เธอเลิกผ้าห่มขึ้นและเดินลงจากเตียง ลู ชินจิน ได้ยินที่เสียงก็ตื่นขึ้นเช่นกัน เขาลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นเธอทำท่ากระวนกระวาย เขาขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”
“พ่อกับแม่ของอันยี ยอมรับสารภาพผิดแล้ว”
ทัง โรลชูว รีบเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว
รับสารภาพผิดงั้นเหรอ?!
ลู ชินจิน คิ้วขมวดมากกว่าเดิม สีหน้าเศร้าหมองของเขามีร่องรอยแห่งความกังวลอยู่
เขาไม่คาดคิดว่า หยาง เฉียนเฉียน จะลงมือเร็วขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินเธอต่ำเกินไป
ลู ชินจิน และ ทัง โรลชูว รีบไปที่บ้านตระกูลซองทันที
เซิน โมเฟย เป็นคนมาเปิดประตูให้พวกเขา
“อันยี อยู่ที่ไหน?” ทัง โรลชูว ถามขึ้นอย่างกระวนกระวาย
“เธออยู่ด้านใน”
ทัง โรลชูว หันไปมองเขาก่อนจะรีบรุดเข้าไปด้านใน
ซอง อันยี นั่งอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น สีหน้าของเธอไร้ความรู้สึก ดวงตาของเธอว่างเปล่าไร้ซึ่งจิตวิญญาณ เธอดูไม่สู้ดีนัก
เธอเดินเข้าไปหาเพื่อนก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ยื่นมือออกไปดึงเธอเข้ามากอด พูดขึ้นอย่างแผ่วเบา “อย่ากลัวไปเลยนะอันยี พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว”
เสียงพูดที่นุ่มนวลทำให้ ซอง อันยี ที่กำลังนิ่งเครียด ปล่อยโฮออกมาในทันที เธอร้องไห้ออกมาเสียงดัง
เมื่อได้ยินเธอร้องไห้ออกมา ทัง โรลชูว เจ็บจี๊ดในหัวใจ เธอรู้สึกว่ามีก้อนอะไรบางอย่างจุกขึ้นมาที่คอของเธอ และดวงตาก็ถูกปลุกคุมไปด้วยม่านน้ำตา
เธอกอด ซอง อันยี เอาไว้แน่นและปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ
ณ ตอนนี้ คำพูดปลอบโยนดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร
เธอปล่อยให้เพื่อนได้ร้องไห้ออกมาเต็มที่
“ช้าไปหนึ่งก้าวก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเรื่องแย่เสมอไปหรอกนะ มันทำให้เรารู้ว่าตระกูลหยางไม่มีหลักฐานที่แน่นหนาพอที่จะพิสูจน์ว่าพ่อแม่ของอันยี คือคนที่ทุจริต”
ลู ชินจิน เบิกตาขึ้นเล็กน้อย เผยร่องรอยเย็นชาออกมา “หาวิธีไปพบพ่อแม่ของ ซอง อันยี ไม่ว่าตระกูลหยางจะข่มขู่อะไรพวกเขา นายต้องให้คำสัญญากับพวกเขาว่าจะสามารถทำให้พวกเขาปลอดภัยได้ ทำให้พวกเขามั่นใจ”
“จากนั้นก็ให้อันยียื่นอุทธรณ์ เตรียมหลักฐานทุกอย่างให้พร้อม เพื่อที่จะได้ดึงตระกูลหยางให้ล้มลงมาในคราวเดียว” รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นที่ริมฝีปากของ ลู ชินจิน “อย่าได้เห็นใจศัตรูของเราเป็นอันขาด”
เขาหมายความว่า พวกเขาจะไม่มีวันปล่อยให้ตระกูลหยางหลุดรอดไปได้ และจะทำลายพวกเขาให้สิ้นซาก
แผนนี้เป็นอย่างที่ เซิน โมเฟย คิดไว้เช่นกัน
เซิน โมเฟย หมุนตัวกลับก่อนจะเอนตัวพิงที่ราวจับ เขาหันหน้าไปด้านข้างเพื่อมองหน้าลูกพี่ลูกน้องของเขา ก่อนจะยิ้มออกมา “พี่ใหญ่ พี่นี่เหี้ยมโหดที่สุดในบรรดาพวกเราเลยนะ”
ลู ชินจิน หัวเราะหึ ๆ ออกมา “ฉันคงจะตายไปนานแล้วถ้าฉันไม่เหี้ยมโหดพอ”
เซิน โมเฟย เลิกคิ้วขึ้นอย่างเห็นด้วย เขาพูดถูกถ้าเขาไม่โหดพอ เขาก็คงไม่สามารถยืนหยัดอยู่ในตระกูลลูที่แสนอันตรายนี้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม