ในขณะที่ข่าวบนทีวีกำลังพูดถึงเรื่องคดีทุจริตของตระกูลหยาง ทัง โรลชูว กำลังเริ่มเรียนรู้การจัดดอกไม้จากป้าวูอยู่
“การพิจารณาคดีโดยเปิดเผยมีขึ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นกรณีการทุจริตการบริหารจัดการระดับสูงของบริษัทตระกูลหยาง…”
ได้ยินเสียงดังมาจากโทรทัศน์ ทัง โรลชูว รีบวางกรรไกรในมือลง ก่อนจะเดินไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว เธอจ้องไปที่หน้าจอโทรทัศน์อย่างไม่วางตา
ลู ชินจิน เงยหน้ามองไปที่เธอ “คุณอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอวันนี้? ทำไมถึงยังจ้องข่าวนี้อย่างสนอกสนใจอยู่อีก?”
“ฉันได้ฟังช่วงการพิจารณาคดี” ทัง โรลชูว เดินไปนั่งลงที่ข้างเขา “แต่ไม่ได้อยู่ฟังตอนสัมภาษณ์”
บนหน้าจอทีวี หยาง เฉียนเฉียน กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจและราบเรียบ “ฉันมั่นใจว่ากฏหมายจะยุติธรรม และจะให้คำตัดสินที่น่าพึงพอใจแก่ตระกูลหยางของเราค่ะ”
“ไม่อยากจะเชื่อ!” มองไปที่ หยาง เฉียนเฉียน ด้วยความรังเกียจ ทัง โรลชูว รับไม่ได้อีกต่อไป “นี่พวกเขาเป็นคนที่น่าไม่อายที่สุดในโลกเลยหรือเปล่า? เธอทำให้ฉันมองโลกเปลี่ยนไปเลยจริง ๆ นะ!”
เมื่อเห็นว่าเธอเดือดดาล ลู ชินจิน ขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น “เธอเป็นคนหน้าเกลียด แน่นอนว่าเธอก็ต้องไร้ยางอายด้วย”
ทัง โรลชูว เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ “ลู ชินจิน คุณนี่กัดเจ็บไม่เบานะ แต่...ฉันก็ชอบ!”
ลู ชินจิน หยิกจมูกเธอเบา ๆ อย่างรักใคร ก่อนจะหันกลับไปมองโทรทัศน์อีกครั้ง จ้องไปที่ หยาง เฉียนเฉียน และ ฮัน ยีเฉิน ที่อยู่ในข่าว เขาเบิกตาขึ้นเล็กน้อย “ผลการตัดสินวันนี้คงจะเหนือความคาดหมายของพวกเขาทีเดียว ตราบใดที่พ่อแม่ของอันยี ยังไม่ใช่คนทุจริต คนที่เป็นคนร้ายตัวจริงก็คงจะรู้สึกโกรธกระวายใจเป็นแน่ พวกเขาก็คงจะสร้างเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาอีกแน่นอน”
ทัง โรลชูว พยักหน้า “อัยการจงบอกกับพวกเราอย่างนี้เหมือนกัน เขาอยากให้พวกเรารีบหาหลักฐานเพื่อไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณลุงและคุณป้าซอง”
“แล้วเพื่อนของพ่ออันยี คนนั้นล่ะ?”
“เขาไม่อยากจะพบพวกเราค่ะ”
“ทำไมล่ะ?” ลู ชินจิน ขมวดคิ้ว
ทัง โรลชูว ส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อันยีบอกฉันว่าเขาพูดว่าอยากจะช่วยเมื่อครั้งที่เธอพบกับเขาคราวก่อน แต่หลังจากนั้น พออันยีติดต่อเขากลับไป เขาก็ไม่รับสายบ้างหรือไม่ก็บอกว่าไม่สะดวก ดังนั้น…”
เธอหยักไหล่ “คุณก็รู้”
“เขาถูกข่มขู่งั้นเหรอ?” ลู ชินจิน ถาม
“คงจะแบบนั้นแหละค่ะ ก็นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนอย่าง หยาง เฉียนเฉียน จะทำอย่างนั้นเหรอ?”
สีหน้าของเขาเย็นชา เมื่อเขานิ่งขบคิดไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์จากโต๊ะขึ้นมาและโทรออก
เมื่อปลายสายรับ ริมฝีปากบางของเขาก็เปิดขึ้นเล็กน้อย “โมเฟย…”
เช้าตรู่วันถัดมา ทัง โรลชูว ได้รับโทรศัพท์จาก ซอง อันยี ขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่
“ชูวชูว พ่อแม่ของฉันยอมรับผิด”
คำพูดจากปลายสายทำให้ ทัง โรลชูว ตกใจตื่นขึ้นในทันที
เธอกระโดดออกจากเตียง “อันยี เธอพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้งซิ!”
“พ่อแม่ของฉันยอมสารภาพผิดในคุกเมื่อคืนนี้”
“มันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ยังไง?” ทัง โรลชูว ดึงผมของเธออย่างหงุดหงิด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า อันยีต้องอยู่เพียงลำพังหลังจากเรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้น เธอไม่ได้ถามคำถามอะไรอีกต่อไป พูดขึ้นอย่างเร่งรีบ “รอฉันก่อนนะ ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้” แล้วเธอก็วางสายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม