41
Talk คิรัน
ผมออกจากบริษัทเร็วกว่าปกติเพราะนัดใครบางคนเอาไว้เพื่อเคลียร์ความสัมพันธ์บางอย่าง อีกไม่นานเธอก็คงจะมาถึง
กริ๊ง~
เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้นเป็นสัญญาณบอก ผมจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูให้
“เข้ามาก่อนสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอบอกเสียงเรียบก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟารับแขก ส่วนผมก็ปิดประตูแล้วเดินตามมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเธอ
“เรียกฉันมาด่วนมีอะไรคะ”
“อาทิตย์ก่อนเธอคงได้เงินก้อนไปใช้หนี้ให้แม่ครบแล้ว”
“ค่ะ ขอบคุณมาก จะให้ฉันตอบแทนแบบไหนก็…”
“ไม่ต้อง” ผมรีบแทรกขึ้นทันควัน ทำเอาคนที่กำลังพูดขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย
“ทำไมล่ะคะ ?”
“เพราะว่าฉัน…อยากจบความสัมพันธ์นี้แล้ว”
“เพราะแป้งเหรอคะ ?”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
“….”
“อย่าล้ำเส้น”
“แต่…”
“เอาเป็นว่าต่อไปนี้เธอกับฉันไม่ต้องมาเจอกันอีก ทำเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกันได้ยิ่งดี” ผมยื่นคำขาดกับเดียวแล้วยื่นซองเช็กใบสุดท้ายให้กับเธอ “นี่คือค่าเสียเวลาที่เธอยอมมาเจอกันในวันนี้”
“….” เดียวยังไม่ตอบอะไร สีหน้าและแววตาของเธอยังคงนิ่งเรียบตามนิสัย แต่ผมรู้ว่าเธอคงกำลังงุนงงและสับสน
“ฉันหมดธุระแล้ว” ผมออกปากไล่เธอกลายๆ เพราะเธอเอาแต่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา แล้วอีกอย่างเราก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องคุยกันแล้ว
“ก็ได้ค่ะ ถ้ามันเป็นความต้องการของคุณ” เธอหยัดกายลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบซองเช็กแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป
ผมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี ก่อนจะนั่งเอาศอกค้ำยันกับเขาแล้วก้มหน้าคลึงขมับอย่างคิดไม่ตก
ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน ทำไมถึงได้เรียกเดียวมาจบความสัมพันธ์ทั้งที่ตอนแรกผมติดอกติดใจเธอขนาดนั้น
สาบานให้ตายตรงนี้เลยก็ได้ว่าตั้งแต่ที่ผมกับแป้งเลิกกัน ผมก็ไม่ได้ไปนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
ผมพยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติ ลองโทรเรียกผู้หญิงมาบำเรอ แต่พอจะทำเข้าจริงๆ มันก็ไม่มีอารมณ์จนต้องไล่พวกเธอกลับ
เพราะทุกครั้งที่จะทำหน้าแป้งก็มักจะลอยเข้ามาในโสตประสาทและทำให้ผมสูญเสียความเป็นตัวเอง
ผมได้แต่คิดถึงเธอ อยากคุย อยากกอด อยากทำทุกอย่างที่เคยทำด้วยกัน
อยากทำมันในวันที่ผมไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว…
ที่ผ่านมาผมทำตัวเหมือนไม่เคยแคร์แป้ง ทำเหมือนแค่หลอกฟันเธอไปวันๆ ซึ่งผมจะไม่ขอแก้ตัว เพราะในตอนนั้นผมก็เป็นแบบนั้นจริงๆ จนผมคิดว่าตัวเองไม่ได้ชอบแป้งมากขนาดนั้น
ทว่าพอในวันที่ผมไม่มีเธอแล้ว ความรู้สึกทุกอย่างมันกลับตรงกันข้าม
ผมคิดถึง โหยหา และแทบเป็นบ้าทุกครั้งเวลาที่เห็นเธออยู่ใกล้ผู้ชายคนอื่น
ล่าสุดก็ไอ้เชฟขี้เก๊กนั่น ผมมองก็รู้ว่ามันชอบแป้ง
วันนั้นที่คลับ ผมโคตรอยากจะซัดหน้ามันสักหมัด แต่เพราะว่ากลัวแป้งจะเกลียดผมไปมากกว่านี้เลยทำได้แค่อดทน
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนอยู่เฉยไปได้อีกนานเท่าไหร่
ยิ่งถ้ามันยังเกาะแกะแป้งแล้วกวนส้นตีนไม่เลิก สักวันผมคงได้ซัดมันจริงๆ
ผมแพ้ให้กับแป้งอย่างราบคาบ มันคงเป็นเหมือนคำที่ใครๆ เคยพูดว่า
‘รู้ค่าในวันสาย’
ผมมองแป้งเป็นสมบัติมาตลอด และมัวแต่หลงระเริงคิดว่าเธอรักผมมาก ยังไงก็ไม่มีวันที่เธอจะทิ้งผมไปไหน เพราะคิดแบบนั้นผมจึงมองข้ามทุกอย่างไป
มองข้ามหัวใจที่บริสุทธิ์ของผู้หญิงคนนึงที่ยอมให้ผมได้ทุกอย่าง
สุดท้ายวันนี้ก็เป็นผมเองที่ต้องมานั่งเสียใจและเสียดาย เฝ้าฟูมฟายว่าต้องทำยังไงผมถึงจะได้เธอกลับมา
…ผมแม่งไม่น่าปล่อยให้เธอหลุดมือไปเลยว่ะ…
Talk แป้ง
วันนี้ฉันสอบเป็นวันสุดท้ายก่อนจะที่มหาวิทยาลัยจะปิดเทอม แต่ยังไม่ทันที่จะได้โล่งใจฉันก็ต้องรู้สึกกังวล เพราะหลังสอบเสร็จฉันต้องไปหาอารันที่บริษัทเพื่อเอาเอกสารสำคัญของคุณพ่อ
จึงทำให้ฉันไม่ค่อยมีสมาธิและทำข้อสอบได้ยากลำบากมากกว่าทุกครั้ง ถึงอย่างนั้นก็ยังผ่านพ้นมันมาได้ แต่ก็เกือบจะไม่รอดเหมือนกัน
“คืนนี้ฉันต้องบินแล้วนะ เปิดเทอมนู่นกว่าจะได้กลับมา ต้องคิดถึงพวกแกแน่ๆ” เอิร์นบอกด้วยน้ำเสียงหม่นหมองเพราะปิดเทอมนี้เธอต้องบินไปต่างประเทศกับคุณพ่อ
“คิดถึงก็โทรมาสิ เดี๋ยวนี้โลกไปไกลมากแล้วนะ” คำพูดของเดียวอาจจะดูแข็งกระด้าง แต่เธอคงกำลังปลอบเอิร์นทางอ้อมอยู่
“มันก็ไม่เหมือนมาเจอกันแบบนี้นิ”
“ไม่เป็นไร ปิดเดือนครึ่งเอง แป๊บเดียวแหละเนอะ^_^” ฉันคลี่ยิ้มให้เอิร์นเพราะไม่อยากให้เธอคิดมาก
“งั้นฉันกลับก่อนนะ ต้องไปเก็บกระเป๋าอีก”
“มากอดที~” ฉันกางแขนแล้วเดินเข้าไปสวมกอดเอิร์นแน่น เอิร์นเองก็กอดตอบฉันเช่นกัน
“เดียวไม่มากอดเหรอ” ฉันหันไปถามเดียวที่ยังนิ่งอยู่
“กอดทำไมไปแค่นี้ใกล้ๆ เอง เลิกขี้แยได้ละ ขอให้แกเดินทางปลอดภัย” พูดจบเดียวก็เดินหันหลังแยกไปอีกทาง เหมือนกับอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ว่ามีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า
“ยัยเดียวนี่จะอ่อนโยนเหมือนคนอื่นสักวันไม่ได้เลยรึไง! แข็งอย่างกับหิน ผู้ชายที่ไหนจะมาชอบ!” เอิร์นว่าให้ตามหลังเนื่องจากน้อยใจเดียวอย่างหนัก
“เอาหน่า เดียวอาจจะมีเรื่องเครียดอยู่ก็ได้”
“ช่างเถอะ งั้นเอิร์นไปแล้วนะ ไว้จะโทรหาในแชตกลุ่ม”
“ทำไมถึง…”
ไม่รอให้เขาพูดอะไรมากไปกว่านั้น ฉันก็เดินแทรกตัวเข้าไปด้านในด้วยความรำคาญ ขี้เกียจฟังเขาบ่นนั่นนี่ รีบเอาจะได้รีบกลับ
“นั่งรอก่อน เดี๋ยวอาเข้าไปหาให้”
ฉันหย่อนตัวนั่งลงโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเพื่อฆ่าเวลา ส่วนอารันก็เดินหายเข้าไปในห้องนอน
พอได้ยินเสียงปิดประตูฉันก็ชำเลืองตามองและเมื่อเห็นว่าอารันไม่อยู่ในห้องรับแขกแล้วฉันจึงลุกขึ้นเดินสำรวจรอบๆ ห้อง
อยากดูร่องรอยว่าเขาพาผู้หญิงที่ไหนมากินตับอีกหรือเปล่า ไม่รู้ว่าฉันจะอยากรู้ไปทำไม ทั้งที่ถ้าเกิดเขาพามาและมีหลักฐานจริงๆ มันคงจะเจ็บปวดมากแน่ๆ
ฉันเดินดูในห้องรับแขกแล้วแต่ก็ไม่เจออะไร จึงลองเดินเข้าไปในห้องครัว ดูตามถังขยะ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าตู้เย็น บางทีในตู้เย็นอาจจะมีพวกครีมหรือชีสมาส์กของผู้หญิงแช่ไว้ก็ได้
ไม่รอช้าฉันรีบเปิดตู้เย็นออกดู ก่อนจะสตั้นไปชั่วขณะ เมื่อเจอเข้ากับกล่องเค้กที่ตัวเองทำให้อารันในวันเกิดถูกวางแช่เอาไว้
ส่วนสภาพของเค้กคงไม่ต้องพูดถึง มันทั้งเละและเลอะเทอะเพราะฉันเขวี้ยงใส่หน้าคุณอ้อมไป
ตึกตัก! ตึกตัก!
จู่ๆ หัวใจมันก็เต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ ทำไมอารันถึงยังเก็บเค้กก้อนนี้ไว้อยู่ ทั้งที่มันไม่สามารถเอามาเป่าหรือว่ากินต่อได้แล้ว
ตั้งสติหน่อยแป้งลืมไปแล้วหรือไงว่ากำลังทำอะไรอยู่
จิตใต้สำนึกมันร้องบอกทำให้ฉันได้สติกลับมาแล้วปิดตู้เย็นเดินสำรวจที่มุมอื่นต่อ
แต่ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด เพราะไม่เจออะไรที่บ่งบอกว่าอารันพาผู้หญิงมาที่ห้องเลย หรืออาจจะพามาแต่เก็บทิ้งไปหมดแล้วก็ไม่รู้
ฉันเดินดูไปเรื่อยๆ จนมาถึงโต๊ะอ่านหนังสือของอารันแต่ก็ยังไม่เจออะไรผิดปกติ จึงจะเดินกลับไปนั่งรอเขาที่โซฟาอย่างเดิม ทว่าหางตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นของบางอย่างที่รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาโผล่พ้นเล่มหนังสือออกมา
“สร้อยอะไร” ไวเท่าความคิด ฉันเอื้อมมือไปหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาดู ก่อนที่จะรู้สึกเหมือนหัวใจมันหยุดเต้นไปชั่วขณะ
สร้อยนี้เป็นสร้อยที่ฉันเคยเห็นเดียวใส่ มันต้องเป็นของเดียวแน่ๆ และถ้าถามว่าทำไมฉันถึงมั่นใจขนาดนั้นก็เพราะว่าบนจี้มันสลักชื่อจริงของเธอเอาไว้ยังไงล่ะ!
‘ดิรัญญา’
จู่ๆ มือฉันมันก็สั่นเทาและมีเหงื่อออกจำนวนมาก หัวใจกระตุกวูบถี่ๆ ให้ความรู้สึกหวิวโหวงแปลกๆ ความคิดในด้านลบกำลังทำงานอย่างหนัก
ไม่ผิดแน่ นี่ต้องเป็นสร้อยคอที่เดียวเคยใส่ แล้วทำไมสร้อยคอของเดียวมันถึงมาอยู่กับอารันได้ ทั้งคู่ไปรู้จักกันตอนไหน
คงไม่ใช่แบบที่ฉันคิดหรอกใช่ไหม…
แกร๊ก!
ในตอนนั้นเองอารันก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องนอนพอดี ฉันรีบหันไปมอง ในมือเขาถือซองเอกสารสีน้ำตาลซึ่งน่าจะเป็นของคุณพ่อ
“แป้ง…” อารันดูตกใจไม่น้อยที่เห็นสีหน้าและท่าทางของฉัน
ฉันค่อยๆ ชูสร้อยของเดียวในมือขึ้นพร้อมกับกับเอ่ยปากถามอารันด้วยน้ำเสียงที่กำลังสั่นเครือ
“สร้อยคอของเดียวมาอยู่กับอารันได้ยังไง”
????
มีใครอยากได้อีกตอนไหมคอมเมนต์ให้ไรท์โหน่ย ถ้าคนรอเยอะจิมาอัปให้อีกค้าบ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขย่มรัก คุณอา
ใช้ภาษาได้โคตรลื่น ไม่เกินจริง มีอารมณ์เลย แต่งเก่งมาก...