คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 82

บรรยากาศอึดอัดขึ้นมาชั่วขณะ โชคดีที่พนักงานเริ่มเข้ามาเสิร์ฟอาหารทำลายบรรยากาศพอดี

หลังจากเสิร์ฟอาหารครบ และรินไวน์เสร็จ ทางพนักงานถึงได้เดินออกไป

ณิกาขี้เกียจสนใจพวกเขา จึงหยิบไวน์แดงขึ้นมาดื่มกรึ๊บใหญ่ จากนั้นก็หยิบตะเกียบขึ้นมาเตรียมคีบอาหาร แต่กลับเห็นเหนือเมฆคีบขาหมูมาวางในชามของเธอ "เธอผอมเกินไปแล้ว ต้องขุนด้วยการกินเนื้อเยอะๆ "

อบอุ่นใส่ใจ ละเอียดอ่อน ตรงตามแบบฉบับของผู้ชายใจดีเป็นที่สุด

"ขอบคุณ"

มณิกาไม่ได้เล่นตัวอะไรมากมาย กินขาหมูที่เหนือเมฆคีบให้ในทันที

เนื้อตุ๋นสีแดงสดนุ่มถูกขบเคี้ยว และละลายในปาก เนื้อนุ่มชุ่มซอส รสชาติเข้มข้น อร่อยเลิศรสเป็นอย่างมาก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันอร่อยมากจริงๆ เสียตรงที่ราคาแพงไปหน่อย

เธออารมณ์ดีขึ้นมาภายในชั่วพริบตา "เหนือเมฆ ขาหมูน้ำแดงอร่อยมากๆ นายลองชิมดูสิ"

มณิกาแค่อยากให้เหนือเมฆได้ชิมอะไรอร่อยๆ เหมือนกัน ดังนั้นจึงนำตะเกียบของตัวเองมาคีบขาหมูชิ้นใหญ่ให้เหนือเมฆ "ลองชิมดู"

พูดจบ เธอก็มองมาที่เหนือเมฆด้วยใบหน้าคาดหวัง รอฟังคำวิจารณ์ของเขา

ทั้งๆ ที่มันก็แค่ท่าทีของเพื่อนที่เจอของอร่อยเลยอยากให้เพื่อนได้ชิมด้วยกัน แต่การกระทำของอีกฝ่าย กลับทำให้เหนือเมฆชะงัก ทว่าหลังจากนั้นใบหน้าก็เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา "ได้ ฉันจะลองชิมดู"

เขาตีความหมายการกระทำของมณิกาเกินความจริงไปมาก จนเข้าใจผิดคิดไปเองว่าเธอชอบเขา

ภาพเบื้องหน้าตกอยู่ในสายตาของวายุทั้งหมด นัยน์ตาคมปลาบของชายหนุ่มฉายแววเย็นยะเยือก นิ้วมือเรียวยาวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด

เหนือเมฆเคี้ยวขาหมู ลิ้มลองรสชาติอย่างพินิจ จากนั้นก็พยักหน้า "อืม รสชาติไม่เลวจริงๆ ด้วย อร่อยมาก เธอกินเยอะๆ สิ"

เขาเตรียมคีบอาหารให้มณิกาอีกหน แต่มณิกากลับเอ่ยขึ้นมาก่อนว่า "เดี๋ยวฉันคีบเอง"

เธอใช้ตะเกียบคีบขาหมูอีกจนพูนชาม

สำหรับเรื่องอาหารการกินแล้ว เนื้อรสชาติแบบนี้เป็นอะไรที่ถูกปากสุดๆ

เมื่อธิกานต์เห็นพวกเขาต่างก็บอกว่ารสชาติดี เธอจึงคีบให้วายุ "พี่วายุ ลองชิมดูสิคะ"

ไม่มีใครคาดคิดว่าวินาทีต่อมา วายุจะคีบเนื้อจากชามมาวางไว้จานรอง "ไขมันสูง เลี่ยน"

พูดจบ เขาก็คีบผักขึ้นมากิน

วายุไม่ใช่พวกกินมังสวิรัติ แต่ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้พอเห็นขาหมูแดง เขากลับกินไม่ลง!

การกระทำนี้ทำให้ธิกานต์เริ่มอึดอัด เธอเม้มริมฝีปาก ก้มหน้าเคี้ยวข้าวช้าๆ

แม้ว่าเมื่อครู่วายุจะหักหน้าเธอ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทำสำเร็จ

เหตุผลที่มากินข้าวกับเหนือเมฆและมณิกา ก็เพื่อให้ "ความรัก"ฉันท์ "คู่รัก" ของพวกเขาทั้งสองคนทำให้วายุรู้ว่ามณิกามี "คนของใจ"แล้ว

"คุณไม่กินเหรอ? งั้นดีเลย"

มณิกาลุกขึ้นหยิบขาหมูมาวางไว้ตรงหน้าเหนือเมฆ "เหนือเมฆ พวกเขาไม่กิน เรามากินกันเถอะ"

ตอนที่เธอหยิบขึ้นมาเมื่อสักครู่ ใครๆ ต่างก็เห็นว่านัยน์ตาคู่คมของวายุตวัดมองฉับ "ถึงผมจะไม่กิน แต่กานต์กิน"

เขาใช้ตะเกียบกดขอบจานขาหมูน้ำแดงเอาไว้ พร้อมกับมองตรงมายังมณิกา ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความข่มขู่

มณิกาเบ้ปากเล็กน้อย หันไปมองธิกานต์ จากนั้นก็รีบพูดขึ้นมาว่า "ธิกานต์เป็นคุณหนู ของมันๆ เลี่ยนๆ แบบนี้กินไปก็มีแต่จะอ้วนและทำให้ดูไม่ดีเปล่าๆ เธอไม่ต้องกินนั่นแหละดีแล้ว"

ให้คนชั้นต่ำพรรค์นี้กิน อาหารคงได้บูดกันพอดี

นี่เป็นสาเหตุที่มณิกาไม่เต็มใจให้พวกเขาร่วมโต๊ะด้วย แต่ก็เพราะว่าอาหารมื้อนี้มันแพงมากจริงๆ ถ้าให้พวกเขากินด้วย เธอก็ไม่ต้องออกเงิน

เพื่อเป็นการประหยัด เธอจึงทำได้เพียงข่มความโกรธและรังเกียจเอาไว้ในใจ ยอมให้พวกเขานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะ

"ณิกา ฉัน....ฉันกินได้"

ธิกานต์เอ่ยพูดอ่อนโยนและเอียงอาย เสียงหวานชวนฟังดั่งกระดิ่ง

เมื่อเห็นเธอเสแสร้ง มณิกาก็แทบอยากจะสำรอกอาหารค่ำออกมาทั้งหมด

"กินไปเลยนะคะ ฉันก็ว่าจะไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน"

เธอดื่มไวน์หลายแก้ว ทั้งยังกินอาหารเข้าไปเยอะ ตอนนี้จึงทนไม่ไหวอีกต่อไป

หลังจากที่ทั้งสองเดินออกไป วายุก็หยิบขาแก้วทรงสูงขึ้นมาชิมด้วยท่วงท่าสบายๆ เอ่ยพูดเสียงบางเบาว่า "ต่อไปนี้ อยู่ให้ห่างจากเธอหน่อยก็ดี"

แน่นอนว่าเขากำลังพูดให้เหนือเมฆฟัง

"คำนี้ ควรที่จะบอกตัวนายเองมากกว่า" เหนือเมฆหันมาจ้องวายุอย่างเยือกเย็น "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องโสมมที่นายเคยทำในอดีตนะ!"

"รู้แล้วยังไง ไม่รู้แล้วยังไง" เขายิ้มเยาะออกมา สายตาที่มองมาที่เหนือเมฆเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

เขาหัวเราะเยาะแผ่วเบา นิ้วมือยาวราวหยกของเขากอบกุมขาแก้วทรงสูง แล้วยกขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว ด้วยท่วงท่าสง่าสงามเจือความสูงส่ง ทุกการขยับตัวแทบจะสามารถถ่ายเก็บเอาไว้เป็นวอลเปเปอร์ หล่อจนมนุษย์โลกหรือแม้แต่เทพเซียนพากันอิจฉา

เหนือเมฆกำมือแน่น "วายุ ถ้านายกล้าแตะต้องเธอล่ะก็ ฉันกับนายอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แน่"

"อ่อ งั้นเหรอ"

เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรมากมาย

ขณะเดียวกัน อีกฟากทางห้องน้ำ

ในตอนที่มณิกาทำธุระเสร็จและกำลังเดินออกมา ก็ได้ยินเสียงอาเจียนมาจากห้องน้ำอีกห้อง"อ้วก....อ้วก...."

มันคือเสียงอ้วกของธิกานต์

มณิกาเอนพิงข้างๆ ยืนรออยู่สักพักด้วยความใจเย็น ไม่นานก็เห็นธิกานต์พรวดพราดออกมาจากห้องน้ำ

"จิ๊ๆๆ กินแล้วก็อ้วกออกมา สิ้นเปลืองจริงๆ "

เมื่อเธอเห็นดวงตาทั้งสองข้างของธิกานต์แดงก่ำเพราะอาเจียน ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ความรู้สึกเย้ยหยันเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า

ธิกานต์โกรธจนต้องกำหมัดแน่น เพราะว่าไม่มีวายุ เธอจึงไม่จำเป็นต้องแสดง "มณิกา แกอย่าได้ใจไปหน่อยเลย"

"กลับไปบอกทัพทองกับวิมลด้วยนะ ตราบใดที่มณิกาคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้พวกเธอมีความสุขแน่นอน!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า