“ได้ค่ะ ฉันจะโทรหาคุณเมื่อฉันทานเสร็จ คุณมารับฉันที่นี่ได้หลังจากนั้น”
หลังจากพูดคุยอีกสักพักเธอวางโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปด้านใน
หลี่ น่า มองเธอที่นั่งลงฝั่งตรงข้าม มุมปากของเธอม้วนขึ้นเป็นรอยยิ้ม “คุยโทรศัพท์กับแฟนงั้นเหรอ?”
“เปล่าหรอกค่ะ สามีฉันน่ะ”
ทัง โรลชูว ยกเหยือกน้ำขึ้นก่อน ที่จะรินใส่แก้วของ หลี่ น่า และของเธอเอง เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าคำพูดที่เรียบง่ายของเธอทำให้ลีน่าตกใจ
เธอแต่งงานแล้ว?
หลี่ น่า จ้องไปที่เธอ คิ้วขมวดปม เธอถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่เธอแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
ทัง โรลชูว พยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันแต่งงานมาได้สักพักแล้ว”
เธอไม่ได้พยายามจะปกปิดความจริงที่ว่าเธอแต่งงานแล้ว เธอแค่ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ คนที่ต้องรู้ก็ต้องรู้เองในที่สุด
ก่อนที่ หลี่ น่า จะถาม เธอจึงยอมรับความจริงอย่างตรงไปตรงมา
แต่...หลี่ น่า กลับดูตกใจมาก!
เธอจึงยิ้มมาถามขึ้น “ผู้จัดการหลี่ คุณคิดว่าเรื่องนี้มันดูไม่น่าเชื่ออย่างนั้นเหรอคะ?”
“ใช่สิ ฉันคิดมาตลอดว่าเธอกับผู้บริหารเซินเป็นแฟนกัน เมื่อพูดคำนั้นหลุดออกจากปากไป เธอก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นผิด เธอรีบอธิบาย “ข่าวลือมันแพร่ไปทั่วบริษัท ฉันก็เลยคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง”
อันที่จริง นับตั้งแต่ผู้บริหารเซินเข้ามาทำงานที่บริษัท เหล่าพนักงานแสนรู้ก็สัมผัสได้ว่าเขาคอยช่วยเหลือ ทัง โรลชูว อยู่ตลอด ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วละก็ ใครกันจะมาคอยช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้
และเมื่อสักครู่นี่เอง เธอก็เพิ่งจะเห็น เซิน โมเฟย จอดรถเพื่อที่จะเสนอตัวไปส่งเสี่ยวทังที่บ้าน
ทัง โรลชูว ยิ้มอย่างเฉยชา “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็ได้ยินข่าวลือนั้นมาเหมือนกัน”
ถึงแม้ว่า ลู เสี่ยวหลิน จะถูกให้ออกจากบริษัทไปแล้ว แต่คนที่ชอบซุบซิบนินทาเหมือนอย่างเธอก็ยังคงทำงานอยู่ในแผนกสื่อมวลชน พวกเขาคงเป็นคนปล่อยข่าวลืออย่างแน่นอน
หลังจากที่ได้ยินเรื่องพวกนี้เรื่อย ๆ เธอก็มีภูมิต้านทานต่อพวกมันแล้ว!
มีข่าวลือของ ทัง โรลชูว กับโมเฟยในบริษัท แล้วก็ยังมีข่าวลือของเธอกับ ลู เซียวเหยา อีกด้วย
“ก็เป็นเหมือนกันกับเขาเลยค่ะ” ทัง โรลชูว จิบชาก่อนจะพูดขึ้นอย่างเสียไม่ได้ “เมื่อข่าวลือได้ถูกแพร่สะพัดออกไปครั้งนึง มันก็จะยิ่งไร้สาระมากขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น”
ตัวอย่างเช่น ใครบางคนกล่าวหาว่าเธอเป็นคนรักของทั้ง โมเฟยและเซียวเหยา
อยากจะรู้จริง ๆ ว่าใครกันที่เป็นคนปล่อยข่าวลือที่ไม่มีมูล แทบยังเกินจริงขนาดนี้ ทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่
พวกคนที่ชอบนินทาเรื่องคนอื่นในทางไม่ดีมันน่ารำคาญที่สุด!!
“เรามีคนไม่เอาไหนอยู่เยอะแยะในบริษัท นั่นมันก็หมายความว่าจะมีพวกขี้นินทาเยอะแยะด้วยเช่นกัน” หลี่ น่า ทำปากยื่น “อย่างไรก็ตามผู้บริสุทธิ์ก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้ตัวอะไร“
“ใช่ที่สุดค่ะ! การที่เราไปโต้เถียงกับคนงี่เง่าพวกนั้น ก็รั้งแต่จะทำให้เราดูโง่ไปเอง”
ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง ตอนนั้นเองพนักงานเสิร์ฟก็เดินเข้ามาพร้อมกับจานในมือ พวกเขาจึงหยุดการพูดคุยลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม