@หลายชั่วโมงต่อมา
แกร๊ก~
เสียงประตูบานใหญ่ถูกปลดล็อกเข้ามาจากทางด้านนอกดังขึ้นในช่วงเวลาสี่ทุ่มกว่าๆที่คะนิ้งกำลังนั่งดูทีวีอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น เรียกความสนใจจากเธอให้หันหน้าไปยังต้นทางของเสียงอัตโนมัติ
"สวัสดีค่ะพี่สหรัฐ" เด็กสาวทักทายด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาคือสหรัฐ แต่ก็ยังมีเหมราชและบดินทร์เดินตามหลังเข้ามา เธอเอียงคอมองอย่างสงสัยเมื่อสังเกตเห็นว่าสามหนุ่มแต่งตัวด้วยชุดไปรเวตเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนส์รัดรูปเหมือนกัน
"ไอ้ต้นล่ะ" สหรัฐยิ้มทักทายกลับไป ขณะเดียวกันก็กวาดตามองหาเจ้าของห้อง
"ต้นอยู่ในห้องนอนค่ะ"
"แล้วเรามานั่งทำอะไรตรงนี้ อย่าบอกนะว่าไอ้ต้นมันผีเข้าอีกแล้ว"
"หนูทำให้ต้นโกรธ ตั้งแต่ตอนเย็นต้นก็ไม่คุยกับหนูเลยค่ะ ต้นหนีเข้าไปนอนในห้องคนเดียวเพราะไม่อยากทำร้ายหนูค่ะ"
"ไอ้ต้นมันก็เป็นแบบนี้แหละ ปกติมันไม่ใช่คนขี้โมโหหรอก แต่ถ้าได้โมโหขึ้นมาก็น่ากลัวใช่เล่นเลยนะ" บดินทร์ทำหน้าเห็นใจ แล้วเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา ขณะที่เหมราชเดินเลี่ยงไปหยิบเครื่องดื่มในห้องครัว
แกร๊ก~
"มาถึงก็พูดมากเลยนะพวกมึง" บานประตูห้องนอนเปิดออกมาพอดีในตอนที่สหรัฐตั้งท่าจะเดินไปเปิดเอง ก่อนที่ต้นน้ำที่อยู่ในชุดไปรเวตเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนส์สีเดียวกันจะเดินควงกุญแจรถยนต์ออกมา
"ต้นจะไปไหน" คะนิ้งผลุนผลันลุกขึ้นเดินเข้าไปสวมกอดต้นน้ำไว้แน่น
"มึงไม่ได้บอกน้องเหรอว่าจะไปกินเหล้ากันที่ผับของพัดชา จะไม่ขออนุญาตเมียหน่อยเหรอวะ" บดินทร์ขมวดคิ้วถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
"ต้นจะไปกินเหล้าเหรอ ไหนต้นสัญญากับหนูแล้วไงว่าจะพยายามเลิก" เธอถามหน้าบึ้ง
"เธอเลิกทำงานที่ผับของพัดชาเมื่อไหร่ค่อยมาถามหาคำสัญญาจากฉันก็แล้วกัน"
"แต่วันนี้หนูก็ไม่ได้ไปทำงานนะ"
"คิดว่าฉันไม่เห็นข้อความที่เธอคุยกับพัดชาเหรอ" ต้นน้ำแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ "จะขอให้พัดชาหางานอื่นให้ทำ เธอคิดว่าฉันจะไม่เห็นข้อความพวกนั้นใช่ไหม"
"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ต้นเข้าใจหนูผิด หนูแค่อยากหาเงินใช้เองเฉยๆ แล้วงานนั่งกับลูกค้าหนูก็จะไม่ทำแล้วด้วย"
"เป็นเมียฉันทำไมต้องทำงาน อยู่เฉยๆให้ฉันเลี้ยงอย่างเดียวมันจะตายรึไง"
"แหม กับคนรวยนี่พูดยากจริงๆ" บดินทร์บิดยิ้มล้อเลียนเพื่อนรัก ก่อนจะทำหน้าสงสัยเมื่อบังเอิญเหลือบเห็นรอยสักบนท้องแขนข้างซ้ายของต้นน้ำพอดี "มึงไปสักเพิ่มอีกแล้วเหรอวะ แค่ที่หลังมันยังไม่พอรึไง แล้วนั่นอะไรอีก กรรณิการ์อะไรของมึง"
"ไม่ยุ่งสักเรื่องพวกมึงจะตายไหม" ต้นน้ำชักสีหน้ารำคาญใส่ แล้วดันตัวคะนิ้งออกห่าง ทำเอาเธอหน้าบูดหน้าบึ้งขึ้นมาทันที
"หรืออคิราห์ผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใครจะตกหลุมรักต้นกรรณิการ์ในที่สุด" สหรัฐยิ้มมุมปากอย่างรู้ทันขณะมองรอยสักบนท้องแขนของเพื่อนรัก "เป็นนิทานที่สนุกดีแฮะ แสงอาทิตย์ที่ไม่เคยต้องก้มหัวให้ใครดันมาตกหลุมรักต้นไม้ เหมือนพวกราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ตกหลุมรักเหยื่อของตัวเอง"
"เหมือนจะเคยมีหมาตัวไหนมันเคยแซะกูว่าสักชื่อเมียไว้บนตัวมันไร้สาระ" เหมราชที่ยืนกระดกเบียร์เย็นๆอยู่ในห้องครัวอดไม่ได้ที่จะร่วมวงสนทนา "หึ สักชื่อเมียไว้บนท้องแขน อาการหนักกว่าเพื่อนเลยนะมึงน่ะ"
"เลิกแดกเหล้าแล้วมานั่งจับกลุ่มแซะกูแทนเลยไหม"
"มึงมันก็แค่พวกปากไม่ตรงกับใจ คำพูดหลังตีน การกระทำหน้ามือ"
"ถ้าว่างมายืนแซะกูขนาดนี้กลับบ้านไปดูดนมเมียนอนไหม?"
"เผอิญว่ากูกล่อมเมียหลับแล้วก่อนจะออกมา"
"เดี๋ยวนี้มึงกวนตีนเก่งนะ" เหมราชยักไหล่ไม่ยี่หระ แล้วโยนกระป๋องเบียร์ที่เพิ่งกินหมดใส่ถังขยะข้างๆ ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกไปก่อน
"ฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องเธอนะ"
"ไม่เป็นไร พัดไม่ถือ" ต้นน้ำทำหน้าเอือมระอา ก่อนจะเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา
"น้องคะนิ้งล่ะ ไม่ได้มาด้วยเหรอ ขาดงานแบบนี้สงสัยต้องหักเงินเดือนแล้วมั้งเนี่ย"
"ฉันไม่อนุญาตให้เด็กของฉันทำงานกับเธอแล้ว"
"อะไรนะ?" พัดชาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน "นี่ยอมรับเลี้ยงน้องคะนิ้งแล้วเหรอ"
"เธอก็อยากให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนิ"
"แบบนี้ก็ไม่มีอะไรสนุกๆให้พัดทำแล้วล่ะสิ"
"เล่นชู้กับเพื่อนสนิทก็เป็นเรื่องสนุกที่น่าทำนะ"
"เล่นชู้อะไร คนสวยเลือกได้อย่างพัดไม่ยอมเป็นชู้ใครหรอก" เธอแสยะยิ้มร้ายกาจ แล้วเอนหลังพิงกับเก้าอี้ทำงาน ยกขาไขว่ห้างจนเดรสเกาะอกสั้นร่นขึ้นมาเหนือขาอ่อน
"มาหาพัดเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ"
"เธอรู้เรื่องครอบครัวคะนิ้งไหม"
"ที่แท้ก็มาสืบเรื่องเมีย"
"เธอรู้เรื่องของคะนิ้งมากแค่ไหน" พัดชาทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่ริมฝีปากอวบอิ่มจะบิดยิ้มเล็กน้อย
"ก็...ทุกเรื่อง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กินเด็ก 20+