“ฟาเบียน! หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!” ฮันน่าท้วง ด้วยความเร็วของเขา เธอต้องถูกเขาย่ำยีแน่นอน
ฟาเบียนเงยหน้าขึ้นแล้วจ้องเธอตาไม่กระพริบพร้อมกับรอยยิ้ม “ผมจะหยุดก็ต่อเมื่อคุณอ้อนวอนผมแล้วพูดว่า ‘สามีขา ฉันยอมรับผิดแล้ว ฉันจะให้สิ่งที่คุณต้องการหลังการปลูกถ่ายนะคะ’”
ฮันน่าหน้าแดงแทนคำตอบ ต้องล้อกันเล่นแน่ๆ ! ไม่มีทางที่ฉันจะพูดอะไรน่าอายแบบนั้นหรอก
“หืม? คุณจะไม่ทำหรอ? งั้นผมต่อนะ” เมื่อฟาเบียนแกล้งทำเป็นจูบเธอต่อ เธอก็ถอยหนีด้วยความกลัว “ก็ได้ ฉันจะพูด”
“สามีขา ฉันยอมรับผิดแล้ว ฉันจะให้สิ่งที่คุณต้องการหลังการปลูกถ่ายนะคะ” เสียงของฮันน่าเบาอย่างกับยุงบิน
“คิดว่าผมจะได้ยินไหม? แน่ล่ะว่าผมจะไม่บังคับให้คุณพูดดังขึ้นกว่านี้” ฟาเบียนหรี่ตาพลางยิ้มเย้าหยอก
“สามีขา ฉันยอมรับผิดแล้ว ฉันจะให้สิ่งที่คุณต้องการหลังการปลูกถ่ายนะคะ” หลังจากหายใจเข้าลึกๆ ฮันน่าก็พูดซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“ดูเหมือนว่าคุณจะลืมคำขอของผมไปแล้วใช่ไหม?” ท่าทางของฟาเบียนดูไม่พอใจ
“อ๊าก!” ฮันน่าโกรธจัด แต่เมื่อเห็นว่าเขายังคงกอดเธอแน่นในอ้อมแขน เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากข่มความไม่พอใจเอาไว้และวิงวอนอย่างดีดดิ้น “สามีขา ฉันยอมรับผิดแล้ว ฉันจะให้สิ่งที่คุณต้องการหลังการปลูกถ่ายนะคะ ได้ไหมที่รัก?”
ฮันน่าหน้าแดงจัดทันทีหลังพูดจบพลางหลับตาด้วยความอาย เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองพูดแบบนั้นออกไปจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเสียงแบบนั้น
ฟาเบียนแววตาเป็นประกาย เขาเสยผมยาวหยักศกของเธอไปด้านหลังแล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “จำไว้ด้วย คุณพูดเองนะ อย่ามากลับคำหลังผ่าตัดเสร็จก็แล้วกัน”
ฮันน่าอดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันเขาในใจ เขาเป็นถึงประธานบริษัทกลุ่มใหญ่ แต่กลับใช้วิธีไร้ยางอายแบบนี้รังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้อย่างฉัน ผู้ชายประเภทไหนกัน?
ทันทีที่ฟาเบียนปล่อยตัวเธอ ฮันน่าก็เด้งตัวออกจากตัวเขาทันที “ชิ มีแค่ผู้ชายที่พึ่งพาไม่ได้เท่านั้นแหละที่ต้องใช้การบังคับขู่เข็ญ” พูดจบเธอก็รีบกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันที
“เอางั้นก็ได้ค่ะ ฉันกำลังจะออกไปซื้อของสักหน่อย เดี๋ยวกลับมาอุ่นให้ก็แล้วกันนะคะ” อมีเลียตอบ
หลังจากอมีเลียออกไปได้ไม่ถึงสองนาที ฮันน่าก็รีบเข้าไปในครัวและเทซุปต้มกระดูกที่เหลือลงในอ่างล้างจานทันที เมื่อเทหมด เธอก็รู้สึกถูกปลดปล่อยก่อนจะพูดว่า “ดูสิว่าคุณจะยุ่งอะไรกับฉันได้อีก”
หลังจากดูเวลาแล้ว ฮันน่าตัดสินใจไปเยี่ยมน้องชายของเธอ เนื่องจากเป็นห่วงวินสันเพราะชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
คิดได้ดังนั้น เธอจึงออกจากบ้านและเรียกรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาล
ฮันน่าเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอใช้นิ้วแตะกระจกเบาๆ เมื่อได้ฟังคำอธิบายของฟาเบียนแล้ว เธอก็ไม่โกรธเคืองพ่ออีกต่อไป ถึงกระนั้นก็ยังไม่สามารถเรียกเขาว่า “พ่อ” ได้
ส่วนเฟลิเซีย ฮันน่าถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ แม้ว่าเฟลิเซียจะเจ้าแผนการ แต่ตระกูลแบล็กวูดก็ถือว่าฮันน่าเป็นคนนอกจึงไม่มีสิทธิ์จะไปก้าวก่าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...