“อีกเดี๋ยวก็รู้” ผู้หญิงคนนั้นพึมพำโดยไม่ตอบคำถามของอีเวตต์ เธอออกคำสั่งกับคนขับรถด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ไปได้”
เมื่อคนขับได้ยินก็สตาร์ทเครื่องทันทีและพุ่งฉิวออกไปด้วยความเร็วสูงจนน่าตกใจ
“ตามรถคันนั้นไป อย่าให้คลาดสายตา!”
แจซั่นที่เฝ้าระวังอยู่บนยอดตึกแถวนั้นถือกล้องส่องทางไกลไว้ในมือข้างหนึ่งขณะตะโกนสุดเสียงใส่วิทยุสื่อสารที่อยู่ในมืออีกข้าง
เรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับหน้าที่การงานของเขา และเขาก็กำลังรั้งตำแหน่งไว้อย่างหมิ่นเหม่เต็มที
“รับทราบ!”
รถสีดำที่อยู่หลังปอร์เช่สีแดงสตาร์ทเครื่องและพุ่งออกไปทันทีหลังจากได้รับคำสั่ง ตามปอร์เช่สีแดงไปติดๆ
แต่รถธรรมดาไม่อาจทาบรัศมีกับปอร์เช่ได้ ไม่ช้าปอร์เช่สีแดงก็ทิ้งห่างรถสีดำออกไปแบบไม่เห็นฝุ่น
“รถเอคลาดกับเป้าหมาย! รถเอคลาดกับเป้าหมาย! เป้าหมายกำลังมุ่งหน้าไปหารถซี! รถซี! จัดการ! ไล่ตามเป้าหมาย รถซี!” ชายที่นั่งอยู่บนเบาะผู้โดยสารในรถสีดำตะโกนใส่วิทยุสื่อสาร
“รถซีเห็นเป้าหมายและกำลังไล่ตาม ย้ำ รถซีเห็นเป้าหมายและกำลังไล่ตาม”
รถสปอร์ตสีเงินพุ่งออกมาจากหัวมุมถนนและไล่กระชั้นตามปอร์เช่สีแดง
แจซั่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก ในใจนึกชมฟาเบียน เฮ้อ! โชคดีที่ฟาเบียนจัดสรรกำลังคนไว้อย่างละเอียดลออ ไม่งั้นแม่นั่นหนีไปได้แน่
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์วนซ้ำแบบเดิม ปอร์เช่สีแดงที่อีเวตต์นั่งอยู่พุ่งฉิวต่อไป ขณะที่รถคันแล้วคันเล่าไล่ตามและคลาดกันก่อนที่รถอีกคันจะเข้ามารับช่วงต่อ การไล่ล่าระหว่างอีเวตต์กับฟาเบียนถือว่าดุเดือดทีเดียว
“รถจีคลาดกับเป้าหมาย! รถจีคลาดกับเป้าหมาย! เป้าหมายกำลังมุ่งหน้าไปหารถเอช! รถเอช! จัดการ! รถเอช! จัดการ!”
“ไม่สำเร็จ! รถเอชไม่พบเป้าหมาย! ไม่สำเร็จ! รถเอชไม่พบเป้าหมาย!”
“อะไรนะ? ขับแซง? นายเสียสติหรือไง? ฉันบอกให้ไล่จี้! นึกว่าตัวเองแข่งกับมันเหรอ?” แจซั่นตำหนิอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อได้ฟังคำพูดของเจ้าหน้าที่
เฮอะ! อีเวตต์ แทนเนอร์คงถอดใจเพราะรู้ตัวแล้วว่าหนีไม่รอด
“ฮึ่ม! อีเวตต์ แทนเนอร์? คอยดูเถอะ ฉันได้คลิปเมื่อไหร่ จะเล่นงานเธอกับแม่พี่สาวให้ยับ หาหนุ่มกล้ามใหญ่สักสองสามคนไปทรมานเธอก็ยังได้!” แจซั่นคำรามอย่างเหี้ยมเกรียม
ถ้าไม่ใช่เพราะนังพวกนี้ ป่านนี้ตัวเขา แจซั่น เดนน์…ก็คงกำลังเสวยสุขอยู่ที่ไหนสักแห่ง เรื่องนี้มีผลกระทบกับเขามาก อันที่จริงมันทำให้เขาหวาดระแวงแม้ตอนอยู่บ้าน เขาจะตรวจตราเสมอว่ามีกล้องซ่อนอยู่ใกล้ทีวีหรือเปล่าก่อนจะมีอะไรกับภรรยา ที่แย่กว่านั้นคือไม่กล้าออกไปทำนอกบ้านแล้ว
ขณะที่แจซั่นกำลังโล่งอก ฟาเบียนก็ได้รับโทรศัพท์
“สวัสดีครับคุณนอร์ตัน ผมได้ข้อมูลเรื่องตั๋วเครื่องบินของอีเวตต์ แทนเนอร์ตามที่คุณสั่งแล้ว” บุคคลปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “เป็นเที่ยวบินจากสนามบินซิพเพนเดลในเช้าวันนี้ เวลาเก้าโมงสี่สิบนาที มุ่งหน้าสู่ประเทศเอ ตั๋วเฟิร์สคลาส”
ฟาเบียนฟังแล้วเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก่อนพยักหน้า ใช่เลย นี่แหละ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...