“ยัยบ้านั่นไม่ได้คิดว่าเราเป็นเพื่อนของเธอเลยสินะ! เธอไม่บอกพวกเราสักนิดทั้ง ๆ ที่มันเป็นเรื่องสำคัญขนาดนี้” ดังเช่น ทัง โรลชูว และ หยิง เสี่ยวเซียว จึงโกรธมากที่ ซอง อันยี ปิดบังเรื่องสำคัญเช่นนี้จากพวเขา เธอรู้สึกทั้งโกรธและผิดหวังในเวลาเดียวกัน
ทัง โรลชูว ปลอบเพื่อนด้วยรอยยิ้ม “เธอคงจะไม่อยากให้เราต้องกังวลน่ะ เธอก็เลยเลือกที่จะไม่บอกเรา”
หยิง เสี่ยวเซียว พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “ก็คงจะอย่างนั้นแหละ เธอน่ะเป็นผู้หญิงที่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่นที่สุดเลยแหละ! แต่ฉันก็ไม่รู้สึกยินดีหรอกนะ”
ทัง โรลชูว ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปทาง ซอง อันยี รอยยิ้มเล็ก ๆ มุมปากของเธอจางหายไป ความกังวลฉายออกมาทางแววตาของเธอ
คดีทุจริตของตระกูลหยาง สร้างความเสียหายให้ผู้คนมากมาย การตรวจสอบที่ละเอียดถี่ถ้วนจะทำให้สามารถตามตัวคนผิดได้ถูกคน เพื่อปิดบังความจริง หยาง เฉียนเฉียน และ ฮัน ยีเฉิน จึงได้ผลักคุณซอง และคุณนายซอง ออกมาเป็นแพะรับบาปแทนพวกเขา
ตระกูลหยางและตระกูลซอง เปรียบเสมือนก้อนหินและไข่ ไม่มีทางเลยที่จะสามารถโต้กลับได้
ครั้งก่อน อันยีนำยูเอสบีมาเพื่อที่จะใช้เป็นเครื่องมือข่มขู่ หยาง เฉียนเฉียน เธอบอกไปว่าในนั้นมีหลักฐานสำคัญอยู่ แต่ต่อมาพวกเขาก็เข้ามาถามและพบว่ามันเป็นเพียงเรื่องที่เธอกุขึ้น
ลุงฟ่างพูดว่าเขาอยากจะช่วยอันยี แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วย
ถึงแม้ว่าตระกูลหยาง จะไม่ได้มีอำนาจมากเหมือนอย่างตระกูลใหญ่เช่น ตระกูลลู และตระกูลเซิน แต่ก็อย่าได้ประมาทอิทธิพลของพวกเขาเลยเชียว
ดังนั้นเหมือนอย่างที่ หยาง เฉียนเฉียน เคยพูดไว้ เธอสามารถทำลายตระกูลซองได้ในพริบตาเดียว
น่าเสียดายที่ครั้งนี้มันจะไม่ง่ายอย่างนั้นอีกแล้ว
การพิจารณาคดีเริ่มต้นขึ้นอยู่ตรงเวลา
คุณซองและคุณนายซอง ถูกเรียกขึ้นมายังแท่นยืน ทัง โรลชูว ไม่ได้พบพวดเขามาเป็นเวลานานแล้ว
เมื่อเห็นพวกเขา ดวงตาของเธอก็แดงขึ้นมาในทันที
นั่นใช่คุณลุงและคุณป้าที่เคยเอ็นดูพวกเขาอย่างที่สุดงั้นเหรอ?
ในความทรงจำของเธอ ลุงซองจะรูปร่างอวบเล็กน้อย และใบหน้ากลมของเขาก็มักจะเปี่ยมไปด้วยความร่าเริงอยู่เสมอ เขาชอบที่จะหัวเราะเสียงดังและมักจะเรียกพวกเธอว่า “แก๊งค์สาวบ้าบิ่น”
ส่วนป้าซองนี้นเป็นคนรักสวยรักงาม เธอดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ทั้งผิวและการแต่งตัวที่ทันสมัย เธอมักจะพูดล้อเล่นอยู่เสมอว่า เธอนั้นดูเด็กกว่าแล้วก็สวยกว่าพวกหล่อน
ระหว่างการพิจารณาคดี ทนายของตระกูลหยางพูดจาด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวและข่มขู่ ทุกคำที่เขาพูดออกมาก็เพื่อที่จะผลักให้คุณซองและคุณนาย ทั้งคู่ให้ลงเหวไปให้ได้
ในทางกลับกัน อัยการจงของฝ่ายจำเลยกลับดูสงบเงียบกว่า เธอคอยเก็บตกคำพูดที่เป็นจุดบกพร่องจากทนายฝ่ายตรงข้าม และตั้งคำถามกับพวกเขาอย่างใจเย็น
อย่างไรก็ตาม ทุกคำถามที่เธอตั้งคำถามกลับไปก็ถูกปัดตกโดยอัยการของทนายความ ท้ายที่สุดอัยการจง ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งดูฝ่ายตรงข้ามพูดด้วยใบหน้าเย็นชา
เรื่องที่ไม่น่าพอใจที่สุดสำหรับข้อกล่าวหานี้ก็คือ พวกเขาไม่มีหลักฐานที่จะมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเรื่องที่ได้เปรียบอยู่บ้าง ทางโจทย์มีหลักฐานแค่บัญชีที่ผิดพลาดบางบัญชี และรายการเดินบัญชีส่วนตัวของคุณซอง ซึ่งหลักฐานนี้อ่อนเกินไปไม่มีน้ำหนักพอที่จะทำให้คุณซองและคุณนายซองถูกตัดสินลงโทษในทันที
ดังนั้นจึงสิ้นสุดอยู่ที่ทางผู้พิพากษาประกาศให้การพิจารณาคดีครั้งนี้หยุดเอาไว้ก่อนเพียงเท่านี้ และการพิจารณาคดีนี้จะมีขึ้นอีกครั้งในวันอื่น
ได้ยินดังนั้น ความกังวลของ ซอง อันยี ก็คลายลงทันที เธอทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้
โชคดีที่ทุกอย่างยังคงราบรื่นดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม