"เหวินเส่าอี๋ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?"
"ฝ่าบาทลืมไปแล้วหรือว่าหลังจากงานอภิเษกสมรสจะต้องกลับเผ่าเพลิงฟ้าไปกับกระหม่อม ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วเจ็ดวันเต็มๆ ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะยื้อไปอีกนานแค่ไหน?"
"อ้อใช่ยังไม่ได้กลับเผ่าเพลิงฟ้าเลย งั้นก็กลับวันนี้แล้วกัน"
"เยี่ยจิ่งหานไม่ใช่คนของเผ่าเพลิงฟ้า เขาจะติดตามไปด้วยไม่ได้"
"แต่เขาเป็นคนของข้า ยังไงเขาก็ไปได้"
"พูดเช่นนี้ ฝ่าบาทคิดจะพาเขาไปด้วยแน่นอนใช่หรือไม่?"
แววตาของเหวินเส่าอี๋หรี่ลงและเผยให้เห็นการตักเตือน
แต่ก แต่ก แต่ก....
ไม่ไกลออกไปก็เห็นเยี่ยจิ่งหานสวมชุดสีม่วงนั่งอยู่บนรถเข็นโดยมีขันทีคนหนึ่งเข็นเข้ามา
น้ำเสียงของเขาเย็นชา "ในเมื่อฝ่าบาทตกลงแล้ว เช่นนั้นก็จะปฏิเสธไม่ได้"
เยี่ยจิ่งหานมองไปยังเหวินเส่าอี๋ ทั้งสองจ้องหน้ากันและรัศมีอาฆาตก็แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ
แม้จะรู้ว่าพวกเขาอาจเป็นพี่น้องกัน แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยสักนิด
ทว่ากลับมีเพียงความแค้นที่ฝังลึก
มีเพียงความเป็นความตาย
"เผ่าเพลิงฟ้าไม่ต้อนรับเจ้า"
"เจ้าเป็นเพียงพระสวามีตำแหน่งเล็กๆ เจ้าไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ"
"เจ้าเป็นเพียงกุ้ยเหริน เจ้ากลับไม่แสดงความเคารพเมื่อเห็นข้า"
กู้ชูหน่วนปวดหัว
แค่ต้องการหาที่พักผ่อนเท่านั้นเอง
มีเรื่องมากมายที่ยังจัดการไม่เสร็จ แถมยังต้องพยายามเกลี้ยกล่อมพวกเขาสองคน คิดว่านางไม่เหนื่อยหรือไง?
"มู่หน่วน"
เยี่ยจิ่งหานตะโกนเรียก ทำให้กู้ชูหน่วนดึงสติขึ้นมาได้
"เจ้าจะเลื่อนตำแหน่งให้ข้าไม่ใช่หรือ? รีบเลื่อนขั้นเดี๋ยวนี้ ข้าต้องการเป็นพระสวามี"
"ฝ่าบาท เยี่ยจิ่งหานเป็นเพียงกุ้ยเหริน ทว่ากลับกล้าเรียกชื่อของฝ่าบาทออกมา ตามกฎแล้วต้องได้รับโทษอย่างหนักด้วยการโบยหนึ่งร้อยครั้งและจับไปขังที่ตำหนักเย็น"
"......."
พวกเจ้าทะเลาะกันโดยไม่ดึงข้าเข้าไปเกี่ยวข้องได้หรือไม่?
ข้าเป็นจักรพรรดินีที่ยากจนที่สุดมันง่ายมากเลยหรือ?
ยังไม่ทันที่กู้ชูหน่วนจะพูดอะไร กาวกงกงก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ "เยี่ยกุ้ยเหรินช่างกล้าหาญมาก ท่านกล้าไม่เคารพต่อฝ่าบาท....ปัง.....อ๊า....."
ยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ กาวกงกงก็กระเด็นลอยออกไปกระแทกเข้ากับต้นมะเดื่อและกระอักเลือดออกมา และขยับไม่ได้อยู่นาน
"มีผู้บุกรุก มีผู้บุกรุก ปกป้องจักรพรรดินี"
ทหารอารักขาต่างชักดาบออกมาและพากันคุ้มกันกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ
ทว่าพวกเขาหาอยู่นานก็หาไม่เจอว่าผู้บุกรุกอยู่ที่ไหน?
และยิ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายกาวกงกง
กู้ชูหน่วนกลอกตาและโบกมือ "กาวกงกงอายุมากแล้ว คงแค่ปวดหลัง พวกเจ้าออกไปเถอะ ที่นี่ไม่มีผู้บุกรุก"
ปวด.....
ปวดหลัง?
แค่ปวดหลังก็ทำให้ตัวเองกระเด็นลอยออกไปได้ แถมยังกระแทกไปโดยต้นมะเดื่ออย่างนั้นหรือ?
แม้ว่าทหารอารักขาจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งและทำได้เพียงถอยออกไปคุ้มกันอยู่บริเวณรอบนอก
เหวินเส่าอี๋ยิ้ม "ฝ่าบาท เยี่ยกุ้ยเหรินกระทำผิดและไม่เห็นฝ่าบาทอยู่ในสายตา หากไม่ทำการลงโทษ เกรงว่าวังหลังและรวมถึงรัฐปิงคงไม่ยอมแน่พ่ะย่ะค่ะ"
กู้ชูหน่วนปรบมือและกล่าวอย่างเห็นด้วย "เจ้าพูดมีเหตุผล เช่นนั้นก็ลงโทษเยี่ยกุ้ยจวินเป็นเงินห้าหมื่นตำลึงก็แล้วกัน"
"เลื่อนตำแหน่ง"
เยี่ยจิ่งหานกล่าวออกมาอย่างหลุดปาก รวมกับไม่สนใจเงินจำนวนห้าหมื่นตำลึงนั้นเลยสักนิด
"ก็ได้ เหม่ยเหรินห้าแสนตำลึง จวินจื่อหนึ่งล้านตำลึง กุ้ยจวินสิบล้านตำลึง หวงกุ้ยจวินยี่สิบล้านตำลึง เจ้าต้องการตำแหน่งไหนอย่างนั้นหรือ?"
เยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ต่างมองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างไม่เชื่อสายตา
นางยากจนจนเสียสติไปแล้วหรือไง?
ขายตำแหน่งขุนนางไม่พอ แม้แต่ตำแหน่งสนมในวังหลังก็หยิบยกมาขายด้วย?
และที่สำคัญก็คือนางบอกราคาสูงเช่นนี้ คิดว่าพวกเขาโง่อย่างนั้นหรือ?
ไม่ คิดว่าเยี่ยจิ่งหานโง่อย่างนั้นหรือ
เยี่ยจิ่งหานกัดฟันกรอด "ข้าต้องการตำแหน่งพระสวามี"
"พระสวามีหรือ เอ่อ.....เอ่อ.....เหวินเส่าอี๋ ในฐานะที่เจ้าเป็นพระสวามี ทว่าเจ้ากลับไม่ได้ทำหน้าที่พระสวามี แต่งงานมาได้สิบวันแล้วแต่ก็ไม่เคยเห็นเจ้ามาคอยปรนนิบัติข้า เจ้าเป็นพระสวามีที่ไม่ได้ความเอาเสียเลย"
เหวินเส่าอี๋ "......."
ผู้หญิงคนนี้ ได้เป็นจักรพรรดินีแค่สมองกลับไม่ได้ฉลาดขึ้นเลยหรือ?
เหวินเส่าอี๋ไปขวางทางกู้ชูหน่วน
"ฝ่าบาท แม้ว่าเผ่าเพลิงฟ้าของกระหม่อมในดินแดนวิญญาณเยือกแข็งจะมีเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ทว่าก็ถือเป็นเผ่าที่มีประวัติความเป็นมากว่าพันปีและมีอำนาจกว้างขวาง อีกทั้งทรัพย์สมบัติก็มีมากมาย ยอดฝีมือก็มีเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน หากฝ่าบาทจะยกเลิกตำแหน่งพระสวามีของกระหม่อม ฝ่าบาทคิดว่าพี่น้องในเผ่าเพลิงฟ้าของกระหม่อมจะยอมอย่างนั้นหรือ"
กู้ชูหน่วนฝืนยิ้ม
"ความผิดของเจ้ามีเพียงน้อยนิดเท่านั้น ข้าจะยกเลิกได้อย่างไร ไม่ยกเลิกๆ"
เหวินเส่าอี๋น้ำเสียงเย็นชาและดูนางแสดงต่อไป
เยี่ยจิ่งหานกล่าวอย่างเกียจคร้าน "ฝ่าบาท เช่นนั้นแล้วตำแหน่งของข้าล่ะ"
"เงิน นำเงินมาซื้อ ขอเพียงแค่ราคาสมเหตุสมผลเรื่องทั้งหมดก็จะง่ายขึ้น"
"เช่นนั้นฝ่าบาทก็บอกราคามาเลย กระหม่อมต้องการแค่ตำแหน่งพระสวามี"
สองคนนี้บ้าไปแล้วหรือไง
ปกติก็ไม่เห็นพวกเขาจะอยากได้ตำแหน่งพระสวามีอะไรนี่เลย
และไม่เห็นว่าพวกเขาจะชอบนางสักเท่าไร
ทว่าตอนนี้กลับทะเลาะกันเรื่องตำแหน่งพระสวามี
จะมีปัญหากับเยี่ยจิ่งหานไม่ได้
แต่เหวินเส่าอี๋ก็มีปัญหาด้วยไม่ได้
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ในเมื่อเจ้าพูดมาเช่นนี้ หากข้าไม่บอกเป็นตัวเลขออกมา เกรงว่าเจ้าคงไม่พอใจ เอาเช่นนี้ ข้าไม่ได้ต้องการมากมายอะไร ข้าต้องการเพียงห้าสิบล้านตำลึงเท่านั้น"
ตำแหน่งพระสวามี ห้าสิบล้านตำลึง?
เหตุใดนางถึงไม่ไปเป็นโจร?
ห้าสิบล้านตำลึงสามารถซื้อเมืองได้ตั้งกี่เมือง?
กู้ชูหน่วนกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจจึงรีบพูดขึ้นมา "ตำแหน่งพระสวามีน่ะหรือ เป็นผู้นำของคนนับหมื่น มีหลายคนต่างต้องการแต่ไม่อาจได้ครอบครอง แค่เงินห้าสิบล้านตำลึง สำหรับเจ้าแล้วก็ไม่ได้มากมายอะไร หากเจ้าไม่ต้องการ ยังมีคนอื่นอีกมากมายที่ต้องการจ่ายด้วยเงินห้าสิบล้านตำลึงเพื่อแลกกับตำแหน่งพระสวามี"
เยี่ยจิ่งหานกล่าว "แค่เงินห้าสิบล้านตำลึง?"
แค่?
"ไม่ถูกหรือ ใครๆ ก็รู้ว่าเสี่ยวเยี่ยเยี่ยเป็นถึงเทพแห่งสงครามที่ไม่อาจเทียบได้ในรัฐเยี่ย แถมยังเป็นท่านอ๋อง จากฐานะของเจ้าแล้ว ห้าสิบล้านตำลึงที่ข้าพูดไปยังน้อยไปสำหรับเจ้าด้วยซ้ำ"
เยี่ยจิ่งหานหัวเราะ
"ฮึ ฝ่าบาทช่างรู้จักชมเชยคนอื่นเหลือเกิน"
เหวินเส่าอี๋หรี่ตาลงและกล่าว
"เขาใช้เงินห้าสิบล้านตำลึงเพื่อซื้อตำแหน่งพระสวามี เช่นนั้นแล้วกระหม่อมล่ะ ไม่ทราบว่าฝ่าบาทคิดจะทำอย่างไรกับกระหม่อมอย่างนั้นหรือ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...