เซิน โมเฟยช่วยซอง อันยี ออกจากโรงพยาบาล และรอบยิ้มที่แสนรื่นเริงแผ่ไปทั่วใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาภายใต้แสงอาทิตย์
ก่อนหน้านี้ หมอได้บอกพวกเขาตัวชี้วัดทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเด็กนั้นปกติดี แต่ระยะแรกของการตั้งครรภ์ยังคงต้องการการดูแลเอาใจใส่
เมื่อเขาได้ยินแบบนั้นเซิน โมเฟย รู้ว่าความรื่นเริงของการเป็นพอคงจะถูกแทนที่ด้วยความกังวล
เขาคิดถึงการให้การดูแลอันยีอย่างดีที่สุดและป้องกันเธอจากความหักโหม ดังนั้นเขาอยากจะพาเธอไปและไม่ปล่อยให้เธอเดิน
อย่างไรก็ตาม อันยีปฏิเสธออกไปด้วยความเขินอาย เธอบอกเขาไม่ให้กังวลเกินไป และการเดินนั่นไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ กับเด็ก
เซิน โมเฟยรู้ว่าเขากำลังทำตัวปกป้องมากเกินไป แต่เขาก็ยังคงยืนกรานที่จะช่วยอันยีโดยการพาเธอออกจากโรงพยาบาลอย่างระมัดระวัง
ซอง อันยีรู้สึกช่วยไม่ได้ และเธอคงพอจินตนาการถึงความกังวลที่แสนเวอร์วังไปอีกหลายเดือนข้างหน้าของเขาได้
ช่วงเวลาที่พวกเขาขึ้นรถ เซิน โมเฟยช่วยเธอรัดเข็มขัดก่อนที่เขาจะจูบริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยนและพูดว่า “อันยี กลับบ้านและเอาทะเบียนบ้านของเรากันเถอะ ไปจดทะเบียนสมรสกัน”
ซอง อันยีถอยไปครู่หนึ่ง “เราไม่รีบไปหน่อยเหรอ?”
“เรารีบงั้นเหรอ?” เซิน โมเฟยยกคิ้วขึ้น ขณะที่เขามองลงไปที่หน้าท้องที่ยังแบนราบของเธอ “เรามีลูกแล้วนะตอนนี้ และผมคิดว่ามันนานเกินควรไปแล้ว”
“แต่…” ซอง อันยีรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังเคลื่อนไหวเร็วเกินไป
“คุณอยากให้ลูกของเราเกิดในตระกูลที่ผิดกฏหมายงั้นเหรอ?”
“ก็ได้” เธอปฏิเสธเหตุผลนั้นไม่ได้
เธอรู้ว่าแม้ว่าพวกเขาไม่ได้รับการจดทะเบียนสมรสกัน ด้วยความสามารถของเขาแล้ว ลูกยังคงได้รับการขึ้นทะเบียรภายใต้ทะเบียนบ้านของพวกเขา
แต่เธออยากจะแต่งงานด้วยเช่นกัน และนั่นคือข้อเท็จจริง
เซิน โมเฟยส่งเธอกลับไปที่บ้านของตระกูลซองก่อนที่เขาจะกลับไปที่คฤหาสน์เซิน เพื่อเอาทะเบียนบ้านของเขามา
เมื่อ เซิน โมเฟยกลับถึงบ้าน ปู่เฉินกำลังเล่นหมากรุกกับซู เหวินจิงในห้องนั่งเล่น หลังจากที่เขาเห็นโมเฟยถึงบ้าน ปู่เฉินเรียกให้เขาเข้าไป
เซิน โมเฟยกำลังมองไปที่ทะเบียนบ้านในมือของเขาด้วยรอยยิ้ม ช่วงเวลาที่เขาได้ยินเสียงของซู เหวินจิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้จางไปอย่างไม่รู้ตัว และเขาถามด้วยน้ำเสียงห่างเหินว่า “มีอะไรรึ?”
ซู เหวินจิงเดินเข้าไปหาเขาและเห็นทะเบียนบ้านในมือของเขาตั้งแต่แวบแรก ขณะที่ตาของเธอเป็นประกาย เธอแกล้งถามว่า “พี่สาม พี่กำลังทำอะไรกับทะเบียนบ้าน?”
“อันยีท้อง และะเราต้องจดทะเบียนสมรสก่อน” เซิน โมเฟยไม่ได้ปกปิดเรื่องนี้ตั้งแต่ความจริงได้ปรากฏขึ้นแล้ว การปล่อยให้เธอรู้หมายถึงปล่อยให้ปู่รู้ ดังนั้นเขาไม่ต้องมีเรื่องโต้แย้งประจันหน้ากับปู่เฉิน
ช่วงเวลาที่เธอเห็นทะเบียนบ้าน ซู เหวินจิงมีลางสังหรณ์อย่างหนึ่ง และตอนนี้ลางสังหรณ์นั้นได้กลายเป็นจริง
เธอกำหมัดแน่นและฝืนยิ้มออกมา “ปู่รู้เรื่องไหม?”
“ปู่จะรู้แน่” เซิน โมเฟยมองไปที่เธออย่างลึกซึ้ง
เธอเข้าใจในทันที “พี่อยากให้ฉันบอกปู่งั้นรึ?”
เซิน โมเฟยยิ้ม “ไม่ใช่ว่าเธอพูดว่าเธออยากจะยกเลิกงานแต่ง แต่ปู่ยืนกรานที่จะต่อต้านเรื่องนี้หรอกรึ? ฉันคิดว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่รักสายฟ้าแลบ: เจ้าสาว ของ คุณ พอจะเป็น ฉันได้ไหม