ความรักสีคราม นิยาย บท 853

น่าเสียดายที่ฮันเตอร์ทิ้งเงินไว้บนโต๊ะก่อนจะบอกว่า “คุณขอให้ผมช่วยใครก็ได้ เพียงแต่ไม่ใช่ฟินนิค ดังนั้นจงลืมมันไปเสียเถอะ”

จากนั้นเขาก็เดินออกไปแล้วทิ้งให้อีฟเวลินตะลึงงัน

จริงสิ! ฉันขอให้เขาช่วยฟินนิคนี่นา! ฟินนิค—ศัตรูตัวฉกาจของเขา! ทำไมเขาจะต้องตอบตกลงที่จะช่วยฉันด้วยล่ะ? พระเจ้า ฉันทำพลาดไปเสียแล้ว...

อีฟเวลินแค่นเสียงพลางหัวเราะให้ความโง่ของตัวเองอย่างขมขื่นใจ

ฉันเพิ่งจะหาเรื่องใส่ตัวถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? เธอทำลายบริษัทของฟินนิค มิหนำซ้ำยังผลักดันมันไปสู่การล้มละลายและส่งฟินนิคที่เป็นประธานเข้าคุกด้วยตัวเองอีกด้วย

ขณะที่อีฟเวลินจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความสิ้นหวัง ก็มีคนเดินเข้ามาหาเธอแล้วถามว่า “คุณหนู คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ทุกความเคลื่อนไหวของอีฟเวลินต่างหยุดชะงักลง

เธอคือ...

เธอเป็นผู้หญิงที่คล้ายกับราเชลมาก ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าอีฟเวลินและกำลังถามว่าเธอเป็นอะไรหรือไม่

อีฟเวลินกระพริบตามองรูปลักษณ์หรูหราสง่างามของผู้หญิงคนนั้น เมื่อเธอเห็นกระเป๋าหลุยส์วิตตองที่คล้องอยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้นก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องสำอางชาเนลที่ผู้หญิงคนนั้นประทินลงบนใบหน้า

“แม่คะ” อีฟเวลินเจตนาเอ่ยเสียงอ้อแอ้คล้ายคนเมา อีฟเวลินหวังว่าบางทีเธออาจจะทราบเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นได้มากขึ้น

“เด็กโง่เอ๊ย ฉันไม่ใช่แม่ของหนูหรอกนะ” ผู้หญิงคนนั้นอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางขมวดคิ้วให้อีฟเวลินด้วยความสงสาร “เรียกฉันว่าคุณเฟอร์กูสันก็ได้”

สำหรับคุณเฟอร์กูสันแล้ว อีฟเวลินดูเหมือนเด็กขวัญอ่อนที่สูญเสียแม่ไป ภาพที่เห็นนี้เพียงพอที่จะกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแม่จากคุณเฟอร์กูสัน ดังนั้นเธอจึงยอมให้อีฟเวลินเรียกเธอว่า 'คุณเฟอร์กูสัน'

“คุณเฟอร์กูสัน? หนูขอถามว่าคุณมีพี่น้องฝาแฝดหรือเปล่าคะ?” อีฟเวลินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้พลางสะบัดศีรษะเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอสร่างเมาแล้ว

สิ่งนี้สร้างความสับสนให้แก่คุณเฟอร์กูสันผู้สงบนิ่ง ขณะที่เธอครุ่นคิดอยู่นานเมื่อได้ยินคำถามดังกล่าว

“ทำไมหนูถึงได้ถามแบบนั้นล่ะ...?” ในที่สุดคุณเฟอร์กูสันก็เอ่ยขึ้นมา คุณเฟอร์กูสันที่รู้สึกค้างคาใจกับคำถามของอีฟเวลิน คุณเฟอร์กูสันหรี่ตามองเธอด้วยสายตาสำรวจตรวจตรา

“อันที่จริงแล้ว แม่ของหนูคล้ายคุณมากเลยค่ะ ดังนั้นหนูก็เลยอยากรู้ว่าพวกคุณสองคนเป็นพี่น้องกันหรือเปล่า” อีฟเวลินไม่ได้โกหก เธอสบตาคุณเฟอร์กูสันแล้วตอบอย่างจริงใจ

“ฟินนิค คุณมีอะไรจะพูดเรื่องที่มีส่วนพัวพันในการฉ้อโกงหุ้นอย่างผิดกฎหมายหรือเปล่า?” เขาซักไซ้

“ครับ ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ได้ทำ” ฟินนิคจ้องตำรวจนายนั้นตาเขม็งด้วยสีหน้าเย็นชา เขาไม่มีทางที่จะยอมรับสิ่งที่เขาไม่ได้ทำเป็นอันขาด

ตำรวจนายนั้นมีท่าทีตอบสนองในทางลบกับคำพูดโต้แย้งของฟินนิค เขาตบโต๊ะพลางแผดเสียงว่า “ปากคุณอาจจะหุบแน่นราวกับหอย แต่คุณติดคุกแล้ว ตอนนี้ยังมีอะไรให้พูดอีกงั้นรึ?”

เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจ เนื่องจากมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น พวกเขาจึงออกคำสั่งให้ตำรวจตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสามวัน

แต่ฟินนิคไม่ได้สารภาพผิดทำให้ระยะเวลาพิจารณาคดีต้องยืดเยื้อออกไป ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่จะทำให้ตำรวจโมโหใส่เขา

เขาหวังว่าจะจัดการกับคดีนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อจะได้สามารถรายงานกลับไปยังผู้บังคับบัญชาของตนเอง ทว่ายามนี้ดูท่าจะไม่มีทางเป็นไปได้ในเวลาสั้นๆ เสียแล้ว

“ถ้าหากการติดคุกทำให้ผมต้องยอมรับผิดโดยปริยาย งั้นผมก็ขอแนะนำให้คุณสืบสวนให้ดีก่อนจะมาตั้งคำถามกับผม อีกอย่างผมก็รู้สิทธิ์ของตัวเองดีและผมก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้คุณฟังทั้งนั้น” ฟินนิคจ้องมองนายตำรวจที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง เขารู้ว่านายตำรวจวางแผนที่จะทำอะไรกันแน่

แต่ฟินนิคไม่ยอม เขากำลังซักไซ้ฉันโดยไม่คิดจะสืบสวนเรื่องราวทั้งหมด เขาคิดว่าตัวเองสามารถบีบบังคับให้ฉันสารภาพความผิดได้งั้นเหรอ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ความรักสีคราม