ผู้เป็นแม่อย่างเฮเธอร์ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งที่ลูกชายของตนมาแต่งงานกับผู้หญิงอย่างฮันน่า เธอคิดว่าหญิงสาวไม่คู่ควรกับลูกชายที่สุดแสนจะเพรียบพร้อมของเธอซึ่งมาจากตระกูลผู้ดี จริงๆ แล้วเธอไม่ใช่คนใจร้ายอะไร แค่หัวโบราณเสียมากกว่า เธอจึงยึดติดกับความคิดที่ว่าคนที่จะเป็นสามีภรรยากันควรมาจากชนชั้นเดียวกันเท่านั้น แต่คนที่แต่งงานกับลูกชายของเธอกลับเป็นเพียงแค่นักข่าวที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า
ฮันน่าก็รู้เรื่องนี้ดีเช่นกัน เธอรู้ว่าฐานะของเธอช่างแตกต่างจากชายหนุ่ม แต่หญิงสาวเองก็ถูกบังคับให้แต่งงานเช่นกัน นั่นทำให้หญิงสาวอดเหนื่อยใจไม่ได้กับฉากละครของพวกคนรวย
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ แม่นั่งก่อนสิครับ” คนเป็นลูกพูดขณะที่ฝืนยิ้ม เขาทำได้แค่เพียงเก็บความไม่พอใจของเขาไว้ในใจ จะทำอย่างไรได้ล่ะ? คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าใช่นักธุรกิจหรือนักการเมืองกันซะที่ไหน นั่นคือแม่ของเขา!
ผู้เป็นแม่เดินไปนั่งลงบนโซฟา สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความไม่อยากผูกมิตรและความไม่ชอบใจอีกคน
ฮันน่าเองในตอนนี้ก็ดูไม่สู้ดีนัก หญิงสาวรู้ดีว่าแม่ของเขาไม่ชอบเธอเท่าไหร่ และเธอก็ไม่ใช่คนที่ชอบประจบประแจงเสียด้วย สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือเธอต้องเจียมตัว
ฟาเบียนสะกิดเธอพร้อมส่งสัญญาณให้ทางสายตา
เห็นดังนั้น เธอจึงหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เธอจะพูดอย่างนอบน้อมและอ่อนหวานว่า “คุณแม่ นี่เอง”
หญิงวัยกลางคนกลอกตาไปที่ฮันน่า เฮเธอร์ไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้นัก แต่มารยาททางสังคมบีบบังคับให้เธอต้องเป็นคนสุภาพ เธอจึงตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ “อืม”
หลังจากทักทายแม่สามี ภรรยาอย่างเธอไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อ สถานการณ์ตอนนี้จึงดูกระอักกระอ่วนไม่น้อย เห็นดังนั้น ฟาเบียนจึงพยายามทำให้ทั้งผู้เป็นแม่และภรรยารู้สึกอึดอัดน้อยลง
“แม่ครับ นี่ฮันน่าครับ ที่ผมเคยบอกแม่ไปก่อนหน้า ผมต้องขอโทษด้วย ช่วงนี้ผมยุ่งๆ เรื่องงาน เลยไม่ได้ไปเยี่ยมแม่เลย”
ฟาเบียนกำลังแต่งเรื่องขึ้นเพราะไม่อยากให้หญิงสาวรู้สึกกระอักกระอ่วนใจมากนัก
ได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มร่าย ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะตลกกับท่าทีของฟาเบียนที่ยอมอ่อนข้อลงให้แม่ของตน… ฮ่าฮ่า ใครจะไปคิดว่าคุณชายอย่างเขาจะมีด้านที่แอบน่ารักแบบนี้? เขาสามารถจัดการกับปัญหาที่บริษัทและเอาชนะคู่แข่งได้มากมาย แต่ในตอนนี้ เขาได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่คอยปลอบประโลมเจ้านายเมื่อมีเหตุต้องเผชิญกับหญิงวัยกลางคน
ฟาเบียนส่งสัญญาณให้หญิงสาวอีกครั้งเพื่อให้เธอเอาชาไปให้แม่ของเขา แต่ฮันน่ากลับยืนเฉยอยู่เช่นเดิม มีเพียงรอยยิ้มเหม่อลอยที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหญิงสาว และนั่นก็ทำให้ฟาเบียนหงุดหงิด เอาจริงงั้นหรือ เธอมันโง่จริงๆ ควรเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวเองด่วน สถานการณ์สำคัญแบบนี้ยังเหม่อได้อีก
ทันใดนั้นหญิงสาวก็รู้สึกเจ็บบริเวณเท้า จึงเลื่อนสายตาลงไปมองตามสัญชาตญาณเพราะเธอรู้สึกราวกับว่ามีตะกั่วหนักๆ กำลังทับเท้าของเธออยู่ ไม่ว่าจะพยายามยกอย่างไร เธอก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆ ได้เลย
ไม่นาน ฮันน่าก็รู้ว่าฟาเบียนเหยียบเท้าเธออยู่ เธอจึงหันไปหาชายหนุ่มอย่างหวาดหวั่น เมื่อสายตาทั้งสองคู่ปะทะกัน ในตอนนี้หญิงสาวรับรู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มกำลังเดือดดาล สายตาของเขาที่จ้องมองเธอราวกับจะฆ่าจะแกงเธอเสียให้ได้ ฟาเบียนถึงกับพูดไม่ออกกับท่าทีภรรยาของเขา ผมกำลังพยายามดึงสติคุณ ทำไมคุณถึงยกเท้าสู้แรงผมกลับล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...