ไม่รู้ว่าเซี่ยวอวี่เซวียนจะตกลงมาจากข้างบนหรือไม่
เซี่ยวอวี่เซวียนให้ความสำคัญกับขวานผานกู่อย่างมาก
เขาไม่มีทางโยนขวานผานกู่ทิ้งริมแม่น้ำอย่างแน่นอน
นอกจากว่าเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ เช่นเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขวานผานกู่ได้อยู่กับเซี่ยวอวี่เซวียนตั้งแต่ก่อนที่เขาจะหายตัวไป
ทว่าจักรพรรดินีตัวปลอมกลับบอกว่าเขาได้ตายไปแล้ว
ถ้าหากเขาตายไปแล้ว เหตุใดขวานผานกู่ถึงปรากฏขึ้นที่นี่?
จักรพรรดินีตัวปลอมคิดอยากได้ครอบครองขวานผานกู่มาตลอดเลยไม่ใช่หรือ? นางไม่มีทางทิ้งขวานผานกู่ไว้ที่นี่อย่างแน่นอน
มีเพียงทางเดียวคือ เซี่ยวอวี่เซวียนอาจจะยังไม่ตาย เขาได้หนีมาที่นี่และบาดเจ็บสาหัส ฉะนั้นขวานผานกู่ก็เลยปรากฏขึ้นที่นี่โดยบังเอิญ?
เมื่อนึกถึงความน่าจะเป็นนี้ กู้ชูหน่วนก็ไม่สนใจเรื่องที่จะต้องตามเหวินเส่าอี๋กลับบ้านและคิดเพียงพยายามตามหาเซี่ยวอวี่เซวียนให้เจอโดยเร็ว
เพราะกลัวว่าหากช้าไปเพียงก้าวเดียวเขาอาจตกอยู่ในอันตรายได้
กาวกงกงถือเป็นหัวหน้าขันที เขาเดินวนไปมาอย่างร้อนใจและพยายามพูดเกลี้ยกล่อม "ฝ่าบาท ใกล้จะมืดแล้วและพระสวามีก็รอฝ่าบาทอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ หาก...หากยังเสียเวลาอยู่ที่นี่และเมื่อฟ้ามืดลง ถึงตอนนั้นก็จะไม่เป็นฤกษ์มงคลแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ"
"รอให้หาเซี่ยวอวี่เซวียนเจอแล้วค่อยไป"
"ฝ่าบาท ที่นี่ยังมีคนอื่นตามหาอยู่เป็นจำนวนมาก หากหาเจอพวกเขาจะร้องรีบไปรายงานฝ่าบาทแน่นอน เช่นนั้นเรากลับไปก่อน....."
ซี๊ด.....
มีสายตาอันเยือกเย็นกำลังจ้องเขม็ง
กาวกงกงและหลิงเอ๋อร์ไม่กล้าพูดอะไรอีกและทำได้เพียงหุบปากอย่างร้อนรนกระวนกระวายใจ
ไม่รู้ว่าฝูกวงโผล่มาจากไหนและหยิบเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดออกมา "นายท่านดูนี่สิ"
เลือดบนเสื้อผ้าได้แห้งลงและมีรอยขาดเป็นจำนวนมาก
ล้วนแล้วแต่เป็นรอยจากการเสียดสีต้นไม้
กู้ชูหน่วนจำได้ว่าเป็นเสื้อผ้าของเซี่ยวอวี่เซวียน
"ข้าเดาไว้ไม่ผิดว่าเสี่ยวเซวียนเซวียนยังไม่ตาย เขาอยู่ใกล้ๆ ที่นี่ ฝูกวงเจ้าหาเจอมาจากที่ไหนหรือ?"
"ตรงกลางของภูเขาลูกนั้นขอรับ"
"แม่ทัพหลิน ส่งคนไปที่ภูเขาลูกนั้นเพื่อค้นหาและห้ามละเลยแม้แต่หย่อมหญ้าใดๆ ต่อให้ต้องขุดดินให้ลึกลงไป พวกเจ้าก็ต้องตามหาเซี่ยวอวี่เซวียนให้เจอให้ได้"
"พ่ะย่ะค่ะ"
ท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว
ภายในหุบเขาต่างเต็มไปด้วยเสียงร้องตะโกนและคบไฟเพื่อความสว่าง
กู้ชูหน่วนก็ลงมือค้นหาด้วยตัวเอง ทว่ากลับไม่พบเบาะแสเลยแม้แต่นิดเดียว
หลิงเอ๋อร์กล่าว "ฝ่าบาทเพคะ ใกล้ได้เวลาพักผ่อนแล้วนะเพคะ"
"เจ้ามีเวลามีพูดให้ข้าไปพักผ่อน เจ้าเอาเวลานี้ไปช่วยกันออกตามหาจะดีเสียกว่า"
"เพคะ....."
ทุกคนต่างไม่ได้โง่
จากการแสดงออกวันนี้นั้น คุณชายเซี่ยวที่เป็นข่าวลือจะต้องมีความหมายและมีความสำคัญกว่าพระสวามีและเยี่ยกุ้ยเหรินอย่างมากแน่
หากไม่สำคัญฝ่าบาทมีหรือจะละเลยเรื่องสำคัญของรัฐ ละเลยการกลับบ้านกับพระสวามีและลงมือออกค้นหาด้วยตัวเองที่นี่
ดูท่าแล้วพวกเขาจำเป็นต้องตามหาคุณชายเซี่ยวให้เร็วที่สุด
หากสามารถตามหาคุณชายเซี่ยวได้เร็ว ฝ่าบาทจะต้องมอบรางวัลอย่างามให้พวกเขาอย่างแน่นอน
ยิ่งคิดเช่นนั้น
ทุกคนก็ต่างพากันพยายามตามหาอย่างสุดชีวิต
ตำหนักเฟิ่งหลวน
เหวินเส่าอี๋สวมชุดสีขาวและยืนตัวตรงราวกับเทวดาบนสวรรค์ และจากนั้นก็จ้องมองท้องฟ้าที่มิดที่อยู่นอกหน้าต่างเสมือนกับกำลังรออะไร
หนึ่งชั่วยามผ่านไป สองชั่วยามผ่านไป สามชั่วยามผ่านไปจนถึงท้องฟ้ามืดลงก็ไม่เห็นวี่แววของกู้ชูหน่วนปรากฏขึ้นมา
ตั้งแต่งานพิธีอภิเษกสมรสจนถึงวันนี้ นางมาที่ตำหนักของเขาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและไม่เคยได้มาอีกเลย
และวันกลับบ้านวันนี้นางแทบไม่ให้เกียรติเขาเลยสักนิด และทิ้งเขาให้รออยู่ที่นี่
ธรรมเนียมการกลับบ้านฝ่ายชายเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
เขาแต่งงานกับนางก็เพื่อพานางกลับไปยังเผ่าเพลิงฟ้าในวันนี้
แต่วันนี้กลับ....
"ฝ่าบาทยังไม่กลับมาหรือ?"
"อีกไม่นานฝ่าบาทก็กลับมาขอรับ"
ฟ้ามืดแล้ว
ต่อให้กลับมา จะกลับไปที่เผ่าเพลิงฟ้าตอนนี้ก็ไม่เหมาะสมแล้ว?
"ขอรับนายท่าน เช่นนั้นขวานผานกู่ละขอรับ สั่งให้คนแย่งชิงกลับมาเลยหรือไม่ขอรับ"
"ของที่อยู่ในมือของนางมีหรือที่นางจะยอมปล่อยไปง่ายๆ ข้าจะเป็นคนเอาขวานผานกู่กลับมาเอง"
"ขอรับ"
"ยังไม่มีเบาะแสของชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยอีกหรือ?"
"ข้าน้อยรู้สึกผิดอย่างมากที่ตอนนี้ยังไม่สามารถตามหาร่องรอยของหัวหน้าทั้งสองเจอ"
เดิมทีเยี่ยจิ่งงหานไม่ต้องการถามเรื่องประวัติภูมิหลังและความเป็นมาของเหวินเส่าอี๋ แต่เมื่อนึกถึงว่าที่นี่คือดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง ทหารอารักขาเองก็ไม่ได้รายงานและอาจไม่มีเบาะแสอะไร จากนั้นจึงทำได้เพียงโบกมือให้เขาถอยออกไป
พวกเขาล้วนเกิดและเติบโตที่เดินแดนเยี่ยอวี่ มีหรือที่จะค้นหาข้อมูลของพวกเขาอย่างง่ายดายที่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็งแห่งนี้
เมื่อนึกถึงกู้ชูหน่วน ทำให้เยี่ยจิ่งหานรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
เหลือเพียงดวงวิญญาณสามดวง แค่รวบรวมดวงวิญญาณอีกสามดวงให้ครบก็สามารถทำให้อาหน่วนฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้
เหตุใดดวงวิญญาณที่เหลืออีกสามดวงถึงค้นหาได้ยากเย็นแสนเข็ญเช่นนี้
หนึ่งวัน
สองวัน
สามวัน
ผ่านไปแล้วห้าวันก็ยังตามหาเซี่ยวอวี่เซวียนไม่เจอ
เรื่องต่างๆ ในรัฐยังรอให้กู้ชูหน่วนจัดการอีกมากมาย
ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติ แต่ละวันมีผู้คนตายลงนับไม่ถ้วน
รวมถึงเผ่าเพลิงฟ้าก็เอาแต่เร่งรัด
แม้ว่ากู้ชูหน่วนคิดจะพยายามตามหาเซี่ยวอวี่เซวียนต่อไปก็ไม่อาจทำได้
นางเป็นจักรพรรดินีของรัฐปิง ความเป็นความตายของราษฎรทุกคนล้วนตกเป็นภาระหน้าที่ของนาง
เมื่อกลับไปยังวังหลวง
ราชโองการสาส์นที่กราบทูลกองเป็นพะเนินภูเขา
และเมื่อนางอ่านจบเวลาก็ผ่านไปแล้วหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ
หลังจากฝืนออกจากห้องตำราหลวงด้วยรอยคล้ำใต้ตาก็เห็นเหวินเส่าอี๋ยืนอยู่ภายนอกและจ้องมองนางด้วยรอยยิ้ม
เขาเป็นพระสวามีแล้ว แต่เขายังคงสวมชุดเหมือนเก่า ยังคงสวมชุดสีขาว ผมครึ่งหนึ่งของเขาใช้เพียงหยกขาวเสียบไว้และอีกครึ่งหนึ่งก็ปล่อยยาวสยาย เขาโดดเด่นอย่างงดงามและไม่อาจเทียบได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...