“ผมไม่คิดเลยว่าคนกลับกลอกปลิ้นปล้นอย่างลีน่าจะพลาดท่าถูกเล่นงานคืนจนได้ อย่างนี้เรียกว่าเวรกรรมตามสนองสินะครับ?” เจสันหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
ฟาเบียนหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด ไอ้เด็กหนุ่มนี่กำลังจะหลอกด่าว่าฉันเป็นพวกเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อนด้วยใช่ไหม?
“เอาล่ะ ถือว่านายช่วยฉันได้มากทีเดียว ถ้างั้น…” ฟาเบียนเอ่ยขณะเปิดลิ้นชักออกก่อนที่จะหยิบกล่องกำมะหยี่กล่องหนึ่งออกมา “รับนี่ไปสิ”
แววตาเจสันเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นกล่องตรงหน้า ว่าแต่คืออะไรกันนะ? นี่คุณฟาเบียนกำลังตบรางวัลให้ผมจริงๆ สินะ!
ไม่รอช้าเจสันรีบแง้มเปิดกล่องใบนั้นขึ้นด้วยความสงสัย ก่อนที่จะอุทานออกมา “ฮะ?”
ในกล่องใบนั้นคือนาฬิกาเรือนหนึ่ง แน่นอนว่าไม่ใช่นาฬิกาแบรนด์สวิสธรรมดาทั่วไปแต่คือนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์สุดหรูต่างหาก เซียนนาฬิกาต่างรู้ว่าแบรนด์นี้เป็นที่ต้องการในตลาดมากเพียงใดและมีมูลค่ามหาศาลมากขนาดไหนเพราะล้วนแต่มีกลุ่มคนคอยจับจ้องหมายจะครอบครองให้ได้ อย่างไรก็ตามเจสันก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแต่อย่างใดเพราะตัวเขาเองก็มีอยู่แล้วเรือนหนึ่ง
เขาขยับตัวไปมาอย่างลำบากใจก่อนจะตัดสินใจพูดในที่สุด “เอ่อ คุณฟาเบียนครับ? ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอเป็น…อย่างอื่นแทนได้ไหม?”
“แน่ใจนะว่าไม่เอา?” ฟาเบียนถามคนตรงหน้า
“เนี่ย ดูสินี่ครับ” เจสันยื่นมือไปตรงหน้าฟาเบียนเพื่อให้เขาดูนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์สุดหรูเรือนหนึ่งที่มีอยู่บนข้อมือของเขาอยู่แล้ว
เห็นดังนั้น ฟาเบียนจึงยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย “โอเคตามนั้น”
ฟาเบียนแอบถอนหายใจออกมาอย่างนึกขำกับท่าทีเด็กน้อยและไม่ประสีประสาของเจสัน ในเมื่อชายหนุ่มตัดสินใจดังนั้นเขาจึงยื่นมือไปรับของขวัญชิ้นนั้นกลับมาอย่างช่วยไม่ได้
แต่ก่อนที่เจสันจะวางกล่องกำมะหยี่ลงบนฝ่ามือฟาเบียน ทันใดนั้นเขาก็ชะงักไปก่อนที่จะเริ่มครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
เดี๋ยวนะ ไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่คุณฟาเบียนจะไม่รู้ว่าผมมีปาเต็ก ฟิลิปป์อยู่แล้ว เว้นแต่ว่า…บางทีเรือนนี้อาจจะพิเศษกว่าเรือนอื่น?
เมื่อฉุกคิดบางอย่างได้ เขาจึงรีบยื่นมือกลับก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ เอาเป็นว่าผมจะเก็บไว้เอง ผมจะกล้าปฏิเสธไม่รับของขวัญที่คุณอุตส่าห์เตรียมไว้ให้ได้ยังไงกันล่ะครับ?”
ฟาเบียนพยักหน้าให้เป็นเชิงตอบรับ “ต้องให้ได้อย่างนี้สิ ใช่ว่าคนเราจะหาปาเต็ก ฟิลิปป์รุ่นที่เก้า มาได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่”
เจสันตัวชาขึ้นมาเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟาเบียนเอ่ย เดี๋ยวนะ! นี่คือปาเต็ก ฟิลิปป์รุ่นที่เก้างั้นเหรอ? ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม?
เสียงนั่นยิ่งกระตุ้นความโมโหในจิตใจลีน่าไม่น้อย เธอจึงรีบเอ่ยสั่งเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเดือดดาล “เกิดอะไรขึ้น? พูดออกมาสิ ไอ้เด็กปัญญาอ่อน!”
เมื่อเห็นว่าจอร์จยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบ อารมณ์เธอยิ่งเดือดพล่านมากขึ้น เธอจึงผลักเขาออกไปให้พ้นทางก่อนที่จะหันไปมองหน้าจอ
นี่…
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร ฮะ? ไหนบอกว่านายจะทำให้ฟาเบียนเสียเงินสามพันล้านได้ภายในวันเดียวไง! ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้? แล้วทำไมราคาหุ้นถึงพุ่งขึ้นแทนที่จะตก? ตอบมาสิเจ้าบ้า” ลีน่าตะโกนใส่จอร์จด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
สิ่งที่เธอกำลังทำนับว่าเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เธอเอาชนะคนอย่างฟาเบียนได้ ถ้าพวกเขาไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มเสียเงินห้าพันล้านได้ ก็ไม่มีทางที่ฟีนิกซ์กรุ๊ปจะล้มละลายได้เป็นอันขาด
“ผะ-ผมสาบานเลยว่า…” จอร์ชะงักไปอย่างนึกคำตอบไม่ออกเมื่อได้ยินคำถามที่ถ่าโถมใส่ไม่หยุด
“ไอ้เศษขยะเอ้ย! คิดสิว่าฉันจะเสียเงินจ้างแกมาจากไลท์สปริงทำไมถ้าแกมีปัญญาทำได้แค่นี้ฮะ ไอ้โง่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...