คิมหันต์งั้นเหรอ?
เขาคุยกับเรารึเปล่า?
เมื่อมีแต่ความเงียบ ชายคนนั้นจึงก้มลงถามด้วยความเคารพอีกครั้ง “คุณคิมหันต์ครับ มาหาคุณอติรุจใช่ไหมครับ? ท่านเพิ่งออกไปเองครับ”
คุณอติรุจ...
ฟังดูเป็นคนสำคัญแฮะ
สมองในหัวของวายุรีบประมวลผล
ก็ในเมื่อไม่รู้ว่าจะไปหาแม่ได้ที่ไหน บางทีเราน่าจะ...
วายุกระแอมในลำคอ พยายามแสดงท่าทีสง่างามของผู้นำ
“คุณอติรุจให้ผมมา!”
คุณอติรุจ?
อืม...เป็นการเรียกพ่อตัวเองที่เป็นทางการดีจริง วางตัวสง่างามเช่นเคย นี่คงเป็นคุณลักษณะจำเพาะของเจ้าชายน้อยแห่งตระกูลสหพาณิชย์ซินะ
ชายคนนั้นยังคงระมัดระวัง “คุณอติรุจ พ่อของคุณน่ะหรือครับ” เขาถามย้ำ “สั่งให้คุณมาที่นี่”
วายุแอบดีใจแต่ไม่ได้แสดงออกมาให้เห็น เขาเพียงแค่พยักหน้าในขณะที่พยายามปรับตัวเข้ากับสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
“เอ่อ ใช่ พ่อของฉันส่งฉันมาหาผู้หญิงคนหนึ่ง”
ดวงตาของชายผู้นั้นเบิกกว้างด้วยความตระหนก "ผู้หญิง? คนที่ท่านสั่งห้ามออกจากห้องเด็ดขาดนั่นน่ะเหรอครับ”
ทันทีที่วายุได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาก็เข้มขึ้นทันที
มิน่า แม่ถึงหายมานานขนาดนี้ ไอ้แก่อติรุจอะไรนั่นจับตัวแม่มานี่เอง!
มือเล็ก ๆ ของเขากำหมัดแน่นข้างลำตัว "ใช่ คนนั้นแหละ พาฉันไปหาเธอหน่อย”
"ได้ครับ ตามผมมาครับคุณคิมหันต์”
ไม่นานหลังจากนั้น ชายคนนั้นก็พาวายุไปที่ประตูห้องที่นิสราถูกขังไว้ เขาโบกมือสั่งบอดี้การ์ดที่เฝ้าประตู “เปิดประตู!”
บอดี้การ์ดด้านหน้าประตูหลายคนมองหน้ากันอย่างลังเล
“คุณคิมหันต์ครับ แต่นายสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปไหนนะ”
“แต่พ่อสั่งให้ฉันมาพาเธอออกไป! พวกนายกล้าขัดคำสั่งพ่อฉันงั้นเหรอ?”
"ดี..."
เหล่าบอดี้การ์ดติดอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม้ว่าจะแปลกใจอยู่ไม่น้อย
ทำไมคุณอติรุจถึงยอมให้ลูกชายมาคนเดียวและพาผู้หญิงคนนั้นไป?
ส่วนนายน้อย ‘คิมหันต์’ นั้น แทบไม่ต้องหวังว่าเขาจะพูดอะไร แม้ในวันที่อารมณ์ดีที่สุด เขาก็อาจจะพูดเพียงสิบคำเท่านั้น แต่วันนี้เขากลับแปลกไปจากที่เขาเคยเป็นเสมอมา!
เพื่อความสบายใจของทุกคน หนึ่งในบอดี้การ์ดจึงเสนอว่า “เอางี้ไหมดีไหมครับ ผมว่าเราโทรหาคุณอติรุจก่อน เผื่อว่าท่านจะสั่งให้ใครดูแลคุ้มกันคุณคิมหันต์ระหว่างที่พาผู้หญิงคนนี้ออกไป”
วายุตื่นตระหนกทันทีเมื่อได้ยินข้อเสนอนี้
ถ้าพวกเขาโทรไปหาเจ้านาย ฉันก็จะถูกเปิดเผย แล้วจะช่วยชีวิตแม่ได้ยังไงเล่า
“พ่อต้องการพบเธอโดยด่วน ถ้าชักช้า ฉันจะบอกพ่อว่าพวกนายไม่เชื่อฟังคำสั่งของท่าน และจงใจสร้างความยุ่งยากให้ฉัน ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูพ่อ พวกนายทุกคนจะต้องเดือดร้อนแน่!”
จะทำให้เรื่องยุ่งยากกันถึงไหนเนี่ย?
เอาไงดี...
วายุมาที่นี่เพื่อ... ช่วยฉันงั้นเหรอ?
ส่วนอติรุจ เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างด้วยท่าทางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
คิมหันต์ต้องการแม่...
ผู้หญิงคนนั้น! คิดว่าตัวเองเป็นใคร
มีสิทธิ์อะไรมาทำกับคิมหันต์แบบนี้!
อติรุจกำหมัดแน่นขณะที่ความชั่วร้ายวาบผ่านดวงตาของเขา เขารีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมก่อนจะเดินออกไป
“จะไปไหนครับคุณอติรุจ”
ฉันจะไปไหนเหรอ
ก็ไปถามผู้หญิงคนนั้นว่าเธอใช้ชีวิตอย่างไม่รู้ร้อยรู้หนาวอยู่ได้ยังไง!
ฉันจะทำให้เธอต้องชดใช้ทุกสิ่งที่เธอทำ!
อติรุจไม่ตอบ เขาเพียงแต่เดินขึ้นรถโรลส์รอยด์ที่ตอนนี้มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่เดอะแพชชั่น
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของอติรุจก็ดังขึ้น เขารีบรับสาย
หลังจากรับโทรศัพท์ คิ้วของเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกลับรถอย่างกะทันหัน มุ่งหน้าไปยังบริษัทแทน
เกิดวิกฤตอย่างเร่งด่วนที่บริษัท และเขาต้องเรียกประชุมฉุกเฉินซึ่งกินเวลาสามชั่วโมง
หลังการประชุม อติรุจกลับมาที่ห้องทำงานอย่างเหนื่อยอ่อน เขานั่งลงและเอนหลังพิงเก้าอี้ ร่างกายของเขาเหนื่อยล้าขณะที่เขานวดช่องว่างระหว่างคิ้วของตัวเอง
เมื่อเขานึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่ยังถูกขังอยู่ในห้องแล้วยกหูโทรศัพท์ทันที “ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
"ผู้หญิง? คุณอติรุจให้คุณคิมหันต์มาพาตัวเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณแมงดากลายเป็นซีอีโอไปแล้ว!