันจันทร์แล้ว ผู้ถือหุ้นทุกคนในบริษัทตอนนี้ต่างก็กังวล ราวกับว่าไฟกำลังลุกจี้ไหม้ที่ก้น พวกเขากำลังวิ่งวุ่นไปรอบ ๆ ทั้งวันทั้งคืน
ตอนที่นาโนอยู่ห้อง ทุกวันจะมีคนไม่น้อยผลัดเวียนกันมาเคาะประตูขอพบ และมีสายโทรเข้าอีกไม่น้อยไปกว่ากัน จุดประสงค์ก็คงหนีไม่พ้นหุ้นที่เธอถือ
หุ้นจำนวนไม่น้อยที่เธอเป็นคนถือมีบทบาทสำคัญในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนี้มาก แน่นอนว่าทุกคนกำลังทำงานหนักเพื่อเอาชนะใจเธอ
แต่นาโนไม่ได้สนใจเลย เธอไม่รับโทรศัพท์ และไม่ให้ใครเข้ามาในห้องด้วยเหมือนกัน
ทางดนัยกลับทำตัวชิว คนที่บริษัทเขาเครียดเหมือนจะตาย แต่เขายังมีเวลามาตกปลา
ผ่านไปไวเหมือนพริบตาเดียว ก็มาถึงวันพุธ
ดนัยและนีรดาขับรถเข้าบริษัทตั้งแต่เช้า และมุ่งตรงไปที่ห้องประชุมทันที
ภาพในห้องประชุมมีผู้คนนั่งอยู่ไม่น้อย ผู้ถือหุ้นทุกคนน่าจะมาถึงกันแล้ว ตอนนี้มีที่นั่งว่างเพียงสองที่ ที่นั่งสำหรับนาโนที่หนึ่งและสำหรับคังซีอีกที่หนึ่ง
บรรยากาศรอบ ๆ ตึงเครียดมากและภายในก็เงียบสนิท ผู้ถือหุ้นต่างทำหน้าตาจริงจัง ยิ่งทำให้ดูตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม
มีแค่ดนัยคนเดียวที่เรื่องนี้เหมือนไม่มีผลอะไรกับเขาเลย แถมเขายังดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟอย่างชิว ๆ
นีรดาที่กระวนกระวายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บรรยากาศที่ตึงเครียดแบบนี้ยิ่งทำให้เธอได้ยินแม้กระทั่งเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง
ผู้ถือหุ้นที่นั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ ถึงจะมีจำนวนไม่มาก แต่กลับแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัดเจน
นีดราทำเพียงแค่พยักหน้าแต่ไม่ตอบอะไร
แต่ท่าทางอ่อนแรงเล็กน้อยนี้ได้บอกทุกอย่างชัดเจนแล้ว บาร์บี้มองจ้องไปที่ดนัย ความรู้สึกเศร้าแปลก ๆ ก็เกิดขึ้นในใจเธอ
“แม่ครับ เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งแม่ก่อนนะผมมีธุระต่อ คงกลับค่ำ ๆ ” สีหน้าของดนัยเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ไปไหน?”
“ไปโรงแรม เหมือนคังซีจะมีไข้นิดหน่อย ผมจะไปดูหน่อยครับ เดี๋ยวตอนเย็นผมจะไปรับแม่ไปหาเขานะครับ”
เมื่อได้ยินว่าคังซีไม่สบาย นีรดาก็ไม่คิดจะคัดค้านอะไร เพียงพยักหน้า “ตอนเข้าไปก็แวะรับหมอเข้าไปด้วย”
ดนัยพยักหน้าบอกว่าตัวเองเข้าใจแล้ว
หลังจากรอให้เขาเดินออกไป บาร์บี้ก็อาสาไปส่งนีรดากลับคฤหาสน์ตระกูลเตชะโสภา
นาโนกำลังนั่งเช็กสินค้าที่ออกมาใหม่ ส่วนคังซีก็หลับอยู่ เมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูจึงเดินไปเปิดและเห็นดนัยยืนอยู่ด้านหน้า
เธอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว จำได้ว่าวันนี้ดนัยมีประชุมไม่ใช่เหรอ มันเสร็จเร็วขนาดนี้เลย?
เธอเลิกคิดและกลับมายุ่งกับงานต่อ
ดนัยอยู่ในห้องเงียบ ๆ เขาก็มีความอดทนมากเหมือนกัน ดนัยเฝ้าคังซีตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็นแล้วค่อยกลับไป
ตกเย็น เชอร์รีนก็เข้ามาหาเธอ ทั้งสองไม่ได้เจอกันหลายวัน รอบนี้เลยนั่งคุยกันสนุกกว่าปกติ และเธอก็ได้รู้จากเชอร์รีนว่าประธานครามได้ขึ้นเป็นประธานคนใหม่ของเตชะโสภา ดนัยออกจากตระกูลเตชะโสภาแล้วและตอนนี้ก็ไม่มีงานทำ
นาโนไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เธอเพียงหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาจิบเบา ๆ
เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่าย เชอร์รีนไม่รู้ต้องทำยังไง สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือนิ่งเงียบและปล่อยให้ทั้งสองจัดการกันเอาเอง
แต่เธอก็รู้สึกว่าดนัยจริงจังกับเรื่องของนาโนอยู่
ถึงยังไงเรื่องที่ใหญ่เหมือนเรื่องหุ้นบริษัทขนาดนี้ คงไม่มีผู้ชายคนไหนทำได้หรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง