“ออกั……”ดนัยเรียกเบาๆ แล้วพูด “ในเมื่อตอนนี้เธอทำกับฉันแบบนี้ แต่ฉันยังไม่คิดจะปล่อยเธอไป ความคิดนี้อยู่ในใจฉันลึกมาก ต่อให้เธอใจร้ายกับฉันขนาดนี้ แต่ความรู้สึกในใจมันบอกฉันว่าปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ต่อให้ผิดหวัง……”
เมื่อออกัสกำลังจะพูด เชอร์รีนที่ยืนฟังอยู่ข้างๆตลอดก็รับโทรศัพท์
เธอพูดอย่างไม่สนใจ “ถ้าจะยอมแพ้ก็ทำให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ซะ แบบนี้ถึงจะดีกับนาย เพราะตอนนี้นายรู้สึกว่าตัวเองลำบากใจ ได้รับบาดเจ็บ รู้สึกว่านาโนหมดใจแล้วเหรอ?”
“แล้วทำไมนายถึงไม่คิดถึงตอนที่เธอตกอยู่สถานการณ์ในตอนแรกล่ะ ที่ส่งอาหารกลางวันที่นาย ระหว่างทางก็รถคว่ำ เกือบจะไม่รอดชีวิต แต่ถึงยังไงก็มาส่งให้นายจนถึงบริษัท แถมคุณชายอย่างนายยังบอกทิ้งท้ายเธอว่าไม่ต้องมาอีก หมดหวัง ผิดหวัง อย่างนายเปรียบอะไรกับเธองั้นเหรอ?”
เชอร์รีนไม่ได้ยินที่ดนัยพูดว่าไม่ปล่อย ได้ยินแค่คำว่าผิดหวังแค่สองคำก็ระเบิดแล้ว
ดนัยยังไม่ทันได้พูด เชอร์รีนพูดบลาๆขึ้นอีกครั้ง “ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องโทรมาถามเขาเรื่องความรักความรู้สึกอีก ต่อไปก็โทรไปหานักปรึกษาเนื่องความรักโน่น”
เขาได้รับความเสียใจ เธอเข้าใจได้ เธอก็ภาวนาให้เขา
แต่เรื่องระหว่างนาโน ก็เป็นอีกเรื่อง
ออกัสคลึงหน้าผาก คุณครูเชอร์รีนของเขายังฟังไม่รู้เรื่องดีเลยสักหน่อย ก็โยนออกไปราวกับลูกกระสุน
ดนัยไม่รู้ว่าครั้งนั้นที่นาโนไปส่งอาหารให้เขาวันนั้นเกิดอุบัติเหตุหนักขนาดไหน ตอนนี้ฟังดูแล้วคงจะหนักมาก
เมื่อกลางวันวันนั้นเขาเห็นรอยฟกช้ำบนหน้าผากเธอจริงๆ เดินก็ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง แต่ก็ไม่ได้จับตาดูมากนัก ท้ายสุดก็ทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค ว่าต่อไปไม่ต้องมาที่บริษัทแล้ว
ความหมดหวังของเขาครั้งนี้ ความผิดหวัง เหมือนกันกับความรู้สึกของเธอในตอนแรกใช่มั้ย?
หลับตาลง เขาขมวดคิ้ว และไม่คลี่ออก
เสียงฝีเท้าหนึ่งดังเข้ามา นาโนยืนอยู่ตรงประตู “ฉันกำลังจะออกจากโรงพยาบาล เพื่อเป็นมารยาท เลยมาบอกคุณสักหน่อย”
สายตาของดนัยจ้องมองที่เธอ เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยดีก็สบายใจ
พยักหน้า เหมือนกับว่าคิดอะไรได้บางอย่าง เขาจึงรีบพูดขึ้นมา “ผมกับบริษัทของคุณทำข้อตกลงกันไว้ ในขณะที่ผมอยู่ในโรงพยาบาลคุณห้ามใช้คนขับรถกับผู้ช่วยคนอื่น ไม่งั้นถือว่าผิดข้อตกลง!”
กลอกตาขึ้นไปด้านบน นาโนจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่พูดอะไร และก็ไม่ได้ตอบรับ แล้วจากไป
รู้สึกร้อนใจหน่อยๆ ดนัยไม่รู้ว่าคำที่ตัวเองพูดไปเมื่อกี้นี้เธอได้ฟังหรือเปล่า
อีกอย่างเธอผิดสัญญาแล้วยังไงเหรอ?
แค่จ่ายเงินค่าผิดข้อตกลงสองเท่าก็จบ เธอมีเงินในมือตั้งมากมาย สำหรับเธอแล้วเรื่องค่าผิดข้อตกลงไม่จำเป็นต้องไปพูดถึง
เมื่อกลับถึงโรงแรม ผู้จัดการเบื้องบนของบริษัทโทรเข้ามา ถาม “ต้องการผู้ช่วยมั้ยครับ?”
หลังจากคิดอยู่ นาโนก็พูด “ช่างเถอะ ไม่ต้องหรอก ทำตามสัญญาเดิมนั่นแหละ”
นีรดามาเยี่ยมดนัยที่โรงพยาบาล แล้วถามเขา “คิดว่ายังไงบ้าง?”
สำหรับเรื่องที่เธอพูดไว้เมื่อคืน ตกลงว่าใจคิดยังไงกัน?
“แม่ ผมยังคงตัดสินใจไปง้อเธอกลับมา นี่คือความคิดที่แท้จริงในใจผม และไม่เคยคิดอยากจะปิดบังแม่ด้วย ผมกำลังคิดถึง ตอนที่เธอรถคว่ำแล้วยังจะเอาอาหารกลางวันมาส่งที่บริษัทให้ผม แต่ผมกลับพูดอย่างเย็นชาเธอก็คงผิดหวังแบบนี้เหมือนกันใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยิน นีรดากลับไม่พูดอะไรต่อ
“ดังนั้น บางทีทางที่ผมกำลังเดินอยู่ตอนนี้ก็คงเป็นทางเดียวกันกับที่เธอเดินในเมื่อก่อน ตอนนี้ความรู้สึกที่ผมรับรู้ได้ก็คือความรู้สึกที่เธอได้รับในเมื่อก่อน ความรู้สึกบางอย่างจะต้องตกอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นเองถึงจะรู้ ตอนนี้ผมถึงรู้ว่าตัวเองในเมื่อก่อนเอาแต่ใจขนาดไหน”ดนัยพูดนิ่งๆ
ดนัยเปลี่ยนตัวเองจาก เมื่อก่อนพูดขี้นบลาๆ
เลิกคิ้ว นาโนพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค “ตั้งใจขับรถ”
“ครับ……”เขารีบจัดเก็บเสียงทั้งหมด ราวกับคนที่ถูกใช้งานอย่างโขกสับ
ผ่านไปไม่นาน ดนัยก็พูดขึ้นมาอีกเป็นน้ำท่วมทุ่ง “ถ้าหากว่าคุณไม่เชื่อนะ ผมเอาเกียรติบัตรมาให้คุณดูเลยก็ได้ ความผิดพลาดหนึ่งครั้งแสดงให้เห็นอะไรไม่ได้ เวลาทำอะไรจะทึกทักเอาเองไม่ได้”
“ฉันต้องการพักผ่อน ตอนนี้เงียบปากซะ ถ้าทำไม่ได้ งั้นก็ที่ออกจากตำแหน่งไป”
ดนัยจึงเงียบลงอีกครั้ง
สำหรับเรื่องที่นาโนไม่ได้ไปหาคนขับรถใหม่ ในใจของดนัยพอจะพูดได้ว่ามีความสุขราวกับดอกไม้บาน ไม่ต้องพูดถึงว่าเบิกบานใจขนาดไหน
มันชัดเจนมาก นี่คือความสำเร็จก้าวแรก
เขารู้สึกลึกๆ ถึงแม้ว่าความรู้สึกของนาโนที่มีต่อเขาจะสูญหายไป แต่หลังจากผ่านเรื่องนี้ไป อย่างน้อยต่อไปก็จะได้ไม่เย็นชากับเขาขนาดนี้
เขาคิดว่าอาจจะเพราะความรู้สึกผิดในใจที่มีต่อเขา แต่ถึงอย่างงั้น เขาก็พอใจแล้ว
ขอเพียงแค่อคติที่มีต่อเขามันอ่อนลงมาบ้าง เขาก็พอใจ
วันนี้ทำงานในออฟฟิศ ไม่ต้องออกไปข้างนอก เครื่องทำความร้อนก็พอดี ทำให้ทุกคนสามารถรู้สึกถึงความอบอุ่นได้ทั่วร่างกาย
นาโนมีแบบที่ยังดูไม่เสร็จ ทั้งยัง ช่วงนี้งานที่ออกแบบไปไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ดังนั้นจึงใช้เวลามากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง