ดวงตาของทุกคนทอประกาย เห็นได้ชัดว่าเงื่อนไขนี้ชักจูงพวกเขาได้สำเร็จ
“ลองคิดดูสิ คุณนอร์ตันจะล้มเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้ยังไง? พวกคุณทุกคนลืมไปรึเปล่าว่าตระกูลนอร์ตันมีหุ้นในบริษัทมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์?”
แม้ว่าเวนน์กลัวว่าฟาเบียนจะรู้ว่าเขายักยอกเงิน แต่เขาก็กลัวที่จะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของฟาเบียนยิ่งกว่า เนื่องจากเขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของฟีนิกซ์กรุ๊ป เขาจึงคุ้นเคยกับวิธีการที่โหดร้ายของฟาเบียนเป็นอย่างดี
ลีน่าขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นว่าเวนน์มีอาการหวาดกลัว
ทันใดนั้นเธอจึงยิ้มบางๆ และปรับน้ำเสียงของเธอให้อ่อนลง หากไม่มีเวนน์ แผนการของเธอจะพังทลาย และเธอจะไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จ
"คุณฟรีแมน คุณกังวลมากเกินไป ถึงเวลานั้นฟาเบียนจะมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมายจนไม่มีเวลาจะไปลงโทษคุณ”
เธอหยุดชั่วครู่แล้วกล่าวต่อว่า “หากทุกคนยังกังวล ฉันมีวิธีที่จะทำให้เขาไม่สามารถขุดคุ้ยเรื่องนี้ต่อได้!”
ทุกคนลังเลและสงสัย
ลีน่าพูดต่อ “มันง่ายมาก เพียงแค่โยนความผิดไปให้คนอื่น เช่น โยนไปให้เวนน์ จากนั้นเวนน์ก็โยนต่อไปให้คุณเดนน์โดยบอกว่าเขาได้รับข่าวว่าตลาดหุ้นกำลังจะล้ม ดังนั้นคุณจึงถูกบังคับให้ทำเพื่อบริษัท ทุกคนคิดว่าเป็นยังไง?”
ทันทีที่เธอพูดจบ ลีน่าก็ลอบสังเกตผู้คนเหล่านั้นโดยไม่พูดอะไร เธอมั่นใจว่าสิ่งนี้จะทำให้พวกเขาเห็นด้วยกับแผนการของเธอ หากพวกเขายังคงไม่เห็นด้วย เธอจะไม่ลังเลเลยที่จะเปิดเผยหลักฐานเหล่านี้และปล่อยให้ฟาเบียนลงโทษพวกเขาทั้งหมด นั่นจะทำให้คนอื่นเห็นผลลัพธ์ของการไม่ยอมเป็นฝ่ายเดียวกับเธอด้วย
หลักฐานที่เธอรวบรวมได้นั้นไม่ได้มีแค่ของคนไม่กี่คนเท่านั้น เนื่องจากฟีนิกซ์กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บริษัทในเครือทั้งหลายล้วนต้องมีจุดบอดด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้นนอกจากเวนน์แล้ว ลีน่าก็ไม่สนใจคนอื่นๆ ที่เหลือ หากพวกเขาไม่ตอบตกลง เมื่อฟาเบียนรู้เรื่องนี้ก็จะลงโทษพวกเขาอยู่ดี
“แน่ใจนะว่าจะได้ผล?” ใครบางคนถาม พวกเขายังคงสงสัยอยู่
จะดีกว่ามั้ยถ้าฉันทำตามที่เธอบอก? หากเขามาถามฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง ฉันก็แค่บอกว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเพียงแค่ทำไปเพราะฉันคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นสำคัญ อย่างมากที่สุด เขาก็แค่ลงโทษฉันที่ดำเนินการไม่เหมาะสม
“แล้วคุณเดนน์...” เขาถามและเริ่มคล้อยตาม
รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของลีน่าโดยไม่รู้ตัว เธอรีบพูดต่อว่า “เรื่องนั้นไม่ต้องกังวล เราได้เจรจากับเขาแล้ว เขาจะร่วมมือกับเราอย่างเต็มที่”
"ได้! ผมตกลง!" ในที่สุดเวนน์ก็กัดฟันพูด
แทนที่จะปล่อยให้ฟาเบียนจัดการเขา เขารู้สึกว่าเป็นการดีกว่าที่จะลองเสี่ยงดู บางทีเขาอาจมีโอกาสรอดมากกว่า
หลังจากที่เวนน์ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็พูดว่า “แต่คุณต้องสัญญาว่าถ้าเรื่องนี้จบลง คุณจะไม่ติดต่อเราเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก คุณจะต้องส่งต้นฉบับและสำเนาของหลักฐานที่คุณรวบรวมมาได้ทั้งหมดให้เรา อ้อ และอย่าลืมบอกผมด้วยว่าใครเป็นหนอนบ่อนไส้” เขาเลือกที่จะเผชิญกับการลงโทษของฟาเบียนดีกว่าตกเป็นทาสของลีน่าตลอดไปเพียงเพราะปัญหาเพียงปัญหาเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...