เฉียนเสี่ยวหลินที่แอบเดินตามเว่ยจื้อโหยวมาตั้งแต่นางและน้องทั้งสองคนเดินออกมาจากบ้านตระกูลเหลียน พอมาถึงในจุดที่ลับตาคนเฉียนเสี่ยวหลินถึงได้เดินออกมาขวางหน้าทั้งสามคนเอาไว้
“เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไรกับข้า เหตุใดถึงมาขวางหน้าข้าเอาไว้” เว่ยจื้อโหยวถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“ข้าเป็นใครอย่างนั้นหรือ ข้าก็คือคนที่ถูกเจ้าแย่งสามีไปเช่นไรเล่า” เฉียนเสี่ยวหลิน
“ห้ะ!!! ข้านี่นะแย่งสามีเจ้า ข้าไปแย่งสามีเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่รึ แล้วสามีเจ้าที่ว่ามานี่คือผู้ใดหรือ”
“เจ้าแย่งท่านพี่เซียวไปจากข้า เป็นเพราะเจ้า ยายของเจ้ายัดเยียดเจ้าให้พี่เซียว ทั้ง ๆ ที่ท่านพ่อเกือบจะยอมให้ข้าแต่งให้พี่เซียวอยู่แล้วแท้ ๆ มันเป็นเพราะเจ้านางจิ้งจอก”
“แม่นางเสี่ยวหลิน พี่ใหญ่ของข้าไปเป็นสามีของท่านตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ เท่าที่พวกเราพี่น้องจำได้ พี่ใหญ่ของข้าไม่เคยพูดจากับท่านเลยสักครั้ง ถึงแม้ท่านจะเล่นลูกไม้เล่นหูเล่นตาอย่างไรพี่ใหญ่ของพวกเราก็ไม่เคยชายตามองท่านแท้ ๆ แต่มาวันนี้ท่านกล้ามาบอกว่าพี่ใหญ่ของข้าไปเป็นสามีท่าน อีกทั้งท่านยังมาพูดจาไม่ดีกับพี่สะใภ้ของข้า มันไม่มากไปหน่อยหรือ นี่ท่านอยากได้สามีคนอื่นจนตัวสั่นมากมายเพียงนี้ ท่านถามพี่ใหญ่ของข้าหรือยังว่าเขายินดีรับท่านเป็นภรรยาหรือไม่ เท่าที่จำได้สำหรับพวกเราสามพี่น้อง คนแซ่เฉียนคือสิ่งที่ต้องหลีกหนี แล้วเช่นนี้ท่านคิดว่าพี่ใหญ่ของข้าจะยินดีแต่งให้ท่านหรือ” อวิ๋นเฟยโกรธจนหน้าดำเป็นตับหมูพูดออกมายาวเหยียด
“หุบปากนางเด็กเหลือขอ ใครให้แกพูด ระวังตัวเอาไว้เถอะข้าจะให้ท่านป้าไปจัดการกับเจ้า”
“อ๋อ ชอบสามีข้า คิดเองเออเองว่าสามีข้าชอบเจ้า เจ้าชื่ออะไรนะ เฉียนเสี่ยวหลินใช่หรือไม่ คนแซ่เฉียนเช่นพวกเจ้านี่หน้าหนาดีจริง ๆ อย่าบอกนะว่าป้าสะใภ้มหาภัยนั่นเป็นญาติของเจ้า มิน่าล่ะ จิ๊ จิ๊ ร้ายไม่เบา ทั้งหน้าหนา หน้าด้าน คิดเอง เออเอง เหมือนกันไม่ผิด เจ้าทำแบบนี้พ่อแม่เจ้ารู้หรือไม่ เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร ไปคุยกันที่บ้านของเจ้าดีหรือไม่ ข้าจะได้ถามพ่อแม่ของเจ้าไปเสียทีเดียว ว่าข้าไปแย่งสามีลูกสาวของพวกเขาเมื่อไหร่กัน ลูกสาวของพวกเขาถึงได้มาเที่ยวป่าวประกาศเช่นนี้ การที่เจ้าพูดเช่นนี้นอกจากเป็นการดูหมิ่นข้าแล้ว ยังทำให้ข้าได้รับความอับอาย เสียชื่อเสียง ข้าอยากจะรู้ว่าพ่อแม่ของเจ้ารู้หรือไม่ว่าลูกสาวทำตัวเช่นนี้”
“พี่สะใภ้ไม่ต้องไปฟังนางหรอกเจ้าค่ะ นางชอบพี่ใหญ่ นางพยายามทำทุกอย่างแต่พี่ใหญ่ไม่เคยชายตาแลนางเลยสักครั้ง นี่นางเห็นว่าพี่ใหญ่ไม่อยู่ เลยจะมากลั่นแกล้งรังแกท่านเพียงเท่านั้น”
“หุบปาก นังเด็กเหลือขอ ใครให้เจ้าพูด หากยังไม่หยุดพูดคอยดูเถิดว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร”
“เจ้าน่ะสิ ต้องหุบปาก กล้าดีอย่างไรถึงมาด่าน้องสามีข้า ทำอะไรให้มันมีสำนึกในใจบ้าง ถ้าหากเจ้าเป็นหญิงคนรักของสามีข้าก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เท่าที่ฟังมาสามีของข้าไม่เคยพูดจากับเจ้าแม้แต่ครึ่งคำ พอเขาแต่งข้าเข้าบ้านเจ้ากลับมากล่าวหาว่าเป็นเพราะข้าไปแย่งเขามา เป็นเพราะท่านยายของข้าชิงตัดหน้ายกข้าให้แต่งงานกับเขา เจ้าไม่พอใจไม่ว่า เหตุใดไม่มาพูดตอนสามีของข้าอยู่บ้านเล่า เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ข้าจะไปถามพ่อแม่ของเจ้าดูว่าข้าไปตัดเส้นด้ายแดงของลูกสาวของพวกเขาจริงหรือไม่”
“เจ้า… เจ้า .. นางจิ้งจอกพ่อแม่ข้าเกี่ยวอันใดด้วย”
“เกี่ยวที่เป็นบุพการีของเจ้าเช่นไรล่ะ กฎหมายบ้านเมืองระบุว่าการยุ่งเกี่ยวกับสามีหรือภรรยาของผู้อื่นมีความผิดร้ายแรง เอาเช่นนี้เป็นเช่นไร ข้าจะเดินทางเข้าไปแจ้งความกับทางการ ว่าเจ้า แม่นางเฉียนเสี่ยวหลิน พูดจาให้ร้ายข้าและสามีอีกทั้งพยายามยัดเยียดตัวเองให้กับสามีผู้อื่นทั้ง ๆ ที่เขาไม่เต็มใจ”
“เจ้ากล้าหรือ”
“มีอะไรไม่กล้า ข้าไม่ได้อยากได้สามีคนอื่นจนตัวสั่น จริงอยู่ว่าบุรุษสามารถมีภรรยาได้หลายคน แต่นั่นขึ้นอยู่กับว่าบุรุษผู้นั้นมีความพึงใจต่อหญิงสาวและยอมรับในตัวนางและหญิงสาวนางนั้นจะต้องไม่ใช่หญิงที่แต่งงานมีสามีแล้วเช่นเดียวกัน แต่นี่เขาไม่เคยแม้กระทั่งจะเอ่ยปากพูดกับเจ้า แต่เจ้ากลับมากล่าวหาว่าสามีของข้าเป็นสามีของเจ้า ไม่เท่ากับเจ้าใส่ร้ายเขาหรือ เจ้าหาว่าข้าไปแย่งสามีของเจ้าหรือ แบบนี้เท่ากับใส่ความข้า ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนี้ ข้าจะแจ้งความ”
เฉียนเสี่ยวหลินแต่เดิมทีตั้งใจจะมาระบายอารมณ์ใส่เว่ยจื้อโหยว แต่กลับเป็นนางเสียเองที่ถูกเว่ยจื้อโหยวต่อว่าจนนางไม่สามารถหาข้อโต้แย้งใดมาหักล้างคำพูดของเว่ยจื้อโหยวได้อีก
ทั้งยังมีน้องทั้งสองคนของอวิ๋นเซียวอยู่ด้วย น้องชายอย่างอวิ๋นซวนก็แล้วไปเถอะ แต่น้องสาวอย่างอวิ๋นเฟยนั้นได้พูดในสิ่งที่แทงใจนางอย่างมาก อวิ๋นเซียวไม่เคยชายตาแลนางเลยสักครั้งจริง ๆ
นางอยากให้ท่านป้าของนางซึ่งเป็นป้าสะใภ้ของเขา บีบบังคับให้เขาแต่งให้นางแต่ป้าของนางไม่ให้ความร่วมมือด้วย นางยังจะทำอะไรได้อีก อีกไม่นานนางจะต้องแต่งออกไปแล้วนางจึงอยากใช้เวลาช่วงสุดท้ายในหมู่บ้านนี้ ระบายความแค้นใจที่นางมี แต่ไหนเลยจะได้ระบายความคับแค้นใจ ไม่ได้ระบายอารมณ์ยังไม่พอแต่กลับต้องถูกเว่ยจื้อโหยวและอวิ๋นเฟยต่อว่ากลับ แถมนางยังจะไปแจ้งความกับทางการอีก นอกจากจะไม่ได้ระบายความคับแค้นใจแล้ว นางยังกลายเป็นคนมีความผิดติดตัวข้อหายุ่งเกี่ยวกับสามีชาวบ้านโดยที่ฝ่ายชายไม่ยินยอมอีกด้วย
“อ๊ายยยยยยยยยยยย กรี๊ดดดดดดด ฝากไว้ก่อนเถอะนังจิ้งจอก”
“เจ้าน่ะสินังจิ้งจอก ข้าไม่รับฝาก”
เฉียนเสี่ยวหลินวิ่งหนีไปทิ้งให้ทั้งสามคนยืนอยู่กลางหมู่บ้าน เรื่องที่เฉียนเสี่ยวหลินมาดักต่อว่าเว่ยจื้อโหยวนั้นมีชาวบ้านพบเห็นไม่น้อย ในเวลาไม่นานข่าวที่ลูกสาวบ้านเฉียนด่าทอภรรยาอวิ๋นเซียวหาว่านางแย่งสามีก็กระจายไปทั่วหมู่บ้าน สร้างความอับอายให้กับคนบ้านเฉียนไม่น้อย
ด้วยเหตุนี้เฉียนไห่กวนผู้เป็นบิดาทั้งโมโหทั้งอับอายที่ลูกสาวบ้านตัวเองก่อเรื่องขึ้น สามวันต่อมาเขาจึงส่งนางแต่งงานออกไปกับพ่อค้าขายหมูในเมือง
“หมดเรื่องแล้วกลับบ้านกันเถอะขอรับ ข้าตกใจแทบแย่นึกว่านางจะพุ่งเข้าใส่พี่สะใภ้เสียแล้ว”
“นั่นสิเจ้าคะ น่ากลัวจริง ๆ แต่พี่สะใภ้เก่งมากเจ้าค่ะ สามารถทำให้นางพูดไม่ออกมาถึงเพียงนี้ได้”
“พี่สะใภ้ของเจ้าย่อมเก่งกาจอยู่แล้ว เจ้าวางใจได้ ไม่มีใครสามารถทำอันใดข้าผู้นี้ได้หรอก ข้าหาใช่ลูกพลับนิ่มให้ผู้อื่นมารังแกได้ง่าย ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย