“อรุณสวัสดิ์ โจชัว” อีฟเวลินต้องการเงินมากกว่านี้ เธอจึงต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับโจชัวและเกาะติดเขาอย่างไร้ยางอายราวกับเป็นผู้หญิงของเขา
มีเพียงทางนี้เท่านั้นที่เธอจะบรรลุเป้าหมายสูงสุดในใจ
“อืม” โจชัวรู้สึกเคืองอยู่เล็กน้อยที่อีฟเวลินเรียกเขาอย่างสนิทสนมอย่างนั้น
แต่ทว่าเขาก็ตอบรับการทักทายของเธอ
“เราควรลุกได้แล้ว” โจชัวกลิ้งลงจากเตียงเพราะกลัวว่าพี่ชายจะเห็นว่าเขาหลับนอนอยู่กับอีฟเวลิน ถ้าพี่ชายเขารู้ขึ้นมา เขาคงจบเห่แน่
และเขาก็ต้องขวัญหนีดีฝ่อ เมื่อความกลัวของเขากลายเป็นจริง
ขณะที่อีฟเวลินกำลังจะยืนกรานที่จะอยู่ต่อ เสียงของเฮนรี่ก็ลอยมาถึงหูของเธอ
“ไม่เอาน่า ไม่ต้องลำบากลุกขึ้นมาหรอก แกกล้าทำอย่างนี้ แล้วแกจะกลัวหัวหดว่าฉันจะรู้เรื่องนี้ไปทำไม?” เฮนรี่บุกเข้ามาในห้องและจ้องมองน้องชายของเขา
“พี่เฮนรี่” โจชัวงงงวยว่าพี่ชายของเขารู้เรื่องลับๆ ล่อๆ ของเขาเมื่อคืนนี้ได้อย่างไร
แม้เขาจะสงสัย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการลอยตัวออกจากปัญหานี้โดยสิ้นเชิง
“ผมเปล่านะ พี่เฮนรี่ เธอต่างหากที่เป็นคนยั่วผม” เงินที่โจชัวใช้ทุกวันนี้มาจากเฮนรี่ และเขาจะไม่เหลืออะไรเลยหากพี่ชายเขาตัดพี่ตัดน้องกันไป
ดังนั้น ด้วยความกังวลว่าเฮนรี่จะโมโห เขาจึงโทษทุกอย่างให้อีฟเวลินแทน
แต่อีฟเวลินไม่ใช่คนยอมอ่อนข้อ เธอจะไม่ยินยอมให้โจชัวใส่ร้ายเธอแบบนี้แน่
“ไม่ค่ะ เฮนรี่ ฉันไม่ได้ยั่วเขา” อีฟเวลินแย้ง
น่าเสียดายที่เธอลืมตัวไปและยังลืมความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างชายสองคนนี้ด้วย
เฮนรี่จะไม่มีวันทำให้ชื่อเสียงของน้องชายตัวเองเสื่อมเสียเพราะเห็นแก่คนนอกเป็นอันขาด
ดังนั้น เขาจึงเขียนเช็คให้อีฟเวลินและบอกให้เธอออกไปจากที่นี่ เขายังไม่ลืมจะเตือนเธอด้วยว่าห้ามเปิดเผยเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ไม่อย่างนั้น เขาจะทำทุกอย่างให้แน่ใจว่าเธอจะอยู่ในไธเมียนต่อไปไม่ได้อีกเลย
ด้วยความไม่มีอำนาจจะต่อต้านเขา อีฟเวลินจึงจำใจรับเช็คและเข็นตัวเองออกไปอย่างพ่ายแพ้
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังไม่มีเงินมากพออีกด้วย การซื้อเครื่องสำอางเพียงครั้งเดียวอาจจะเท่ากับจำนวนเงินที่เธอจะสามารถดำรงชีวิตประจำวันไปได้ถึงสองสามเดือน
“คุณผู้หญิง คุณอยากเข้าไปดูข้างในหน่อยไหม?” ขณะที่อีฟเวลินจมอยู่ในความคิด เธอก็ได้ยินเสียงร้องเรียกออกมาเป็นภาษาบ้านเกิดของเธอเอง
อีฟเวลินเงยหน้าและมองป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “หัวราน้ำ”
ป้ายสไตล์คลาสสิกเป็นภาพที่ดูแล้วชื่นตาและตัวอักษรบนป้ายดูเหมือนจะส่งความรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ
ไม่นานนักเธอก็พยักหน้าเป็นการส่งสัญญาณว่ายินดีจะเข้าไป
น่าแปลกที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คือสถานที่ใด มีเพียงเสียงในหัวที่คอยกระซิบให้เธอเข้าไปในนั้น
อีฟเวลินปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเข็นรถของเธอเข้าไปในนั้นราวกับตกอยู่ในภวังค์ จากนั้นผู้หญิงคนที่เข็นเธอเข้ามาก็เรียกเด็กผู้หญิงสองสามคนที่แต่งหน้าบางๆ ให้มาหา
กลิ่นหอมของเครื่องสำอางลอยเข้าจมูกของอีฟเวลิน ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจ
“ฟังนะทุกคน นี่คือน้องใหม่ ใครอยากรู้จักเธอบ้าง?” ผู้หญิงคนนั้นกวาดสายตามองสาวๆ และคิดว่าจะให้หนึ่งคนในนั้นพาอีฟเวลินไปดูรอบๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม
สนุกมาก...